Chewathai Residence Thonglor
เมื่อต้นไม้ หลอมรวมกับอาคาร "Chewathai Residence Thonglor" คอนโดป่าแนวตั้ง แห่งใหม่ พร้อมอยู่ ใจกลางทองหล่อ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทำเลแห่งอนาคต และไลฟ์สไตล์ที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพ กับการออกแบบโครงการที่แตกต่างจากชีวาทัยทั้งหมดที่เคยมีมา ด้วยรูปแบบอาคารที่เปรียบเสมือนหน้าผาธรรมชาติ สอดแทรกความเป็นธรรมชา ติเข้าไปทุกส่วนในโครงการ
ด้วยรูปลักษณ์อาคารที่มีความโดดเด่น ไม่เหมือนใคร ทำให้ย่อมเป็นที่สนใจของใครหลายๆคน ที่ผ่านไปผ่านมา โดยบทความนี้เราจะพาไปวิเคราะห์ถึงคอนเซ็ปต์การออกแบบโครงการในเชิงสถาปัตยกรรม การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงวิเคราะห์รูปแบบห้องชุด ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กันเลยทีเดียว ซึ่งโครงการจะสวย และน่าอยู่ขนาดไหนนั้น ตามอ่านต่อในบทความได้เลยครับ
Factsheet
โครงการ : Chewathai Residence Thonglor
ผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง : ซ.ทองหล่อ 20 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ขนาดที่ดิน : 1-0-89.2 ไร่
ประเภทโครงการ : Low Rise Condominium
จำนวณชั้น : 8 ชั้น
จำนวณอาคาร : 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 130 ยูนิต
ที่จอดรถ : 70 คัน, EV Parking 2 คัน
รูปแบบห้อง :
- 1 BR. 30 – 35 sq.m.
- 1 BR. Exclusive 41 sq.m.
- 1 BR. Plus 44 – 52 sq.m.
- 2 BR. 45 – 61 sq.m.
สิ่งอำนวยความสะดวก :
- SWIMMING POOL
- KID'S POOL
- STEAM ROOM
- FITNESS
- GARDEN
- ROOFTOP GARDEN
- PUTTING GREEN
- PARKING AREA
- EV CHARGER
- MEETING ROOM
The Green Cliff
ด้วย
คอนเซ็ปต์โครงการ ที่สร้างธรรมชาติโอบกอด คือการ
สร้างธรรมชาติที่ห้อมล้อมโครงการจากภายนอก และภายในโครงการ มีการ
สอดแทรกความเป็นธรรมชาติ เข้าไปในทุกส่วนของโครงการ
ทำให้สะท้อนไปถึง
สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ออกแบบให้
กลมกลืนกับธรรมชาติ เปรียบอาคารเสมือนหน้าผาธรรมชาติ ที่มีต้นไม้แทรกอยู่ตามชั้นต่างๆ (Green Cliff) ซึ่งหากมองจากด้านนอกอาคารจะเห็นภาพรวมของที่มีความเป็นธรรมชาติทั้งจากต้นไม้อยู่ตามระเบียงหลายๆ มุม และการ
วางตำแหน่งสลับกันเสมือนต้นไม้ที่ขึ้นตามริมหน้าผาธรรมชาติ
ระเบียง Free Form ลักษณะพิเศษ
ส่งเสริมรูปแบบอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการ
ออกแบบ Feature ระเบียงลักษณะพิเศษ 3 เหลี่ยม ในรูปแบบ
Free Form ซึ่งทำให้
เกิด Space การใช้งานที่น่าสนใจ มากขึ้น เป็นพื้นที่
วางกระบะต้นไม้ ทำให้
ไม่เป็นการขวางพื้นที่ริมระเบียง เกิดเป็น
Outdoor Terrace ที่สามารถใช้งานได้จริง
รวมถึงการ
ออกแบบโทนสีของอาคาร ด้วนสีโทนอ่อน ที่ช่วย
ส่งเสริมสีเขียวของต้นไม้ ตามจุดต่างๆ ของอาคาร ทำให้
ต้นไม้มีความโดดเด่น และสะดุดตา มากขึ้น รวมถึงให้ความ
รู้สึกถึงความเป็นชีวิตชีวา เมื่ออยู่ภายในโครงการ
Water Courtyard
สร้างสมดุลทางธรรมชาติด้วย
ผืนน้ำขนาดใหญ่ ที่เปรียบ
เสมือนแหล่งน้ำท่ามกลางหุบเขาธรรมชาติ โดยการออกแบบพื้นที่สระว่ายน้ำ พร้อมต้นไม้ใหญ่ สร้างบรรยากาศร่มรื่น
โดยหากมอง
ภาพรวมโครงการ จะเห็นได้ว่าทางโครงการคิด
คอนเซปท์ที่มอบธรรมชาติ ให้แก่ลูกบ้านอย่างแท้จริง ถือเป็นการ
จำลองธรรมชาติเสมือนจริง มาไว้ในทองหล่อ อีกด้วย และด้วยความที่เป็นรูปแบบอาคารแบบ
Low-Rise ทำให้พื้นที่ภายในโครงการมีความ
ใกล้ชิดธรรมชาติ และ
เป็นส่วนตัวแบบสไตล์รีสอร์ท
พาดูอาคาร Vertical Forest จากเมืองนอก
จะบอกว่า
การออกแบบที่อยู่อาศัยด้วยคอนเซ็ปท์นี้ไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียว นะ ซึ่งอพาร์ทเม้นท์
ปราโด้ กงกอร์ด (Prado Concorde) ที่อยู่ในเมืองทางตอนใต้ของ
ฝรั่งเศส ก็ได้ใ
ช้คอนเซ็ปท์นี้ในการออกแบบอาคารที่พักอาศัย เช่นกัน
โดยจุดเด่นของอพาร์ทเม้นท์นี้คือมี
ระเบียงที่ปลูกต้นไม้ได้ เช่นกัน แต่จะ
แตกต่างกันที่ไม่ต้องใช้กระถาง แต่สามารถปลูกลงดินได้เลย โดยการปลูกต้นไม้ที่ริมระเบียงช่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์อาคาร และความน่าอยู่ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
พาดูอาคาร Vertical Forest จากเมืองนอก
อาคารสูงจาก
ประเทศ อิตาลี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง
Stefano Boeri มีแนวคิดโครงการคือ
ป่าแนวตั้ง (Vertical Forest) ซึ่งถือว่าเป็น
โครงการแรกของโลก ที่มีแนวคิดนี้เลยทีเดียว โดยออกแบบอาคารให้
ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งทุกยูนิตของอพาร์ตเม้นต์นี้ จะมี
ระเบียงที่สามารถปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ได้
ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยปกป้องลูกบ้านจาก
มลภาวะทางฝุ่น หรือ PM2.5 รวมถึงช่วย
ลดความร้อนภายในอาคาร ทำให้
ลดการใช้พลังงาน ได้อีกด้วย
พาชมบรรยากาศสไตล์รีสอร์ท The Private Luxury
การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่นี่มี
จุดเด่น คือ
การเชื่อมต่อกันผ่านการมองเห็น (Visual Connectivity) โดยมี
สระว่ายน้ำเป็นศูนย์กลา ง ซึ่งไม่ว่าคุณเล่น
ฟิตเนสอ ยู่ หรือนั่งเล่นอยู่ที่
Lob by ก็สามารถ
มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ รวมถึงบรรยากาศอันร่มรื่นด้วยต้นไม้สีเขียวได้
โดยทางโครงการ
ใช้ กระจกทรงสูง (Full Height) เพื่อ
