โครงการ GROOVE SCAPE 48 ถือเป็นคอนโดตัวที่ 4 จากดิวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป หลังจากที่คอนโดแบรนด์ GROOVE ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีสไตล์ เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ 3 โครงการโดยมี 2 โครงการที่โซนลาดพร้าว คือ ลาดพร้าว 18 และลาดพร้าว 48 รวมถึงรัชดาซอย 3 อีกหนึ่งทำเล ซึ่งล้วนแต่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น แปลกตาจากคอนโด Low Rise อื่น ๆ ทั่วไป ส่วนกลางที่ให้มาค่อนข้างหลากหลายและออกแบบมาได้อย่างแหวกแนว จนไปถึงห้องพักอาศัยขนาด 20 ตารางเมตรต้น ๆ แต่ฟังก์ชันลงตัว อยู่สบาย ซึ่งคอนโดซีรีย์ใหม่ตัวนี้ก็ออกแบบมาได้โดดเด่นไม่แพ้โครงการก่อน ๆ ซึ่งจะมีจุดไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
FACT SHEET
โครงการ : GROOVE SCAPE 48
(กรู๊ฟ สเคป 48)
ผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท ดิวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท ในเครือ บริษัท ดิวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ โฮลดิงส์ จำกัด
ที่ตั้ง : ซ.ลาดพร้าว 48 ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
ขนาดโครงการ : 1-0-14 ไร่
จำนวนชั้น : 8 ชั้น
จำนวนยูนิต : 189 ยูนิต
ที่จอดรถ : ประมาณ 43 %
- Auto Parking จำนวน 69 คัน
- ที่จอดปกติบนดิน จำนวน 8 คัน
- จอดซ้อน 4 คัน
UNIT TYPE :
One Bedroom
ขนาด 23.2 – 25.7 ตร.ม. จำนวน 89 ยูนิต
One Bedroom Plus
ขนาด 30.2 – 32.8 ตร.ม. จำนวน 69 ยูนิต
One Bedroom Plus Corner
ขนาด 34.7 – 43.6 ตร.ม. จำนวน 31 ยูนิต
เริ่มก่อสร้าง : Q1 2564
คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 2565
เงินกองทุน : 500 บ.
เงินส่วนกลาง : 58 บ. / ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 1.79 (Fully Furnished)
FACILITIES :
1st Floor : Double Volume Lobby / Smart Locker & Food Deliver
2nd Floor : Groove box / Multi-Purpose
3rd Floor : Fit Club
4th Floor : Game Zone / E-sport
5th Floor : Co-Working / Co-Living Space
6th-7th Floor : Nespresso café / Secret Garden / Sky light
8th Floor : Sky stair case
Rooftop : Sky Pool / Pool Deck / Sun scape / Moon scape / Roof Garden
คอนโดสุดแนว Series ใหม่ โดดเด่นเรื่องไหนบ้าง?
"ตกแต่ง Facade ด้วยลายแพทเทิร์น" สวยด้วย ได้ประโยชน์ด้วย
อาคารออกแบบมาให้มีความ Unique สูง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโครงการ ภายใต้แนวคิด Tessellation ซึ่งนำรูปทรงที่มีลักษณะเหมือนกันมาวางซ้ำ ๆ อย่างมีแพทเทิร์นตามด้านแนวยาวของตัวอาคาร คือ ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก โดยใช้รูปแบบแพทเทิร์นที่แตกต่างกันไปตามแต่ละทิศ
ด้านทิศตะวันออก - บริเวณด้านหน้าอาคาร ใช้แพทเทิร์นรูปตัว L คว่ำสีอ่อนที่ตัดกับตัวอาคารสีเข้ม
ด้านทิศตะวันตก - เป็นทิศที่โดดแดดระหว่างวันค่อนข้างนาน จึงใช้แผงบังแดดแนวตั้งให้เรียงกันเป็นลายแพทเทิร์น ซึ่งนอกจากจะให้ความสวยงามแก่ตัวอาคารแล้ว ยังช่วยลดปริมาณความร้อนและให้ร่มเงาแก่อาคารอีกด้วย
"Zoning แปลกใหม่" เข้าถึงพื้นที่ใช้งานง่าย
ภาพรวมตัวโครงการออกแบบมาได้น่าสนใจอยู่หลายจุด อย่างแรก ที่จอดรถในโครงการนี้ส่วนใหญ่เป็นระบบ Auto Parking ที่แทรกไปตามในตัวอาคาร ทำให้ผู้ที่ใช้รถยนต์ไม่ต้องวนหาที่จอดรถและมีสัดส่วนที่จอดรถมากกว่าโครงการอื่น ๆ ในโซนที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน โดยสามารถจอดได้สูงถึง 43%
ต่อมาเป็นเรื่องของส่วนกลางที่แต่ละฟังก์ชันมีการเรียงตัวซ้อนกันในแนวตั้งตรงกลางอาคาร จนเปรียบเหมือนเป็นอีก Core หนึ่งของอาคารเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ชั้นล่างสุดที่เป็น Lobby ไปจนถึงชั้น Rooftop ซึ่งภายในยังมีการแบ่งเป็นโซนย่อยที่เชื่อมถึงกัน ทำให้สะดวกในการใช้งานอีกด้วย
