realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (222)
 (318)
 (387)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (222)
 (318)
 (387)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon

LAND & HOUSE 2017-2018

18 April 2010

LAND & HOUSE 2017-2018

18 April 2010
 

LAND & HOUSES PUBLIC COMPANY LIMITED

ผลประกอบการปี 2017 และ แผนธุรกิจปี 2018

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

• WWW.LH.CO.TH

• 1198

 

NEWS UPDATE

Info : prop2morrow 17 JAN 2561
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ เปิดแผนปีจอ เตรียมเปิดตัว 18 โครงการใหม่ ในกทม.-ปริมณฑลและต่างจังหวัด รวมมูลค่า 36,300 ล้านบาท ทั้งปรับราคาขายเฉลี่ยลงมาที่ 7 ล้านบาท/ยูนิตและรุกตลาดทาวน์เฮาส์มากขึ้นเป็นสัดส่วน 9% ด้านที่ดินสวนชูวิทย์ ได้ฤกษ์เซ็นสัญญาเช่า 1 ก.พ.นี้ จ่อผุดอาคารสำนักงาน-รร.-รีเทล ใช้งบลงทุน 6,000 ล้านบาท  เล็งซื้อที่ดินย่านใจกลางเมืองอีก 1-2 แปลง ตั้งเป้ายอดขายในปี61 แตะ 31,000 ล้านบาท  และรายได้รวมที่ 36,700 ล้านบาท นายนพพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ LH เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2561 ว่าจะเปิดตัวใหม่ 18  โครงการ มูลค่ารวมทั้งหมด  36,300 ล้านบาท แบ่งแยกเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล  16  โครงการ และต่างจังหวัด  2  โครงการ  ทั้งนี้หากแบ่งตามประเภทของที่อยู่อาศัยได้ดังนี้ บ้านเดี่ยว 14 โครงการ  (นับรวมบ้านแฝด) ทาวน์เฮาส์  7  โครงการ (ในโครงการที่ Mix  นับแยกออกตามประเภทสินค้า  นับซ้ำโครงการ) และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มากกว่าปี 2560 ที่เปิดตัว 10 โครงการ รวมมูลค่า 10,080 ล้านบาท ทำให้โครงการที่เปิดดำเนินการในปี 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 86 โครงการ จากสิ้นปีก่อนที่มี 68 โครงการ
ทั้งนี้ระดับราคาขายที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยของบริษัทฯในปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 7 ล้านบาท/ยูนิต จากปีก่อนอยู่ที่ 7.5 ล้านบาท/ยูนิต เพราะในปีนี้บริษัทจะเน้นการเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ระดับราคา 2-4 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เน้นเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยการหันมาเปิดโครงการทาวน์เฮาส์และแนวราบอื่นๆมากขึ้น เป็นเพราะยอดขายโครงการแนวราบของภาพรวมทั้งตลาดในปี2560 เป็นบวก ในขณะที่ยอดการเปิดตัวโครงการแนวราบในปีก่อนติดลบ ทำให้บริษัทเชื่อว่าความต้องการซื้อโครงการแนวราบยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการทาวน์เฮาส์ ซึ่งแตกต่างจากภาพรวมของคอนโดมิเนียมที่ปีก่อนจำนวนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมเป็นบวก แต่ยอดขายติดลบ “ในปี2561 นี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญในการรุกตลาดทาวน์เฮาส์มากขึ้น จากที่ผ่านมาเน้นในสัดส่วน 3% แต่ในปีนี้เพิ่มสัดส่วนมาที่ 9% ระดับราคาที่ 2.01-4.0 ล้านบาท  ขณะที่บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อยู่ในสัดส่วนที่ 68% ระดับราคาที่ต่ำกว่า 2.0%  และคอนโดมิเนียม สัดส่วน 23% ระดับราคาที่ 4.01-6.0 ล้านบาท ”นายนพร กล่าว นอกจากนี้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2561 บริษัทได้เตรียมเซ็นสัญญาเช่าที่ดินสวนชูวิทย์ บริเวณสุขุมวิทซอย 10 เนื้อที่ 6 ไร่ ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระยะเวลาในการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 4+30 ปี  ในราคา 700,000 บาท/ตารางวา โดยบริษัทจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าในรูปแบบอาคารสำนักงาน พื้นที่เช่า 20,000 ตารางเมตร และโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักประมาณ 400 ห้อง และมีพื้นที่ค้าปลีกอีก 3,000 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุนอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มลงทุนก่อสร้างในช่วงต้นปี 2562 และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี และพร้อมเปิดให้บริการได้ ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาที่จะเช่าที่ดินเพิ่มอีก 1-2 แห่ง ในทำเลย่านใจกลางเมือง เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าในอนาคต คาดว่าจะได้ข้อสรุปการเช่าที่ดินแปลงใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจาได้ภายในปี2561 นี้ ขณะที่โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในประเทศสหรัฐฯอเมริกาที่ปัจจุบันมีอยู่ 5 อาคาร จำนวนห้องเช่ากว่า 1,000 ห้อง มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท ด้านนายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ LH กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมในการขายโครงการออกไปเพื่อนำมาเงินมาลงทุนต่อ ซึ่งในปีนี้หลังจากมีการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯส่งผลให้ภาษีนิติบุคคลลดลงเหลือ 21% จากเดิมที่ 35% เป็นผลบวกต่อโอกาสในการขายโครงการที่จะทำให้มีกำไรมากขึ้น เพราะมีอัตราภาษีที่ลดลง 14% ซึ่งหากบริษัทมีการขายโครงการในสหรัฐฯออกไปจะทำให้มีกำไรกลับเข้ามามากขึ้น “การมองหาโครงการใหม่ในสหรัฐฯยังอยู่ระหว่างการศึกษา โดยในปีนี้เราจะเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลักมากกว่าการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างฐานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าให้แข็งแกร่ง และมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันที่ 19% โดยในปี 2562 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าเพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่ 3,700 ล้านบาท ซึ่งในปี 2561 บริษัทจะรับรู้รายได้ของโครงการเทอมินอล 21 พัทยา ได้เต็มปี จากปีนี้ที่โครงการเทอมินอล21 จะเปิดให้บริการในช่วงเดือนตุลาคมนี้”นายอดิศร กล่าว ด้านการออกหุ้นกู้ของบริษัทในปีนี้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านบาท จะแบ่งการออกหุ้นกู้เป็น 2 ช่วง ในไตรมาส 2/2561 และไตรมาส 4/2561 ซึ่งจะนำมาใช้ลงทุนและคืนหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน โดยระยะเวลาของหุ้นกู้ที่จะออกใหม่มีอายุ 3 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่บริษัทมองว่ามีความต้องการซื้อของนักลงทุนมาก และอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะอยู่ไนช่วง 2.2-2.4% ต่อปี ส่วนมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัท ณ สิ้นปี 2561 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยโอนในปี 2561-2562 และจะเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 33,000 ล้านบาท หรือเติบโต 19% จากปีก่อนและคาดว่าในปี 2561 บริษัทจะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับปีก่อน โดยฐานะการเงินของบริษัท ณ สิ้นปี 2560 ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้เงินกู้สุทธิอยู่ที่  43,500 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ประมาณ 87% และมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.35% อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 2561 ตั้งไว้ที่ 31,000 ล้านบาท  และรายได้รวมที่ 36,700 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ 33,000 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีก 3,700 ล้านบาท พร้อมวางงบลงทุนรวมในปีนี้ไว้ที่ 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบสำหรับซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท และงบสำหรับลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีก 6,000 ล้านบาท

PRESENTATION

Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (222)
 (318)
 (387)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon