Baan Issara Bangna
"ธรรมชาติล้อมบ้าน" บ้านเดี่ยวหรูหราแบบมี taste หนึ่งเดียวในบางนา
บ้านอิสสระ บางนา โครงการที่มาพร้อมกับการออกแบบเพื่อสร้างความน่าอยู่ในสภาวะน่าสบาย บนความหรูหรา ของแบบบ้านเดี่ยวระดับ Luxury จาก บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บนพื้นที่ส่วนตัวในโครงการขนาด 24-3-74 ไร่ และมีเพียง 44 ยูนิตเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้พัฒนาได้ออกแบบลงไปในรายละเอียด เพื่อตอบรับกับผู้อยู่อาศัย เริ่มเปิดขายเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา ราคาเริ่มต้น 38 ลบ.
เราจึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่น่าสนใจของโครงการ บ้านอิสสระ บางนา มารวมไว้ ตามเนื้อหาด้านล่างต่อจากนี้ครับ
Fact
Project Name: BAAN ISSARA BANGNA
Developer: CHARN ISSARA
Concept: Modern Contemporary style Single Detached House
Location: ทางคู่ขนาน ถ.กาญจนาภิเษก (บางนา กม.8)
Land Area: 24-3-74 Rais
Total Unit: 44 Units
Land Size: 100–238 sq. wah
Usable Area: 345- 697 sq. m.
Starting Price: 38 MB
Project Type: Single Detached House
Architect: Architect 49 Co., Ltd. (A49)
Engineer: Architectural Engineering 49 Limited (AE49)
Engineering: M & E Engineering 49 Limited (ME49)
Interior Design: Chemistri Design Limited
Facilities: Clubhouse, Fitness, Swimming Pool, Amphitheater, Meeting Room, Jogging Track, Private Garden, Access control, 24-hour Security
Expected Completion : Q1, 2021
Common Expense : Sinking Fund 2,500 baht/sq.wah
Common Fee 120 baht/sq.wah/month
ใจกลางสิ่งอำนวยความสะดวก ย่านบางนา
-
มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรอบโครงการ อาทิเช่น เมกาบางนา, ซีคอนสแควร์, โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา, มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขา 2, ร.พ.ปิยะมินทร์, ร.พ.ศิครินทร์, ร.พ.ไทยนครินทร์ เป็นต้น สำหรับคุณผู้ชายที่ชอบเล่นกีฬากอล์ฟ โดยรอบโครงการมี กอล์ฟคลับ หลายแห่ง เช่น เมืองแก้วกอล์ฟคลับ, วินด์มิลล์ กอล์ฟคลับ, กรีนวัลเล่ย์ คันทรี คลับ เป็นต้น
- การเดินทางเข้าเมือง สามารถใช้เส้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ได้ง่ายมากครับ หรือ หากไม่อยากใช้รถ สามารถไปต่อบีทีเอสที่ใกล้ที่สุดได้ เช่น สถานีทับช้าง หรือสถานี อุดมสุข ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มาถึงแยก ถนนศรีนครินทร์ บางนาตราด คือ สถานีศรีเอี่ยม
มีซอยลัดออกบางนา สะดวกกว่ากลับรถตรงกาญจนาฯ
- เนื่องจากโครงการติดทางพิเศษ วงแหวนตะวันออก การกลับรถเพื่อเข้าเมืองสามารถใช้เส้นทางกลับรถลอดใต้ถนนกาญจนาภิเษก หรือสามารถใช้เส้นทางลัด ซอยรามคำแหง 2 เพื่อไปยังถนนบางนาตราดได้
- การเดินทางเข้าเมืองยังสามารถไปทางอื่นได้ จากทางเข้า-ออกโครงการ วิ่งเลียบถนนกาญจนาภิเษก ตรงไปจะมีที่กลับรถใต้สะพานอ่อนนุช สามารถเดินทางเข้าสู่มอเตอร์เวย์ ไปยังถนนพระราม 9 เพื่อเข้าเมืองได้
บริบทโครงการที่ลงตัว
- ออกแบบเส้นทางถนนในโครงการ มีความกว้างตลอดแนว 12 เมตรและไม่มีทางตัน ทำให้การสัญจรได้ง่ายภายในโครงการ
- การวางแนวบ้านด้านยาวให้หันรับทิศเหนือ กับทิศใต้ ช่วยในเรื่องของการรับลม รวมไปถึงทำให้บ้านไม่ร้อนจากแสงแดดในทิศตะวันออกและตะวันตก
- ระยะความลึกของโครงการ ประมาณ 200 เมตร ซึ่งเดินไม่ไกลจาก Clubhouse รวมถึงมีการแบ่งเส้นทางเดิน 1 เมตร 2 ฝั่ง และทางวิ่งอีก 1 เมตร รอบโครงการ
- มีสวนหน้าโครงการทำให้เป็นบัฟเฟอร์ ที่ป้องกันเสียงหรือฝุ่นละอองจากการสัญจรของถนนด้านหน้าโครงการได้เป็นอย่างดี
- จัดสายไฟฟ้าลงดินทั้งโครงการ
ครบครันกับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวก กว่า 1,000 ตร.ม. ที่โครงการบ้านอิสสระบางนาจัดให้ ประกอบไปด้วย Clubhouse, สระว่ายน้ำส่วนกลาง ความยาวถึง 30 เมตร กว้าง 7 เมตร, Fitness, Kid's room, Multi-purpose room, Amphitheater และ Playground
บ้านดี...มี Concept สไตล์ Tropical
ทางสถาปนิกได้ตั้งแนวความคิดในการออกแบบ เป็น บ้านเขตร้อนสมัยใหม่ ซึ่งในแนวความคิดนี้ได้คำนึงถึงสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมกับเขตร้อน อย่างประเทศไทย และเป็นรูปแบบบ้านที่มีลักษณะสวยงามและเข้ากับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ หัวใจหลักของงานออกแบบที่ทำให้เกิด สภาวะน่าสบาย ประกอบไปด้วย
ลดความร้อนด้วยแนวคิด ระเบียงล้อมบ้าน
จุดเด่นเรื่องการกันความร้อนจากแสงแดด ที่ถูกออกแบบไว้ 2 เรื่อง คือการทำชายคาที่ยื่นออกมา 1.2 เมตร เพื่อเป็นการบังแดดจากด้านบนของตัวบ้าน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบในแนวคิด ไม้ซุง ที่เป็นระแนงไม้ล้อมรอบตัวบ้านในส่วนของระเบียงที่ยื่นออกมาจากพื้นที่ใช้สอยภายใน ทำให้ลดความร้อนจากด้านข้างได้ดีและยังรับแสงธรรมชาติได้
การวางทิศทางของบ้าน ตอบโจทย์เรื่องพลังงานธรรมชาติ
ตัวบ้านมีการจัดวางฟังค์ชั่นภายในบ้านให้มีทิศทางตอบรับกับบริบทรอบต้วบ้าน ได้แก่ การจัดวางหน้าต่างหรือประตู 2 ด้านให้สามารถช่วยในการระบายอากาศภายในบ้าน และ การออกแบบความสูงกระจกให้สูงถึงฝ้าเพื่อช่วยในเรื่องของการเข้าถึงของแสงธรรมชาติเข้าในบ้าน โดยมีการออกแบบ High-Ceiling ความสูงพื้นถึงฝ้า 3.20 เมตร ในชั้น Living and Dining และในชั้นห้องนอน พื้นที่ถึงฝ้าสูง 2.9 เมตร
การใช้พื้นที่หลังคาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การออกแบบพื้นที่หลังคามีจุดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่นๆ โดย ทำหลังคาเพื่อรองรับพื้นที่วาง Solar cell โดยมีให้บ้านทุกหลัง ให้พลังงาน 3,000 Watt หรือ 15 ยูนิตต่อวัน ต่อการรับแสงอาทิตย์ 5 ชั่วโมง สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 1,500 - 1,600 บาท/เดือน และยังมีการเจาะช่องแสงให้ห้องน้ำ Master Bathroom เพื่อให้มีแสงเข้า เป็นการลดการใช้ไฟฟ้าในห้องน้ำได้และเพิ่มความสวยงามไปในตัว
เปรียบเทียบรูปแบบบ้านอื่นๆ ในโครงการ
ข้อสังเกตง่ายๆกับความแตกต่างของการออกแบบบ้านทั้ง 4 แบบ
หากเรียงลำดับพื้นที่บ้านคือ บ้าน Abelia มีขนาดที่ใหญ่ที่สุด
รองลงมาเป็นบ้าน Bellis เป็นการลดพื้นที่ห้องนอนลง เพื่อตอบรับกับจำนวนสมาชิกที่น้อยกว่าแบบแรก
ส่วนแบบบ้าน Calla เป็นการลดชั้นของแบบบ้าน Bellis ลงมาอีกทีแต่ยังคงจำนวนห้องนอนเท่าเดิม ตัดออกเฉพาะห้อง Family room
บ้านหลังเล็กสุดคือ Davidia ย่อส่วนมาจากบ้าน Calla อีกทีหนึ่ง เนื่องจาก Function ในหลายจุดลดขนาด เช่น Master Bathroom, Walk-in Closet, Living room เป็นต้น สามารถเปรียบเทียบได้จากผังบ้านในส่วนถัดไปครับ
ข้อได้เปรียบของบ้านหลัง Abelia และ Bellis เรื่องพื้นที่ใช้สอยที่ดูลงตัว และสามารถขยับขยายได้มากกว่าแบบบ้านหลังอีกๆ เช่น การมีห้อง Prayer สามารถที่จะตีผนังทำเป็นห้องใช้งานอื่นๆได้ เป็นต้น
เจาะลึกแบบบ้านหลังใหญ่ Abelia
บ้าน Type นี้มีขนาดใหญ่สุดในโครงการคือ 697 ตร.ม. บนพื้นที่ดินขนาด 132 – 238 ตร.วา การแบ่ง Zoning ของตัวบ้าน จัดมาได้เป็นอย่างดี เป็นตัวท๊อปของโครงการที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุด คือ 18 หลัง คิดเป็น 40% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดของโครงการ
1st Floor
เริ่มต้นจากทางเข้าบ้าน ผ่านทางโรงจอดรถ หรือผ่านทางสวนหน้าบ้านก็ได้ ความกว้างและความยาวของพื้นที่จอดรถอยู่ที่ 5 เมตร และ 12.5 เมตรตามลำดับ ซึ่งมีหน้ากว้างที่มากสามารถจอดรถได้ถึง 5 คัน
เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ฝั่งซ้ายของตัวบ้านจะเป็นส่วนแม่บ้าน ฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ Living Area รวมกัน Dining Area จัดไว้ติดกับพื้นที่สวนของตัวบ้าน เป็นพื้นที่รับแขกและพักผ่อนได้ดี และในพื้นที่เดียวกันยังมีส่วนของครัวนอก (Pantry) สำหรับโชว์เพื่อความสวยงาม พื้นที่ในโซนนี้ถูกออกแบบมาให้เปิดโล่งได้สองฝั่งของบ้าน เป็นทั้งพื้นที่สวน และอีกด้านหนึ่ง สถาปนิกได้เตรียมพื้นที่สำหรับสระว่ายน้ำไว้ แต่ด้วยเนื่องจาก ทางโครงการไม่ได้แถมสระว่ายน้ำมาด้วย โดยมีเงื่อนไขที่ว่าหากเจ้าของบ้านต้องการทำสระว่ายน้ำต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รายละเอียดข้อมูลด้านราคาสามารถดูได้ในห้วข้อ "การปรับแบบบ้านสไตล์ Issara" ครับ
สำหรับส่วนแม่บ้าน ได้จัดเตรียมไว้ ดังนี้ ห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง ครัวไทย ที่ทิ้งขยะและห้องน้ำแม่บ้าน ซึ่งจะมีทางเข้าเฉพาะของแม่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเข้าจากทางเดียวกันกับเจ้าของบ้าน