นอกจากนี้ ห้องพักอาศัยแต่ละยูนิตของโครงการที่จัดฟังก์ชันภายในมาได้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริง ๆ ตั้งแต่พื้นที่ครัวซึ่งเป็นระบบปิด ห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทาง ทำให้ใช้งานได้สะดวกทั้งเจ้าของห้องและแขกที่มา รวมไปถึงพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ จะพักผ่อนหรือทำงานในห้องก็สามารถอยู่ได้สบาย ไม่อึดอัด
"Floor Plan เลย์เอาต์ไม่ซ้ำใคร" จัดส่วนกลางไว้กลางอาคาร !!!
จะเห็นได้ว่าเมื่อเราเข้ามาภายในโครงการ ทางเข้าอาคารจะอยู่บริเวณ Drop Off ซึ่งจะเป็น Double Volume Lobby ที่มี Smart Locker & Food Deliver ไว้สำหรับให้คนนอกมาส่งของให้แก่ลูกบ้านในโครงการ ทำให้เวลาสั่งของหรือสั่งอาหารก็สะดวก ไม่ต้องรีบลงมารับของจากคนส่ง
เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้น 2 - 8 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยและ Facilities ที่อยู่ในชั้นเดียวกัน แต่ละชั้นก็จะเป็นที่ตั้งของ Facilities ที่มีฟังก์ชันแตกต่างกันไป โดยจะแบ่งออกเป็น 3 โซนในอาคารและ 1 โซน Rooftop ซึ่งมีทางเข้าส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 5 และ 8 ถ้าใครใช้ฟังก์ชันส่วนกลางไหนเป็นประจำก็อาจจะเลือกซื้อห้องพักชั้นที่มีทางเข้าส่วนกลาง เพื่อที่จะได้เดินไปใช้งานได้สะดวก หรือถ้าใครต้องการความสงบก็อาจจะเลือกอยู่ชั้นที่ไม่มีทางเข้าส่วนกลาง
โดยยูนิตพักอาศัยฝั่งด้านหน้าโครงการบริเวณชั้น 7 และ 8 จะมีความแตกต่างจากชั้นอื่น เนื่องจากคอนโดฝั่งนั่นอยู่ติดกับถนน ทำให้ต้องออกแบบตามข้อบังคับเรื่องระยะร่นอาคาร ซึ่งทำให้ยูนิตใน 2 ชั้นนี้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ได้พื้นที่ยาวระเบียงตลอดหน้ากว้างห้อง
ส่วนชั้น Rooftop เป็นที่ตั้งของส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ สวน ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Hightlight ของโครงการ
"ส่วนกลางที่อยู่กลางอาคาร" มองเห็นส่วนกลางได้เกือบทุกชั้น
Facility Core
พื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ทุกชั้นของอาคาร โดยซ้อนกันเป็นแนวตั้งบริเวณแกนกลางของอาคาร คล้ายเป็นกล่องกระจกอยู่ใจกลางทางเดินของอาคารแต่ละชั้น โดยมีช่องแสงที่ชั้นบนสุดซึ่งสามารถให้แสงธรรมชาติส่องลงมาได้ เปรียบ Facility Core นี้เป็นเหมือน Light / Life source ของอาคารที่ทำให้อาคารมีชีวิตชีวามากขึ้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ ได้แก่
Stayscape - บริเวณชั้น 1 -2 เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น พูดคุย และทำงานที่ค่อนข้างจริงจัง
Xscape - บริเวณชั้น 3 - 4 เป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย ซึ่งมีให้เลือกทั้ง Fitness และ VR หรือ E - Sport โดยมีบันไดเวียนช่วยเชื่อมต่อพื้นที่ในโซนนี้เข้าด้วยกัน
Scenescape - บริเวณชั้น 5 - 7 เป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำงานในบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางสวนและแสงธรรมชาติที่ส่องลงมาจากชั้นดาดฟ้า ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ Cafe ในสวน
Rooftop Facilities
Skyscape - Facilities บริเวณชั้น Rooftop สามารถเข้าถึงได้ด้วย Sky stair case บริเวณชั้น 8 ซึ่งเป็นจุด Hightlight ที่ทางโครงการออกแบบมาเฉพาะ ให้โค้งโผล่ขึ้นมาที่กลางสระน้ำบริเวณชั้นดาดฟ้า โดยสระว่ายน้ำบริเวณชั้นบนออกแบบให้โอบล้อมด้วยต้นไม้สูง ทำให้มีความเป็นส่วนตัว
ภาพบรรยากาศจำลองส่วนกลางโครงการ
"ห้อง Fully Furnished" ที่ออกแบบโดยนึกถึงคนอยู่จริง
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 23.70 ตร.ม.