เปิดมุมมอง ไปยังนอกอาคาร ให้ความรู้สึก
ใกล้ชิดธรรมชาติ มากขึ้น
Swimming Pool
สระว่ายน้ำที่นี่จะเป็น
สระระบบเกลือ พร้อม
Jacuzzi และ
สระเด็ก รายล้อมไปด้วยต้นไม้อันแสนร่มรื่น มี
พื้นที่ Day Bed สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน ใต้ต้นไม้ชมบรรยากาศ ซึ่งหากมองขึ้นไปบนอาคารที่มีต้นไม้แล้วนั้น จะเปรียบเสมือน
ว่ายน้ำท่ามกลางหุบเขาธรรมชาติ
Fitness & Sauna
ห้องฟิตเนสของที่นี่จะ
เชื่อมต่อกับบริเวณสระว่ายน้ำ เลย และด้วยการออกแบบให้มี
กระจกทรงสูง (Full Height) แล้ว ทำให้
เปิดมุมมอง เห็นวิวสระว่ายน้ำได้อย่างสวยงาม
ซึ่งภายในห้องฟิตเนสก็มี
เครื่อง และอุปกรณ์ในการออกกำลังกายอย่างครบครัน โดย
ไฮไลท์จะเป็นลู่วิ่ง พร้อมวิวสระว่ายน้ำ และ
อาคาร (Green Cliff) ในส่วนของห้อง
Sauna ทางโครงการก็จัดไว้ให้
แยกชาย-หญิง
Lobby & Meeting Room
บริเวณ
Lobby ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ออกแบบให้
เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ และด้วย
กระจกทรงสูงแบบ Full Height ทำให้
เห็นวิวสระว่ายน้ำ ได้เช่นกัน โดยได้
จัดชุดเก้าอี้ ไว้บริเวณริมกระจก
เปรียบเสมือนนั่งอยู่ริมสระ เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากนี้ ภายในยังมีการจัดวางชุดโซฟา และโต๊ะ-เก้าอี้ ไว้ให้
ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนได้ รวมถึงสามารถใช้เป็น
Co-Working สำหรับนั่งทำงาน ชมวิวส่วนกลางภายในโครงการ
มาในส่วนของ
ห้องประชุม (Meeting Room)
แยกออกมาจากบริเวณส่วนกลางอื่นๆ ที่มีความพลุกพล่าน ทำให้เป็น
ห้องประชุมที่เป็นส่วนตัว เอามากๆ ซึ่งห้องนี้จัดเป็นโต๊ะประชุมแนวยาว สามารถ
รองรับได้ถึง 12 คน สามารถนัดทีมมาทำงานร่วมกัน หรือจะ
จัด Meeting พิเศษ ได้สบายๆ
Indoor Vertical Garden
โครงการยังมอบบรรยากาศความร่มรื่นไปยังภายในอาคาร ด้วยการออกแบบให้มี Indoor Vertical Garden ที่เป็นสวนแนวตั้งขึ้นไปยังบริเวณทางเดิน (Corridor) ทุกชั้นเลยทีเดียว เรียกได้ว่ามอบความสดชื่นให้แก่ลูกบ้านตั้วแต่ออกมาจากห้อง เลยทีเดียว
วิเคราะห์ห้องตัวอย่าง 1 BR PLUS (45.31 sq.m.)
สำหรับห้องชุด
1 Bedroom Plus (45.31 ตร.ม.) เข้าไปในห้องจะเจอกับ
ห้องครัว พร้อมประตูบานเลื่อน (ครัวปิด) หมดห่วงเรื่องกลิ่นรบกวน โดยมี
Living Area, ห้อง Multi-Purpose ที่เชื่อมต่อกับระเบียง และห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว
ซึ่ง
จุดเด่น ของห้อง Type นี้คือ
ได้ Living Area ที่เชื่อมต่อกับห้อง Multi-Purpos e ใน รูปแบบตอนลึก โดยห้อง
Multi-Purpose จะเชื่อมต่อกับ Balcony ทำให้เหมาะสำหรับการ
Work From Home ได้ดี และเป็นส่วนตัว
วิเคราะห์ห้องตัวอย่าง 2 BR (52.44 sq.m.)
มาในส่วนของห้องชุด
2 Bedroom (52.44 ตร.ม.) เข้าไปภายในห้องจะเจอกับ
พื้นที่ Living & Dining Area เป็นตอนลึก มี
ห้องครัวเข้ามุม พร้อมประตูบานเลื่อน โดยมี
1 Master Bedroom, 1 Bedroom, และ 1 ห้องน้ำ
ซึ่ง
จุดเด่นของห้อง Type นี้ คือจะ
ได้ห้อง Master Bedroom พร้อมระเบียงส่วนตัว โดยสามารถปรับเป็น
Outdoor Terrace ได้
ด้วยความที่ห้อง Type นี้มีเพียง 1 ห้องน้ำ ทำให้รูปแบบการใช้ห้องน้ำที่นี่จะแตกต่างกับทั่วไป โดยสามารถเข้าได้จาก 2 ประตู คือ จากห้อง Master Bedroom และ บริเวณ Living Area โดยภายในห้องน้ำจะมีประตูบานเลื่อนอีกชั้น ที่แยกส่วนเปียก และส่วนแห้ง กันอย่างชัดเจน ทำให้เวลาใช้ห้องน้ำ ไม่ต้องรอกันอีกด้วย
หมดห่วง เรื่องการดูแล
แน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาก็คือ การดูแลรักษา แล้ว
เราต้องมาดูแล รดน้ำต้นไม้เองไหม? ซึ่งต้องบอกว่าทางโครงการคิดไว้ให้แล้ว โดยการ
ติดตั้ง Digital Tap Timer ซึ่งเป็น
เครื่องรดน้ำอัตโนมัติ ไว้ให้เรียบร้อย ทำให้เรา
ไม่ต้องมาดูแล หรือคอยรดน้ำเองให้เหนื่อย
จุดเด่น ของเจ้า
Digital Tap Timer ก็คือสามารถ
ตั้งเวลารดน้ำได้ ตามระยะเวลาที่ต้องการ รวมถึง
ปริมาณน้ำที่ต้องการใช้รด อีกด้วย ซึ่งหากหมั่นดูแลรักษา จะสามารถ
รักษาความเขียวของต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมในโครงการ ให้ดูดีอยู่ตลอด
ทำเลแห่งอนาคต เชื่อมต่อ ทองหล่อ - เอกมัย
ซึ่งตัวทำเลของ
Chewathai Residence Thonglor ตั้งอยู่
ซ.ทองหล่อ 20 (ซ.แจ่มจันทร์) ซึ่งสามารถ
เดินไป ถ. ทองหล่อ ได้เพียงแค่ 220 ม. รวมถึง
ไป ถ.เอกมัย ก็ง่ายดายเพียง 280 ม. เท่านั้น บนทำเลที่เรารู้กันดีว่าเป็นหนึ่งในย่านแห่ง
Lifestyle และย่านที่อยู่อาศัย ที่โดดเด่นที่สุด ของกรุงเทพฯ นอกจากจะ
ใกล้ รฟฟ.สายสีเขียว ในปัจจุบันแล้ว ยังใกล้กับ
รฟฟ.สายสีเทาในอนาคต อีกด้วย
โดยมี
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้ง
คอมมิวนิตี้ มอลล์, โรงพยาบาล, รวมถึง โรงเรียนนานาชาติ ต่างๆ รวมถึงยังมีโครงการในอนาคตอย่าง
The Market Place Thonglor ที่จะเป็น
Mixed Use 12 ชั้น (Commercial + Office) แน่นอนว่าหาก
รฟฟ.สายสีเทา นี้สร้างเสร็จเมื่อไร จะยิ่งทำให้
บริเวณนี้มีความคึกคัก รวมถึง
สร้างมูลค่าให้บริเวณนี้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยัง
มอบความสะดวกสบาย แก่ผู้อยู่อาศัยในทำเลอีกด้วย
โปรโมชั่นพิเศษจากชีวาทัย
ลงทะเบียน และรับสิทธิพิเศษ