ทำเล "บางนา-สุวรรณภูมิ" เป็นทำเลรายล้อมด้วยแหล่ง Lifestyle ชั้นนำ อาทิ Mega, Ikea, Central บางนา และ Central Village นอกจากนี้ยังล้อมรอบด้วย รร.นานาชาติชั้นนำ และใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ทำเลนี้มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นหลายโครงการ แต่รู้หรือไม่มีโครงการที่เป็นเสมือน  Hidden Gem ของทำเลนี้ที่มีบรรยากาศที่เป็นโครงการสุดหรูบรรยากาศธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัว

Lake Legend บางนา-สุวรรณภูมิ โครงการที่เป็นความร่วมมือของ Property Perfect และ Hongkong Land ที่เป็นโครงการ Super Luxury วิวทะเลสาบ 100 ไร่ แห่งเดียวในทำเลบางนา ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Lake Camo เมืองตากอากาศริมทะเลสาบในประเทศอิตาลี สู่การออกแบบบ้านให้เป็น Super Luxury Lakeside Living Experience

Lake Legend เป็นโครงการคฤหาสน์สุดหรูพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมารองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านใกล้ชิดธรรมชาติ และสร้างประสบการณ์เหนือระดับ โดยมีเรื่องควรรู้สำหรับโครงการ Lake Legend

• Partnership โครงการเป็นการร่วมมือกับระหว่างบริษัทอสังหาฯ ที่มีชื่อเสียงของไทยอย่าง Property Perfect ที่เป็นบริษัทที่พัฒนาคฤหาสน์ริมทะเลสาบมาอย่างยาวนาน กับ Hongkong Land ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยาวนานมากกว่า 130 ปี และมีโครงการระดับไฮเอนด์อยู่หลายที่ในเอเชีย
• Super Luxury Segment แบรนด์ระดับ Super Luxury จาก Property Perfect ที่ร่วมมือกับ Hongkong Land ที่มีการพัฒนามาแล้ว 2 โครงการคือ Lake Legend แจ้งวัฒนะ และ โครงการล่าสุด Lake Legend บางนา-สุวรรณภูมิ
• Lake View คฤหาสน์สุดหรูพร้อมวิวทะเลสาบ 100ไร่ ใหญ่สุด เพียงหนึ่งเดียวในบางนา
• Facilities ระดับ Super Luxury ในคลับเฮ้าส์ Grand Lakeside พื้นที่ส่วนกลางในโครงการมีการออกแบบให้เปิดรับกับวิวทะเลสาบและคัดสรรฟังก์ชันและอุปกรณ์ให้ตอบสนองกับการใช้งานระดับ Super Luxury
• Lakeside Villa  คฤหาสน์บนเนินเล่นระดับพร้อม Double Front Design สง่างามในทุกด้านพร้อมเปิดรับวิวทั้ง2 ด้าน ด้านฝั่งถนนหลัก ออกแบบให้ภาคภูมิ สะท้อนรสนิยมแห่งผู้นำ ส่วนฝั่งทะเลสาบเปิดกว้างรับวิวทะเลสาบ 100 ไร่

โครงการ Lake Legend บางนา-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการคฤหาสน์ริมทะเลสาบกว่า 100 ไร่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lake COMO ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ที่มีจุดเด่นเป็นอาคารที่สร้างอยู่ตามภูเขา และลดหลั่นกันลงมา เพื่อให้เห็นวิวของทะเลสาบ โดยทาง Lake Legend ก็ได้นำแนวคิดนี้มาปรับใช้โดยออกแบบเป็นคฤหาสน์ที่เล่นระดับ สามารถชมวิวและรับบรรยากาศของทะเลสาบได้อย่างเต็มที่ โดยในโครงการเมื่อเข้ามาก็จะเจอกับ Grand Lakeside Clubhouse ที่รอต้อนรับอยู่หน้าโครงการ และยังมีสวนส่วนกลางกว่า 4 ไร่ ที่จะส่งเสริมบรรยากาศริมทะเลสาบให้น่าใช้งานมากขึ้น โดยคฤหาสน์ริมทะเลสาบของโครงการนี้จะเป็นคฤหาสน์สไตล์ Modern Italian Lake Villa  3 ชั้น ที่เปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่

ส่วนกลางในโครงการแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ภายในอาคาร Grand Lakeside Clubhouse และโดยรอบของโครงการ Grand Lakeside Clubhouse คลับเฮ้าส์สไตล์ Super Luxury ที่ภายในประกอบด้วย

• สระว่ายน้ำ Infinity Edge Lap pool 35 เมตร ต่อเนื่องสู่ทะเลสาบขนาดใหญ่  พร้อม Kid’s pool และ Jacuzzi
• World Class Fitness ที่คัดคุณภาพอุปกรณ์ระดับ Super Luxury พร้อมวิวทะเลสาบ
• Kid’s Play room & Playground รองรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ
• Exclusive Lounge ส่วนต้อนรับที่ใช้รับแขกหรือคุยธุรกิจได้โดยไม่ต้องเข้าไปถึงในบ้าน
• Steam & Sauna

ส่วนกลางอื่นๆภายในโครงการ มีส่วน Waterfront Park และพื้นที่สีเขียวภายในโครงการกว่า 4 ไร่ และระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Gate Security และผ่านเข้าออกโครงการด้วย Intelligent Sensors Gate (RFID  Technology) ระบบเข้าออกโครงการโดยไม่ต้องสัมผัสเพียงติดตั้งไว้หน้ารถ

บ้านในโครงการ Lake Legend บางนา-สุวรรณภูมิ มีจุดเด่นอยู่ที่บ้านบนเนินที่เล่นระดับกับทะเลสาบ โดยจะมีส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ถูกกดลงไปให้อยู่ใกล้กับธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ชั้น 1 หรือชั้นที่อยู่ระดับถนน ก็จะเป็นพื้นที่รับแขก และชั้น 2 ก็จะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนของครอบครัว อีกหนึ่งจุดเด่นคือบ้านมีการออกแบบให้มีหน้าบ้าน 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่อยู่ติดถนนจะเป็นฝั่งที่ดูเป็นทางการไว้สำหรับรับแขกที่เข้ามา ส่วนฝั่งที่อยู่ริมทะเลสาบจะเน้นความเปิดโล่งเพื่อรับวิวทะเลสาบและเป็นพื้นที่ใช้งานของคนในครอบครัว

แบบบ้านที่อยู่ริมทะเลสาบในโครงการจะมี 2 แบบ ที่ออกแบบมาในรูปแบบ Lakeside โดยรายละเอียดบ้านทั้ง 2 แบบมีดังนี้

• LAGO LUGANO คฤหาสน์ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 563 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้าน
• LAGO COMO คฤหาสน์ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 656 ตร.ม. ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องแม่บ้าน

แบบบ้าน LAGO COMO แบบบ้านใหญ่สุดในโครงการเป็น คฤหาสน์ 3 ชั้น + ชั้น Rooftop บนเนินเล่นระดับที่เกือบทุกพื้นที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบได้ โดยแต่ละชั้นก็จะมีฟังก์ชันและการใช้งานที่แตกต่างกันไป ได้แก่

• ชั้น Lake Floor เป็นชั้นไฮไลท์ของบ้าน โดยจะเป็นชั้นที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและทะเลสาบ 100 ไร่ เป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถเปิดเชื่อมกับพื้นที่ภายนอกที่เป็นสระว่ายน้ำ
• ชั้น Ground Floor  เป็นชั้นที่อยู่ระดับถนนโครงการ เป็นพื้นที่ต้อนรับของบ้าน ด้วย Grand Foyer พร้อมห้อง Recreation Room และมีห้องนอนรองรับอยู่ด้วย
• ชั้น 2nd Floor เป็นชั้นที่เป็นห้องนอนและพื้นที่สำหรับครอบครัว
• ชั้น Rooftop เป็นชั้นที่เป็นพื้นที่ Outdoor โดยมองเห็นทะเลสาบแบบพาโนรามา ไว้จัดปาร์ตี้หรือขึ้นมานั่งพักผ่อน

ชั้น Lake Floor เป็นชั้นที่เป็นจุดเด่นของบ้านหลังนี้ โดยจะเป็นชั้นที่ลดระดับลงมาเพื่อให้ใกล้ชิดกับทะเลสาบมากขึ้น ฟังก์ชันประกอบด้วย พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารแบบ Double Volume สูง 6.5 ม. เป็นแบบ Open Space เชื่อมต่อกับ Lake Terrace สามารถเปิดเชื่อมกับพื้นที่ภายนอกที่เป็นสระว่ายน้ำ Jacuzzi  และพื้นที่สวน ที่สามารถชมวิวทะเลสาบได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบ้านหลังนี้มีการแยกพื้นที่ทางเข้าของเจ้าของบ้านและส่วน Service ออกจากกัน ทำให้แม่บ้านสามารถทำงานได้โดยโดยไม่รบกวนการใช้งานภายในบ้าน โดยพื้นที่ที่เป็นจุดที่น่าสนใจของบ้านนี้คือ Lake Terrace พื้นที่เชื่อต่อจาก Living Area ที่เปิดกว้างพร้อมสระว่ายน้ำกับวิวทะเลสาบขนาด 100 ไร่ หรือจะเป็นมุมนั่งเล่นริมทะเลสาบที่สามารถมานั่งพักผ่อนหรือจัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ

ชั้น 1 คือชั้นที่อยู่ระดับถนนโครงการ เป็นพื้นที่รับแขก โดยบ้านหลังนี้สามารถจอดรถได้สูงสุด 8 คัน เมื่อเข้ามาในบ้านก็จะเจอกับพื้นที่ต้อนรับที่เป็น Grand Foyer โถงต้อนรับสูง 7 เมตร ที่เปิดรับวิวทะเลสาบตั้งแต่เปิดประตู พร้อมฟังก์ชัน “Tea Room” ใช้สำหรับรับแขกหรือเป็นพื้นที่จัดแสดงของสะสมของเข้าของบ้าน โดยชั้นนี้ก็จะมีห้องนอน 1 ห้องที่รองรับผู้สูงอายุ เป็นห้องที่สามารถเข้าถึงง่าย มีทางลาดและพื้นที่เรียบเท่ากันหมด ซึ่งบ้านหลังนี้จะมีลิฟต์ที่สามารถขึ้นได้ไปจนถึงชั้น Rooftop ทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น

ชั้น 2 ของบ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับครอบครัว ประกอบด้วยห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ซึ่งห้อง Master Bedroom พื้นที่กว้างสามารถทำพื้นที่นั่งเล่นในห้องได้ และห้องน้ำประกอบด้วย His & Her Bathroom  พร้อม Bath Tub และพื้นที่ Walk in Closet ซึ่งมีในห้องนอน Master Bedroom และห้อง Junior Master Bedroom นอกจากนี้ยังมี Family Living Roomและห้องอเนกประสงค์ รองรับการใช้งานของครอบครัว โดยออกแบบพิเศษให้ห้องนอนและ Family Living Room เปิดรับวิวทะเลสาบ ชั้น Rooftop Terrace เป็นชั้นที่เป็นพื้นที่ Outdoor ที่สามารถชมวิวทะเลสาบได้แบบ 360 องศา เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนหรือขึ้นมาจัดงานปาร์ตี้ก็มีการเตรียมงานระบบไว้ให้สำหรับทำเป็นเคาร์เตอร์บาร์

ด้วยความที่โครงการอยู่ริมทะเลสาบ ทำให้ต้องคำนึงถึงการก่อสร้างที่แข็งแรง ไม่โดนน้ำกัดเซาะ ทางโครงการเลยได้มีการวางแผนการก่อสร้างเป็นอย่างดีโดยเริ่มจาก การเสริมความแข็งแรงของชั้นดินในการก่อสร้าง โครงการเลือกใช้วิธี VCM.  (Vacuum Consolidation Method) เป็นการใช้เครื่องเครื่องดูดสูญญากาศในการระบายน้ำในดินออกจากชั้นดิน ทำให้ดินมีการยุบตัวลงและทับถมกันให้หนาแน่นมากขึ้น และสามารถป้องกันการทรุดตัวของชั้นดินบริเวณนั้น เพื่อให้พร้อมในการก่อสร้างต่อไป เสาเข็มที่โครงการเลือกใช้เป็นเสาเข็ม HELICAL PILES ที่เป็นเสาเข็มเหล็กที่มีลักษณะเป็นเกลียว ใช้การเจาะลงไปในดิน ทำให้ไม่เกิดการสั่นสะเทือนไปกระทบรอบข้าง โดยเจาะเสาเข็มไปถึงระดับ 23 เมตร เพื่อให้ถึงระดับชั้นดินทรายหรือดินดาน เมื่อเจาะเสร็จก็มีการเทคอนกรีตลงไปด้วย เพื่อลดพื้นที่สัมผัสอากาศ เสาเข็มก็จะไม่เกิดสนิมทำให้อายุการใช้งานยาวนานเปรียบเสมือนเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงทั่วไป แต่สามารถรับน้าหนักได้มากกว่า และ ทนต่อแรงดันดินได้สูงกว่าเสาเข็มทั่วไป

บ้านในโครงการมีการใส่เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตโดยเลือกใช้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานระดับโลก ประกอบด้วย ระบบ Home Automation ที่เลือกใช้แบรนด์ Schneider Electric เป็นเครือบริษัทมหาชนข้ามชาติในสหภาพยุโรปผู้ผลิตอุปกรณ์ทางไฟฟ้า โดยควบคุมระบบ แสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ และผ้าม่าน ความปลอดภัย โครงการเลือกใช้บริการของ SECOM เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น โดยในบ้านมีระบบ Motion Sensor และ Magnetic Sensor มาให้พร้อมใช้งาน นอกจากนี้โครงการยังให้ระบบ EV Charger ของ ABB มาให้ด้วยเพื่อครอบครัวที่มีรถไฟฟ้า ก็สามารถใช้งานได้เลยไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่มเติมที่หลัง

ทำเลที่ตั้งของโครงการ Lake Legend บางนา-สุวรรณภูมิ จะอยู่บน ถ.กิ่งแก้ว ที่สามารถเชื่อมไป มอเตอร์เวย์ หรือ ถ.บางนา-ตราด ได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิเพียง 5 นาที เรื่องของการเดินทาง มีทางด่วนและทางพิเศษอยู่ใกล้ๆ อย่าง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ที่สามารถเชื่อมเข้า CDB และ ถนนมอเตอร์เวย์ ที่สามารถเดินทางไปชลบุรีได้อย่างรวดเร็ว รถไฟฟ้าในพื้นที่ก็อยู่ใกล้กับ Airport Rail Link ที่เชื่อม พญาไท-สุวรรณภูมิ และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเงิน เชื่อมกับบางนา และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่จะทำให้การเดินทางไปชลบุรีและระยอง สะดวกสบายมากขึ้น

สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่มีครบถ้วนทั้ง ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และโรงเรียน ครบจบในพื้นที่โดยไม่ต้องออกไปไหนไกล  โดยที่ตั้งของโครงการสามารถเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ใน 5-10 นาที ศูนย์การค้าที่ใกล้กับโครงการก็มี ศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง  Mega Bangna Central Village และห้างอื่นๆ ใกล้ๆ อย่าง Market Village โรงพยาบาลที่ใกล้กับโครงการ ก็มี รพ.จุฬารัตน์ 9 ที่อยู่บน ถ.กิ่งแก้วเลย โดยในทำเลนี้เด่นที่มีโรงเรียนนานาชาติกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ เช่น VERSO, Concordian, Pan-Asia และ Wellington เป็นต้น