ห้องพักขนาด 1 ห้องนอนของโครงการเป็นห้องประเภทที่มีสัดส่วนมากสุด ขนาดตั้งแต่ 23.2 – 25.7 ตร.ม. สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้ให้ชมนั้นเป็นห้องขนาด 23.70 ตร.ม.
จุดเด่นของห้อง Type นี้อยู่ตรงที่พื้นที่โซนพักผ่อนในห้องมีขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อมระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอนเข้าไว้ด้วยกัน ส่วนพื้นที่ครัวเป็นระบบปิด ใช้กระจกบานเลื่อน 4 ตอนกั้น ทำให้เวลาไม่ได้ทำอาหารสามารถเลื่อนเก็บบานกระจก ได้ห้องที่โปร่งมากขึ้น
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน พลัส 32.45 ตร.ม.
ส่วนห้องที่มีจำนวนยูนิตรองลงมา คือ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 30.2 – 32.8 ตร.ม. ซึ่งมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา
ทางโครงการปูพื้นห้องอเนกประสงค์ด้วยพื้นกระเบื้อง ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานเป็นพื้นที่กึ่ง Outdoor ได้ หรือจะทำเป็นห้องนอนเล็กก็สามารถวางเตียงเดี่ยวได้เหมือนกัน ส่วนห้องนอนใหญ่มีการเชื่อมต่อฟังก์ชันไปยัง Walk-in Closet และห้องน้ำได้ดี ทำให้สามารถใช้งานสะดวก
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน พลัส (ห้องมุม) 39.80 ตร.ม.
สำหรับ 1 ห้องนอนพลัส (ห้องมุม) เป็นห้องหัวมุมของแต่ละชั้นในอาคาร ทำให้ห้อง Type นี้ได้วิวถึง 2 ฝั่ง
จุดเด่นที่แตกต่างจากห้องประเภทอื่นในโครงการจะเป็นเรื่องของ Foyer ซึ่งเป็นโถงทางเข้าสามารถจัดเป็นมุมวางของหรือรองเท้าที่ใช้ประจำก่อนออกจากห้อง ถัดมาเป็นพื้นที่โซนพักผ่อนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อห้องอื่น ๆ ไว้ด้วยกัน โดยห้อง Type นี้จะมีห้องนอนซึ่งสามารถวางเตียงคู่ได้ทั้ง 2 ห้อง และมีกระจกเข้ามุมในห้อง Master Bedroom ทำให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น
"ลาดพร้าว" ทำเลที่ตอบโจทย์ชีวิตได้รอบด้าน
ตัวโครงการตั้งอยู่ใน ซ.ลาดพร้าว 48 ซึ่งในปี 2565 รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งตัดผ่านบริเวณถนนลาดพร้าวจะเปิดให้บริการ รวมถึงทางกทม. ยังมีแผนที่จะพัฒนาคลองลาดพร้าวให้เป็นเส้นทางเรือ ที่เชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญ ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น
ส่วนในเรื่องของการใช้ชีวิต ลาดพร้าวก็ถือได้ว่าเป็นทำเลที่ครบครันในหลาย ๆ ด้าน ตั้งแต่แหล่งช้อปปิ้ง หลายประเภท ทั้งตลาด ศูนย์การค้า และไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงโ รงพยาบาลและโรงเรียนขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังใกล้โซนสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นโซนจตุจักร โซนรัชดา โซนอโศก ซึ่งสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปไม่กี่สถานีเท่านั้น
คอนโดใหม่ดีไซน์สุดแนว ทำ เลใกล้รถไฟฟ้า เริ่ม 1.79 ล้าน*
GROOVE SCAPE 48
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก