Knightsbridge พหลโยธิน Interchange
อนาคตที่อยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้า
Origin Property ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2552 โดยเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาฯประเภท คอนโดมิเนียม ในทำเลที่สะดวกในการเดินทาง เช่น ทำเลใกล้ทางด่วน และแนวรถไฟฟ้า ในช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา ได้เปิดตัว Knightsbridge พหลโยธิน Interchange
ซึ่งถือเป็นแบรนด์เรือธงจาก Origin ซึ่งตัวแบรนด์ Knightsbridge นี้จะเป็นรูปแบบ Luxury Residence เป็นคอนโดฯ High Rise ที่ใช้แนวคิดการออกแบบที่เรียบหรูและสง่างาม
กรุงเทพฯตอนเหนือ กำลังจะเปลี่ยนไป ?
เ ดิมทีนั้นบริเวณย่านสะพานใหม่ก็ถือว่าเป็นย่านที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากพอสมควร เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกมากตามไปด้วย ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ต่างเกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมี Landmark สำคัญของประเทศ นั่นคือสนามบินดอนเมือง ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 2 ล้านคนต่อปี และยังมีมหาลัยเด่นๆโดยรอบ 4 แห่ง คือ ม.เกริก , ม.ศรีปทุม , ม.ราชภัฎ และ ม.เกษตร ส่งผลให้ย่านนี้นอกจากผู้อยู่อาศัยเดิมแล้ว ยังมีกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เป็นนักศึกษาและผู้ปกครองที่เพิ่มเข้ามาในทุกๆปีอีกด้วย
ถนนเส้นหลักในย่านนี้ คือ ถ.พหลโยธิน ซึ่งสามารถตรงไปสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯได้โดยตรง หรือขับออกไปทางนอกเมืองก็เชื่อมต่อไปถึงย่านรังสิตได้หรือเลี้ยวออกไปทางถนนตัดใหม่ ถ.เทพรักษ์ ซึ่งจุดที่โครงการ Knightsbridge พหลโยธิน Interchange ก็จะมีแยก วงเวียนหลักสี่ที่เป็นจุดตัดของ ถ.รามอินทรา – แจ้งวัฒนะที่เชื่อมตั้งแต่ช่วง ปากเกล็ด – มีนบุรี และยังเชื่อมไปถึงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์อีกด้วย
พื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ถือว่าเป็นพื้นที่ที่กำลังขยายตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามการมาถึงของแนวรถไฟฟ้า และทำเลที่น่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นบริเวณที่เป็นจุดตัดของเส้นรถไฟฟ้าอย่าง ทำเลบริเวณ วงเวียนอนุสาวรีย์หลักสี่ หรือ วงเวียนอนุสาวรีย์บางเขน เป็นวงเวียนจุดตัดของถนนพหลโยธิน ถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรา ในเขตบางเขน
ที่ในอนาคตจะเป็นจุดของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และสายสีชมพู แคราย – มีนบุรี ที่ สถานี Interchange วัดพระศรีมหาธาตุ
แต่การเปลี่ยนสายจะไม่ได้เป็นการเปลี่ยนภายในระบบจะต้องเดินไปเปลี่ยนสถานี ระหว่าง MRT กับ BTS
สายสีชมพูหากนั่งต่อไปอีก 2 สถานีก็จะเป็นสถานีจุดตัดกับรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สามารถต่อไปถึงสนามบินดอนเมือง หรือ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้อีกด้วย ในบริเวณใกล้เคียงก็จะมีสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างนี้ เมื่อก่อสร้างเสร็จ (สร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563) จะทำให้โครงข่ายระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพมหานครดียิ่งขึ้น สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 50,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง
โดยเส้นทางก่อสร้างระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี เป็นทางวิ่งยกระดับตลอดเส้นทาง โดยสถานีที่ผ่านหน้าโครงการคือ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
อ่านเพิ่มเติม คลิ๊ก
คณะกรรมการ PPP เห็นชอบหลักการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าระบบโมโนเรล (รถไฟฟ้ารางเดี่ยว) 2 สายทาง เงินลงทุนรวม 111,335 ล้านบาท ได้แก่ สีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) 56,691 ล้านบาท และสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) 54,644 ล้านบาท ตามขั้นตอน PPP Fast Tack นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการ งบประมาณค่าเวนคืน และกรอบวงเงินสนับสนุนเดือน มี.ค.และเปิดประมูลเดือน มิ.ย.59 โดยสถานีที่ผ่านหน้าโครงการคือ สถานีวงเวียนหลักสี่
อ่านเพิ่มเติม คลิ๊ก
ถ้าหาก “คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” อนุมัติงบประมาณจำนวน 8,140 ล้านบาท เพิ่มให้กับรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วง “บางซื่อ-รังสิต” ระยะทาง 26 กิโลเมตร เท่ากับเป็นรอบที่ 3 ที่รถไฟฟ้าสีนี้ได้ปรับวงเงินค่าก่อสร้างเพิ่มจาก 2 ครั้งก่อนหน้านี้ “ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย” ในปี 2550 ได้ปรับเพิ่มวงเงินก่อสร้างจากเดิมอยู่ที่ 59,888 ล้านบาท มาเป็น 75,548 ล้านบาทในปี 2552 เนื่องจากแบบก่อสร้างที่บริษัทที่ปรึกษาคำนวณไว้ผ่านมาหลายปี ไม่สอดคล้องกับต้นทุนในขณะนั้นจากนั้นในปี 2555 ขยับเพิ่มเป็น 80,375 ล้านบาท
อ่านเพิ่มเติม คลิ๊ก
ในอนาคตอันใกล้ บางซื่อได้ถูกพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายระบบคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
เนื่องจากเป็นสถานีที่มีรถไฟฟ้าผ่าน 4 สาย ได้แก่ สายสีแดงชานเมือง สายสีแดงอ่อน สายสีน้ำเงิน สายสีเขียว และนอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อจากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นกลุ่มของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจให้บริการ และธุรกิจระบบขนส่งมวลชน โดยประกอบธุรกิจระบบขนส่งมวลชนเป็นหลัก หลังจากที่บริษัทได้เข้าถือหุ้นสามัญร้อยละ 94.60 ของบีทีเอสซี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 โดยบีทีเอสซีเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานดำเนินการระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสจากกทม. โดยมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินงาน
สะพานใหม่ ย่านแห่งความอุดมสมบูรณ์
ตลาดยิ่งเจริญ cr.pantip
ม.เกษตรศาสตร์ cr.mthai
รพ.เซนทรัลเยนเนอรัล cr.painaidii
Lotus หลักสี่ - cr.google map
ม.เกริก cr.ประชาชาติ
ท่าอากาศยานดอนเมือง
ใกล้ห้างและแหล่งShopping
Tesco Lotus หลักสี่ 100 ม.
Central รามอินทรา 1.2 กม.
Big C สะพานใหม่1. 5 กม.
ตลาดยิ่งเจริญ 2.3 กม.
The JAS รามอินทรา 3 กม.
Central ลาดพร้าว 8 สถานีรถไฟฟ้า
ใกล้สถานศึกษา
ม.เกริก 1 กม.
ม.ราชภัฏพระนคร 1 กม.
ม.ศรีปทุม 3.5 กม.
ม.เกษตรศาสตร์ 4 สถานีรถไฟฟ้า
ใกล้โรงพยาบาล
รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล 1.4 กม.
รพ.ภูมิพล 4 กม.
ใกล้แหล่งงาน
สนามบินดอนเมือง
ทหารอากาศ
กรมทหารราบที่11
กรมป่าไม้
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
ธกส. สานักงานใหญ่
Surrounding รอบๆโครงการ
ทำเลและราคา
เรื่องราคาถือโครงการ Knightsbridge พหลโยธิน Interchange ทำออกมาค่อนข้างดี ที่ ตร.ม. ละ 93,000 บ. ถ้ามองเปรียบเทียบทำเลในย่านใกล้ อย่างลาดพร้าวและเกษตร รัชโยธิน จะเห็นว่าในย่านสะพานใหม่นั้นมีราคาเฉลี่ยถูกที่สุดในบรรดา 3 ย่าน ซึ่งถูกกว่าย่านลาดพร้าวเกือบเท่าตัว จากกราฟเปรียบเทียบจะเห็นการเติบโตของเกษตร รัชโยธินมีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงมากขึ้น เนื่องจากมาถึงของรถไฟฟ้า
และลำดับถัดไปที่รถไฟฟ้ากำลังจะมาถึงคือย่านสะพานใหม่นั่นเอง เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีชมพูสร้างเสร็จจะทำให้ราคาที่ดินของย่านสะพานใหม่นั้นมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูงอย่างมาก เพราะเป็นย่านที่อยู่บริเวณสถานี Interchange ทั้ง 2 สถานี ดังนั้นหากใครกำลังลังเลไม่แน่ใจว่า จะซื้อดีหรือไม่ คงต้องรีบตัดสินใจกันหน่อยก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงไปเรื่อยๆ
สรุปในเรื่องของราคากับทำเล ในเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต - คูคต เปรียบเทียบกับย่านดอนเมือง และย่านเกษตร รัชโยธิน ถือว่ามีราคาถูกกว่ากันค่อนข้างเยอะ ราคาของโครงการ เทียบกับโครงการใกล้เคียง ที่อยู่ในระดับเดียวกัน
ถือว่าราคาอยู่ในระดับกลางๆ แต่ถ้ามามองดูในส่วนของที่ว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า สถานีInterchange เพียง 0 กม. กับ Facilities ทั้งรอบนอกและภายในโครงการ ( ซึ่งจะพูดในหัวข้อถัดไป ) ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า
Product
FACT
โครงการ : Knightsbridge Phaholyothin-Interchange
เจ้าของ : Origin Property
เนื้อที่ : 5-1-32 ไร่
จำนวนตึก : 1 Building + 2 Tower
จำนวนชั้น : 15 ชั้น
จำนวนห้อง : 726 ยูนิต
ที่จอดรถ : 40%
กำหนดการเปิด : ลงทะเบียน รอบ VIP วันที่ 17 มิ.ย. 60
ปีที่สร้างเสร็จ : ไตรมาส 4 / 2562
ราคาเริ่มต้น : 93,000 บ./ตร.ม. (ณ 12/12/2560)
UNIT TYPE
1 Bed : Superior :
21.3-31.7 Sq.m.