ระดับความสูงสำหรับชั้นที่ 1 ความสูงพื้น-ฝ้า อยู่ที่ 3.20 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวทั่วๆไป แต่ไม่ได้มี Double Volume สำหรับส่วนรับแขกและห้องนั่งทานอาหาร
2nd Floor และ 3rd Floor
สำหรับชั้น 2 และชั้น 3 จะเป็นส่วนของห้องนอน โดยชั้น 2 เมื่อขึ้นมาด้านบนแล้ว จะเห็นว่ามีการจัดโซนแยกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน โดยฝั่ง ซ้ายเป็นโซนห้องนอน 3 ห้อง และฝั่งขวาเป็น Family room ที่สมาชิกในบ้านสามารถมาใช้ร่วมกันได้
ขึ้นมาชั้นที่ 3 Master Bedroom และJunior Master Bedroom ในส่วนของห้อง Master Bedroom มีพื้นที่ฟังก์ชั่นครบครัน เช่น Walk-in Closet, Master Bathroom ขนาดใหญ่ มีอ่าง His & Her และมี Bathtub แบบลอยตัว
นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของห้อง Prayer room ในชั้นที่ 3 หากเจ้าของบ้านมองว่าอาจไม่ได้ใช้ ซึ่งสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้เช่น ห้องทำงานของคุณพ่อคุณแม่ หรือเป็นห้องเก็บของเพิ่มเติมได้อีกด้วย
แบบบ้าน Type Bellis
แบบบ้าน Type Calla
แบบบ้าน Type Davidia
การปรับแบบบ้านสไตล์ Issara
- ทางเจ้าของโครงการไม่ได้มีการจัดเตรียมสระว่ายน้ำให้กับเจ้าของบ้าน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากเจ้าของบ้านต้องการ คือ บ้านแบบ A ต้องเพิ่มเงิน 1.5 ล้านบาท สำหรับบ้านแบบ B, C และ D ต้องเพิ่มเงิน 1.85 ลบ. หากเจ้าของบ้านไม่ต้องการสระว่ายน้ำ ทางโครงการจะปรับพื้นที่เป็นสวนแทน
- สิ่งพิเศษสำหรับบ้านของโครงการ Issara คือเจ้าของบ้านสามารถมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการกั้นห้อง พื้นที่ภายในได้อย่างอิสสระ แต่มีเงื่อนไขคือการปรับเปลี่ยนจะต้องไม่กระทบต่อ โครงสร้างหลัก และ เปลือกนอกของบ้าน โดยมีตัวอย่างเบื้องต้น ดังนี้
ตัวอย่างการปรับเปลี่ยนเบื้องต้น แบบบ้าน Abelia
พื้นที่ในส่วนชั้นที่ 2 เจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนห้อง Family room ให้เป็นฟังค์ชั่นอื่นๆ ได้ เช่น ห้อง Home theater ห้อง Library ห้อง Study room ของลูก หรือฟังก์ชั่นนันทนาการอื่นๆ ได้ หรือ แม้กระทั่งสามารถกั้นเป็นห้องนอนห้องที่ 7 ได้ หรือในส่วนของห้องนอนเล็ก หากมีสมาชิกในบ้านน้อย สามารถรวม 3 ห้องนอนแล้วยุบเป็น 2 ห้อง Junior bedroom ได้ครับ ตามแบบผังข้างต้น
ตัวอย่างการปรับเปลี่ยนเบื้องต้น แบบบ้าน Bellis
พื้นที่ห้อง Master bedroom และ Bedroom 3 สามารถรวมกัน แล้วแบ่งเป็น Junior Bedroom ได้ 2 ห้องขนาดใกล้เคียงกัน และจัดให้ห้องนอนชั้นที่ 3 เป็น Master Bedroom ได้ ในกรณีที่เจ้าของบ้านชอบอยู่ชั้นบน ในขณะที่ Family room อยู่ในตำแหน่งเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่า หากในกรณีที่เจ้าของบ้านอยากอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวด้านบนของตัวบ้านเป็นตัวเลือกเสริมครับ
2nd Floor
3rd Floor
การคัดสรร Material ที่มาพร้อมในบ้านของคุณ
วัสดุมาตรฐานที่จัดเตรียมมาไว้ในตัวบ้านของโครงการ บ้านอิสสระ บางนา ถูกคัดสรรมาให้ผู้ซื้ออย่างพิถีพิถัน เริ่มจากส่วนของห้องครัว ที่ทางโครงการเรียกว่าจัดครบเซ็ตมาให้ ทั้งเซ็ตเครื่องใช้ไฟฟ้าชุดครัวฝรั่ง และเซ็ตเครื่องใช้ไฟฟ้าชุดครัวไทย โดยเซ็ตครัวฝรั่งยกมาจากแบรนด์ SIEMENS ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีของประเทศเยอรมัน ประกอบไปด้วย Hood, Gas Hob, Induction Hob, Microwave และ Oven
ในส่วนของเซ็ตครัวไทย ได้เลือกยี่ห้อ MEX ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศอิตาลี ที่สวยงามมาเป็นอย่างดีโดยทางโครงการจัดให้คือ Hood และ Gas Hob
ส่วนต่อมาเป็นส่วนของห้องน้ำที่ใช้อุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยม จากหลากหลายแบรนด์ดัง เพื่อทำให้มีความสวยงามภายในห้องน้ำ อาทิเช่น โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าตัวท๊อป จากแบรนด์ TOTO อ่างอาบน้ำนำเข้าจากประเทศเยอรมัน ยี่ห้อ KASCH ทางโครงการยังเลือกใช้แบรนด์ Grohe ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำจากประเทศเยอรมัน ในส่วนของ ฝักบัว ก๊อกน้ำ และ อุปกรณ์ Fitting อื่นๆ
ในส่วนของสเปคเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ เลือกได้แก่ ลิฟต์โดยสาร ยี่ห้อ Mitsubishi ที่ได้รับความนิยมในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย รวมถึงบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม
ภายในบ้านยังมีระบบปรับอากาศ VRV จาก Daikin เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับกับบ้านสมัยใหม่ที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน มีระบบแผงควบคุมอัจฉริยะที่สามารถสั่งการเปิด-ปิด หรือควบคุมอุณหภูมิ เครื่องปรับอากาศภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย ผ่านจอมอนิเตอร์จาก Daikin
Material options
วัสดุที่ทางโครงการจัดเตรียมให้มี 3 แบบให้เลือก ดังนี้
Normal จะเป็นแบบมาตรฐานปกติที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้
Option 1 จะแตกต่างจากแบบปกติโดยพื้นสีไม้ที่เข้มกว่า และสีพื้นพอร์ชเลนที่เป็นสีเทา ในขณะที่สี Wallpaper ออกเป็นสีขาวคล้ายๆกัน
Option 2 สีพื้นไม้จะเป็นน้ำตาลกลางๆ อยู่ระหว่างแบบปกติและ Option แรก และที่แตกต่างเพิ่มเติมคือพื้นพอร์ชเลนลายหินสีเทาที่เข้มขึ้น
ขายหมดโครงการแล้วไม่ลืมกัน บริการหลังการขายโดย Issara
ทางเจ้าของโครงการยังมีเพิ่มเติมด้วยว่า มีบริการหลังการขายด้วยนิติบุคคลจากทาง Issara มาดูแลหลังการขาย เพื่อลูกค้าทุกท่านที่อาศัยอยู่ในโครงการ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการติดต่อประสานงานไปยังส่วนบริการต่างๆ เช่น บริการจัดกิจกรรม บริการดูแลบ้าน บริการด้านสุขภาพ บริการผู้ช่วยติดต่อ เป็นต้น
สรุปรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมของ Issara Bangna
ด้วยรายละเอียดจุดเด่นของโครงการที่หลากหลายประเด็น ที่ทำให้โครงการ Issara Bangna มีความแตกต่าง น่าซื้อ และได้เปรียบ โครงการในระดับใกล้เคียงกัน ดังนี้ครับ
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันโดยรอบโครงการ ทั้งศูนย์การค้า โรงพยาบาล สถานที่ศึกษา เป็นต้น รวมไปถึงการเดินทางไปยังใจกลางกรุงเทพได้ง่ายดาย เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนกาญจนาภิเษก บางนาตราด ซึ่งสามารถใช้เส้นทางพิเศษเฉลิมมหานครได้ สามารถใช้ทางลัด ซอยรามคำแหง 2 เพื่อไปยังถนนบางนาตราด หรือวิ่งเรียบถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังมอเตอร์เวย์ ทางถนนพระราม 9 เพื่อเข้าเมือง
- การออกแบบที่คำนึงถึง ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีข้อดีมากมาย ดังนี้ ที่จอดรถที่มีหน้ากว้าง ทำให้เป็นจุดเด่นของโครงการ ตั้งแต่การวางผังเหนือ ใต้ รับลม มีการคำนึงถึงการ ลดปริมาณความร้อนจากแสงแดดด้วยการทำชายคาและไม้ซุงบังแดด แต่ยังคงได้รับแสงธรรมชาติ
รวมถึงการติดตั้ง Solar cell เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าของบ้าน นอกจากนี้แล้วรูปแบบบ้านยังมีความแตกต่างจากโครงการใกล้เคียง ถือว่าเป็นบ้านที่มีรสนิยมที่สุดในย่านบางนา และยังมีการออกแบบ Universal design เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุหรือคนพิการ โดยมีทำทางลาดเอียงไว้บริเวณที่จอดรถ รวมถึงขนาดของลิฟต์ด้วย
หากมองในแง่ของพื้นที่ใช้สอย บ้านหลัง A และ B ถือว่าคุ้มค่าหากผู้ซื้อมีความคิดในการปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานภายใน เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยที่มากพอในการปรับเปลี่ยน ส่วนบ้านหลัง C และ D จะค่อนข้างมีพื้นที่ใช้สอยที่พอดีอยู่แล้ว
- ราคาเปิดตัวของโครงการ โดยราคาข้างต้นนี้ทางโครงการไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ให้ในตัวบ้าน มีเพียงวัสดุมาตรฐานของ + ครัว + สุขภัณฑ์
Type A 69 - 90 ลบ.
Type ฺB 52 - 60 ลบ.
Type C 47 - 52 ลบ.
Type D 38 - 43 ลบ.
- ทางโครงการสามารถช่วยติดต่อบริษัทออกแบบภายในให้กับลูกค้า โดยมีส่วนลดเพิ่มเติมให้ โดยประมาณ ดังนี้
Type A 800,000 - 1,000,000 บ.
Type B 600,000 บ.
Type C 500,000 บ.
Type D 400,000 บ.
- โปรโมชั่น Customized Your Own Living ทำให้ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องภายในเพื่อตอบรับกับการใช้งานของแต่ละคนได้ และ ณ ปัจจุบันทางโครงการยังมีส่วนลดเพิ่มเติมให้สูงสุงไม่เกิน 1,000,000 บ.