อาคารผู้โดยสารใหม่ SAT-1 สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดใช้ 2565
อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 SAT-1

บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เตรียมเปิด อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในปี 2565 ที่จะถึงนี้
อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส2 ปีงบประมาณ 2554-2560 วงเงินลงทุนกว่า 39,760 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร จากเดิม 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี อีกทั้งยังบรรเทาความแออัดของผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
ในส่วนของการก่อสร้าง ขณะนี้โครงสร้างอาคารสร้างเสร็จแล้ว 100% และกำลังติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM) ซึ่งคืบหน้าไปแล้ว 84.69% ในส่วนของตกแต่งภายใน กำลังดำเนินการตามส่วนต่างๆ
สำหรับกลุ่มงานการพัฒนาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
- งานออกแบบและก่อสร้างงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และลานจอดประชิดอาคาร
- งานออกแบบและก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้และระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM)


สำหรับ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ตั้งอยู่ในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีลักษณะเป็นอาคาร 4 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 216,000 ตร.ม. มีจำนวนประตูทางออกที่เชื่อมต่อกับหลุมจอดประชิดอาคาร 28 หลุมจอด สามารถจอดอากาศยานขนาด CODE F เช่น A380 ได้ 8 หลุมจอด และอากาศยานขนาด CODE E เช่น Boeing 747 ได้ 20 หลุมจอด
สำหรับตัวโครงการได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2559 ด้วยงบประมาณกว่า 39,760 ลบ. โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้างอยู่ที่ 67 เดือน คาดว่าจะเสร็จในปี 2565 สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาคือ
- เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร จากเดิม 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี
- เพื่อบรรเทาความแออัดของผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
ที่มา : AOT
DESIGN CONCEPT



รูปแบบ Concept ของตัวอาคารจะเน้นดีไซน์ที่เข้ากับตัวอาคารเดิม โดยที่เพิ่มความเป็นไทยเข้าไป ซึ่งแบ่งออกดังนี้
- ฝ้า – จะใช้ลายจักสานและลายผ้าไหมบริเวณฝ้าของตัวอาคาร โดยจะใช้ Pattern และ ลายเส้น
- เสา – สำหรับจะใช้รูปแบบของตัวค้ำยันและใช้รูปทรงของพญานาค
- ผนัง – จะใช้เป็นตัว Pattern ของลายกระเบื้องศิลาดล
SUSTAINABLE DESIGN
นอกจากนี้แล้ว ทางโครงการยังชูในเรื่องของ Sustainable Design ไว้ดังต่อไปนี้
- อาคารประหยัดพลังงาน
- ใช้แสงธรรมชาติลดการเปิดไฟ
- ติดอุปกรณ์กันความร้อน
- 4. นำน้ำเสียกลับมาใช้
- 5. ใช้ Solar Cell ช่วยลดการใช้พลังงาน
- 6. ลดการสร้างมลพิษสู่ภายนอก


ที่มา : AOT
ผังอาคาร
อาคารเทียบเครื่องบินรองมีลักษณะเป็นอาคาร 4 ชั้น พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 216,000 ตารางเมตร โดยแบ่งชั้นดังนี้
- ชั้น B2 : สถานีขนส่งผู้โดยสาร (APM Station)
- ชั้น B1 : ชั้นลำเลียงกระเป๋าและสัมภาระ (Baggage Handling)
- ชั้น GF : ชั้นลานจอดเครื่องบิน (Apron Level) โดยชั้นนี้เป็นชั้นที่มีรถบัสรับ-ส่ง, มีโถงพักคอย และ Office ของเจ้าหน้าที่
- ชั้น 2 : ชั้นผู้โดยสารขาเข้า (Arrival Level)
- ชั้น 3 : ชั้นผู้โดยสารขาออก (Departure Level)
- ชั้น 4 : ชั้นบริการผู้โดยสารพิเศษ (VIP Lounges Level)
ชั้น B2


ชั้น B1


ชั้น GF




ชั้น 2




ชั้น 3



ชั้น 4


1.4 สิ่งอำนวยความสะดวก
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารสามารถแบ่งออกตามหมวดหมู่ดังต่อไปนี้
- 1. ส่วนที่นั่งพักคอย : Open Gate ออกแบบได้ตามมาตรฐานสากล ส่วนเข้าแถวรอกว้างและ สะดวกสบาย
- 2. ห้องน้ำผู้โดยสาร : จัดสรรให้เพียงพอตามมาตรฐานสากล รองรับผู้โดยสารที่มาใช้พร้อมๆกัน จำนวนมากและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- 3. โถงพักคอยผู้โดยสารรถบัส : ออกแบบเผื่อการขยายในอนาคต จอดเทียบรถรับส่งได้สะดวก อีกทั้งสร้างบรรยากาศให้มีบรรยากาศดี มองเห็นวิว และสวนภายใน
- 4. พื้นที่ร้านค้าและสันทนาการ : ร้านค้าอยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัด ผู้โดยสารเดินผ่านตลอดเวลา มีผู้เชี่ยวชาญในทีมให้คำปรึกษา
- 5. พื้นที่บริการผู้โดยสารพิเศษ / SKY LOUNGE : มองเห็นได้ชัด ขึ้นมาใช้ได้สะดวก มีที่นั่งพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวและสามารถชมวิวสนามบินได้
ที่พักคอย


ห้องน้ำผู้โดยสาร


โถงผู้โดยสารรถบัส

พื้นที่ร้านค้าและสันทนาการ


SKY LOUNGE


1.5 เส้นทางสัญจรของผู้โดยสาร
ขาเข้าและขาออก


เส้นทางสัญจรผู้โดยสารขาออก
1. จากสถานีรถ APM
2. ขึ้นบันไดเลื่อน
3. มายังพื้นที่โถงผู้โดยสารขาออก
4. เดินตามทางเดิน / ทางเลื่อน
5. ไปยังที่พักคอยผู้โดยสาร / โถงพักคอย ผู้โดยสารรถบัส
เส้นทางสัญจรผู้โดยสารขาเข้า
1. จากสะพานเทียบเครื่องบิน / โถงรับ ผู้โดยสารรถบัสขาเข้า
2. เดินตามทางเดิน / ทางเลื่อน
3. มายังพื้นที่โถงผู้โดยสารขาเข้า
4. ลงบันไดเลื่อน / ไปยังจุดผู้โดยสาร เปลี่ยนเครื่อง
5. ขึ้นรถ APM เพื่อไปยัง อาคาร ผู้โดยสารหลัก
เปลี่ยนเครื่อง


เส้นทางสัญจรผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่อง
1. จากสะพานเทียบเครื่องบิน
2. เดินตามทางเดิน / ทางเลื่อน
3. มายังพื้นที่โถงผู้โดยสารขาออก
4. เข้ามายังพื้นตรวจค้น / ติดต่อที่เคาท์ เตอร์สายการบิน
5. ขึ้นบันไดเลื่อนมายังชั้นผู้โดยสารขาออก
6. ไปยังที่พักคอยผู้โดยสารขาออกเพื่อทำการขึ้นเครื่องบินต่อไป


ระบบขนส่งผู้โดยสาร หรือ Automated People Mover (APM) เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับแห่งแรกของไทย ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 210 คนต่อขบวน ซึ่งจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้มากถึง 3,590 คนต่อชั่วโมงต่อเที่ยว โดยจุดประสงค์หลักของ APM คือเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังไม่กีดขวางกิจกรรมบนทางขับและลานจอดอากาศยาน
ในส่วนของการก่อสร้าง เดิมมีการก่อสร้างอุโมงค์ไว้แล้ว 812 ม. และมีการสร้างต่อเติมอีก 700 ม. รวมถึงติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM) เชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะใช้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ให้เพียงพอต่อความต้องการ
ที่มา : AOT, Interlink
อัพเดทความคืบหน้า APM
ความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของอุโมงค์เชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100 % ขณะนี้กำลังดำเนินการในส่วนงานติดตั้งงานระบบ APM ซึ่งคืบหน้าไปแล้ว 84.69%




สำหรับความคืบหน้าล่าสุดคือ ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ภายนอก) และ ลานจอดประชิดอาคาร เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100%
สำหรับงานออกแบบภายใน ขณะนี้กำลังทำตามส่วนต่างๆ ทั้งที่นั่งพักคอย, โถงพักคอยรสบัส, พื้นที่ร้านค้าและสันทนาการ, Sky Lounge, ห้องน้ำผู้โดยสาร และอื่นๆ คาดว่าพร้อมเปิดใช้บริการปี 65 นี้
ที่มา : AOT
ภายนอกอาคาร



ภายในอาคาร