1 Bed : Deluxe :
28.2-29.8 Sq.m.
1 Bed Plus : Suite :
33.4-38.8 Sq.m.
2 Bed : Penthouse :
48.9-51.2 Sq.m.
Duplex :
33-62.0 Sq.m.
FACILITIES
ชั้น G
Grand Lobby
Business room
Co-working space
Private lobby
3 Daily Shops
Rolling hill garden
Pocket Garden
Playground
ชั้น 4
Game pool
Laundry
Coin operate vending machine
Private nook
Sunken lounge
Bean bag zone
Sun bed
35 m. L-shape swimming pool
Curve Jacuzzi
Reflecting pond
Multipurpose lawn
Secret Garden
Semi Outdoor Terrace
ชั้น 5
Yoga room
Fit club
ชั้น ดาดฟ้า
The Excited Sky bridge
lounge
Sunsey Party
Rolling Garden
BBQ Area
Sky Social Deck
360 Viewpoint
Master Plan
Facilities
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ ภายในพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3,700 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ถึง 30 แบบ พื้นที่ส่วนกลางจะมีอยู่ในชั้น 1 , 4 , 5 และชั้นดาดฟ้า โดยที่เริ่มจากชั้น 1 ในส่วนของ Lobby นั้นจะเป็นแบบ Double Volume ทำให้ดูกว้างขวาง สามารถใช้เพื่อพบปะกันได้ ส่วนถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว จะมีพื้นที่ที่เรียกว่า Private Lobby อยู่ทางด้านในที่สามารถใช้พบปะพูดคุยได้เช่นกัน ในส่วนของพื้นที่สีเขียวในชั้น 1 จะอยู่รอบ Lobby ทั้งสองด้าน
ถัดมาในชั้นที่ 4 ถือเป็นชั้นที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด ทั้งด้านในและด้านนอกอาคาร โดยส่วนของด้านนอกอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำรูปทรงตัว L ที่มีความยาวถึง 35 ม. และบริเวณรอบๆ จะเป็น Facilities ประเภทสวนและพื้นที่พักผ่อน ทางด้านของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคาร
จะเป็นพื้นที่พักผ่อน ที่สามารถมานั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานได้ มีทั้งแบบเป็นส่วนตัว อย่าง Bean bag zone และแบบเป็นกลุ่ม ตรงบริเวณ Sunken lounge นอกเหนือจากนั้นยังมีโต๊ะสนุ๊กสำหรับเล่นกับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย ส่วนของชั้นที่ 5 จะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับชั้น 4 ขึ้นมาจะเป็น Yoga room และ Fit club สำหรับออกกำลังกาย
ชั้นดาดฟ้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ เริ่มจาก The Excited Sky bridge ที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาคารทั้งสองของโครงการ ที่เชื่อมกับ 360 ํ Viewpoint ที่สามารถรับชมวิวเมืองได้ถึง 360 องศา นอกจากชมวิวแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพื้นจัด Bar B Q Party ได้อีกด้วย
สรุปเรื่อง Facilities ในโครงการ คือ โครงการให้ Facilities มาให้เยอะมาก และ ครบครัน ถือว่าทำออกมาได้สวยและดูดี ดังนั้นเรื่อง Facilities นั้นถือว่าไม่แพ้ใครในคอนโดระดับเดียวกันเลย
Facilities ของอาคารจะอยู่ในบริเวณ ชั้น 1 ของ Tower A , ชั้น 4 และชั้นดาดฟ้า Residential - ชั้น 3-14 ของ Tower A และ ชั้น 4 ของ Tower B Parking - ชั้น 1-3 ของ Tower B
ชั้น 1 โดยภาพรวมจะเป็น Facilities สำหรับพบปะพูดคุย,ประชุม หรือ นัดคุยงาน ซึ่ง Lobby จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Lobby หลัก และPrivate Lobby สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยรอบๆอาคารก็จะมีพื้นที่ีที่เป็นสวนเล่นระดับสำหรับพักผ่อน
ถือว่าในชั้นแรกที่เป็นส่วนต้อนรับ โครงการทำออกค่อนข้างดี มีการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทำให้มี Facilies ที่รองรับการใช้งานได้อย่างตอบโจทย์
ชั้น 4 เป็นชั้นหลักของ Facilities ที่รองรััับการทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยฝั่ง Outdoor จุดเด่นอยู่ตรงสระว่ายน้ำ รูปตัว L ยาวถึง 35ม. ที่ล้อมรอบด้วยสวนสำหรับนั่งพักผ่อน ถัดมาทางฝั่ง Indoor จะเป็นส่วนที่เรียกว่า Social Hub ที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือและนั่งพักผ่อน มีแบบทั้งเป็นขุดพื้นเป็นที่นั่งสำหรับหลายคน และเเบบเป็นที่นั่งส่วน
ถัดขึ้นมาเป็นฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย สามารถมองเห็นสวนขณะออกกำลังกายได้ นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นโต๊ะพูล สำหรับเล่นกับเพื่อนๆอีกด้วย ชั้นดาดฟ้าของอาคารที่มีสะพานเชื่อมต่อกัน เหมาะแก่การมา พักผ่อนในสวน , จัดปาร์ตี้ , พบปะสังสรรค์ หรือ ชมวิวเมืองที่สามารถรับชมได้ถึง 360 องศา
ในด้านความสะดวกและความหลากหลายนั้น กล่าวได้ว่าโครงการให้มาแบบเต็มที่ อีกทั้งยังสวยงาม ดูดี น่าเข้าไปใช้งาน จะติดแค่ว่าจะโดยแดดตอนบ่ายเข้าทำให้ร้อนบ้าง แต่ก็ไม่นาน เพราะอาคารมีการออกแบบมาให้มีส่วนที่คอยบังแดดให้ซึ่งกันและกัน
Grand Lobby
Co-Working Space
Unit Type
แบบห้องของโครงการ Knightsbridge พหลโยธิน Interchange นั้นมี 4 ซีรี่ย์ด้วยกัน คือ Superior,Deluxe,Suit และ Penthouse
Superior
Series “Superior” เป็นห้องรูปแบบที่เล็กที่สุด โดยจะมีลักษณะที่ ห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อทำให้ห้องดูกว้าง (ยกเว้นห้องที่เป็นแบบ Duplex) ห้อง Superior จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน
ถ้าเกินกว่านี้อาจจะมีปัญญาเรื่องเป็นส่วนตัว และคนที่มีมักทำกินกิจกรรมต่างๆในพื้นที่เดียว ไม่อยากเดินเข้าออกห้องไปมา ในเรื่องของการทำครัวห้องในรูปแบบนี้จะเป็นครัวปิด
ทั้งหมดทำให้สามารถทำอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น แต่ส่วนที่เป็นครัวนั้นก็อยู่ด้านในหันเข้าอาคารเรื่องการระบายอากาศจึงต้องใช้ระบบของอาคารเท่านั้น
Deluxe
ห้องซีรี่ย์ Deluxe เป็นห้องรูปแบบ 1Bedroom เช่นเดียวกับซีรี่ย์ Superior ที่ยังคงจุดเด่นไว้เช่นเดิม เพิ่มเติมคือขนาดห้องที่กว้างขวางขึ้น และแยกห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกัน
ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถทำอะไรได้มากขึ้นทั้งทำกิจกรรม หรือตกแต่งต่างๆ ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการห้องแบบ 1Bedroom และต้องการขนาดห้องที่กว้างขวางและ
ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ห้องก็ยังเป็นห้องแบบ 1Bedroom จำนวนผู้อยู่อาศัยที่เหมาะสมก็ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ 1 – 2 คน
Suit
ห้องซีรี่ย์ Suit มาพร้อมกับจุดเด่นของห้องรูปแบบ 1 Bed+ ที่มี 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้องเอนกประสงค์ ที่เราสามารถกำหนดเองได้ว่าเราจะให้ห้องนั้นเป็นห้องอะไร
อาทิ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องสำหรับเลี้ยงเด็ก เป็นต้น ทำให้รูปแบบของห้องจะเน้นไปที่การกระจายพื้นที่การใช้งานไปยังส่วนต่างๆของห้อง
ทำให้ของซีรี่ย์เหมาะกับคนที่มักทำกิจกรรมต่างๆอยู่เสมอทั้งแบบคนเดียวหรือแบบหลายคน
Penthouse
Series “Penthouse” ห้องซีรี่ย์นี้ ขึ้นชื่อด้านความกว้างขวางตามแบบฉบับของ Penthouse ซึ่งจะมาในแบบห้อง 2Bedroom เหมาะกับการอยู่เป็นครอบครัวมากขึ้น รองรับการอยู่ศัย 3- 4 คน หรือ 1 ครอบครัวนั่นเอง
ในด้านการใช้งานถือว่าครบครัน โดยที่ห้องนอนเล็กถ้าเกิดเราไม่ใช้ ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์ก็ยังได้ แต่ห้อง Penthouse ที่เป็นแบบ Duplex ก็จะมีพื้นที่เอนกประสงค์ไว้ให้อยู่แล้ว
นอกจากห้องนอนที่เพิ่มเข้ามาแล้ว ห้องน้ำก็เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน โดยที่ตัวห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวเอง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ด้านทิศทางแดดและลมนั้น ตัวอาคารนั้นหันด้านกว้างเข้าหาทิศตะวันออกเฉียงเหนือและ ตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้อาคารนั้นรับลมแบบเต็มๆ ส่วนห้องทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้และ ส่วนกลางที่ชั้น4 โดนแดดในช่วงบ่าย ทำให้การใช้งานบางช่วงก็จะร้อนไปบ้าง
ห้องทางฝั่งทิศเหนือจะอยู่ติดกับโชว์รูมของมิตซุบิชิ หากต้องการวิวอาจต้องเลือกชั้นสูงขึ้นหน่อย ทางฝั่งตะวันตกและออก จะเป็นชุมชนความสูงไม่มาก และไม่มีตึกสูงมาบังวิวทิวทัศน์ ทางด้านทิศใต้ จะมีคอนโดสูง 15 ชั้นอยู่ใกล้ๆ แต่ตัวอาคารก็ได้วางห้องให้บิดหลบเพื่อไม่ให้ถูกบังวิว
ทำเล
อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นสถานี Interchange ตัดกับสายสีชมพู เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก รอบๆโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ ทั้ง ร้านค้า,ร้านอาหาร,แหล่งช็อปปิ้ง,โรงพยาบาล และ มหาวิทยาลัย ก็มีอย่างครบครัน
การเดินทาง
ด้านการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สะดวกมากอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ในด้านการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็ถือว่าเดินทางไปไหนมาไหนง่าย เพราะโครงการอยู่บริเวณแยกวงเวียนหลักสี่ที่เป็นจุดตัดของ ถ.พหลโยธิน และ ถ.รามอินทรา-แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นถนนหลักในการเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯ แต่ด้วยความที่เป็นถนนหลักทำให้การเดินทางในช่วงเช้าและเย็นจะมีปัญหาการจราจรติดขัดบ้าง
ราคา
ในเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต –สะพานใหม่-คูคต เป็นย่านที่ราคา/ตร.ม.ถูกที่สุด ซึ่งถูกกว่าย่านลาดพร้าวเกือบเท่าตัว แต่ถ้าเทียบกับคอนโดระดับเดียวกันในย่านสะพานใหม่ก็ถือว่าราคาอยู่ระดับกลางๆ
วัสดุ
ใช้วัสดุตามมาตรฐานทั่วไป
พื้นที่ใช้สอย
ออกแบบมาได้ตามสไตล์คอนโดของ Origin มีจุดเด่นตรงห้องแบบ Duplex ที่มีมาให้เลือกเยอะ ถึงจะมีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก แต่พอเป็นห้องแบบ Duplex ก็จะดูกว้างและดูหรูหรามากขึ้น
สิ่งอำนวยความสะดวก
Facilities เป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้ ที่ให้พื้นที่ส่วนกลางมาถึง 3,700 ตร.ม. โดยในพื้นที่ส่วนกลางสามารถแบ่ง Facilities ออกเป็นทั้ง 30 รูปแบบ ทำให้ตอบสนองและรองรับการใช้งานทุกรูปแบบแน่นอน อีกทั้งยังออกแบบในแต่ละอันออกมาดูสวยและหน้าเข้าไปใช้งานอีกด้วย