เวลาเราซื้อโครงการคอนโด นอกจากเราจะจ่ายเงินซื้อตัวห้องเพื่อใช้ในการพักอาศัยแล้ว ยังหมายถึงเราเลือกสภาพแวดล้อม สังคมภายในโครงการ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนั้นด้วย จึงเป็นเหตุผลให้ AP ใส่ใจในทุกรายละเอียดของโครงการ โดยเฉพาะ "ส่วนกลาง" ที่ AP เชื่อว่าจะเป็นพื้นที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกบ้าน จนนำมาสู่กระบวนการออกแบบเพื่อให้ได้ส่วนกลางสวยๆ และยังตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง และหนึ่งในโครงการที่มีส่วนกลางโดดเด่น และสวยเป็นอันดับต้นๆ ของ AP อย่าง "Life Ladprao Valley" ซึ่งมีการออกแบบส่วนกลางที่เป็นเอกลักษณ์และชัดเจน
ตัวโครงการ "Life Ladprao Valley" โครงการคอนโดที่มีส่วนกลางที่เรียกได้ว่าโดดเด่นสุดๆ ด้วยการใช้ทีมผู้ออกแบบชั้นนำมากประสบการณ์ ช่วยกันรังสรรค์โครงการออกมาภายใต้แนวคิด "Valley" หรือ "หุบเขา" ซึ่งมีการแทรกแนวคิดนี้ในแทบทุกจุดของส่วนกลาง และตัวอาคารด้วย ส่วนกลางโครงการนี้นอกจากจะสวยแล้ว ยังใหญ่และเยอะอีกด้วย มีทั้งหมด 4 ชั้น พื้นที่รวมๆ แล้วประมาณ 5,100 ตร.ม. มีกิจกรรมกว่า 39 รายการ ตอบโจทย์ทั้งสายผจญภัย และสายพักผ่อน สำหรับบทความนี้ Realist จะพาไปชมรายละเอียดของส่วนกลางที่นี่กัน ว่าจะสวยและน่าสนใจแค่ไหน ติดตามต่อได้ในบทความเลยครับ
ชื่อโครงการ : ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลี่ย์ (Life Ladprao Valley)
เจ้าของโครงการ : เอพี ไทยแลนด์
ที่ตั้งโครงการ :ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
ประเภทโครงการ : คอนโด High Rise 44 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนที่จอดรถ : 482 คัน หรือคิดเป็น 42%
จำนวนยูนิต : 1,140 ยูนิต
รูปแบบห้อง
- Studio 28.8 ตร.ม.
- 1 Bedroom 35 - 37 ตร.ม.
- 2 Bedroom 49 – 67 ตร.ม.
ส่วนกลาง Life Ladprao Valley เหนือกว่าโครงการอื่นๆ
ต้องบอกเลยว่าส่วนกลางของโครงการ "Life Ladprao Valley" เค้าโดดเด่น เหนือกว่าโครงการอื่นๆ บนทำเลลาดพร้าวจริงๆ ซึ่งจะเหนือกว่ายังไงมาดูกัน
- ข้อแรกเลยคือมีแนวคิดการออกแบบชัดเจน โดยมี Inspiration จาก "หุบเขา" (Valley) มีการนำเส้นสายจากธรรมชาติมาใช้กับพื้นที่ และตัวอาคาร
- ต่อมาเลยคือ ส่วนกลางใหญ่มาก กินพื้นที่ถึง 4 ชั้น รวมๆ กันแล้วมีขนาดกว่า 5,100 ตร.ม.
- อีกทั้งมีส่วนกลางยังเยอะกว่า ให้มามากถึง 39 กิจกรรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผจญภัย และไลฟ์สไตล์พักผ่อน
- และสำหรับใครที่เป็นสายเซลฟี่ สายคอนเทนต์ ต้องชอบแน่ๆ เพราะส่วนกลางทุกจุดในโครงการนั้นสวยมาก เรียกได้ว่าเซลฟี่ และถ่ายรูปได้เกือบทุกมุมเลย
ได้ทีมผู้ออกแบบชั้นนำ มากประสบการณ์ ในการออกแบบโครงการ
โครงการ "Life Ladprao Valley" ได้ใช้ทีมผู้ออกแบบชั้นนำอย่างบริษัท "OPENBOX" ที่มีประสบการณ์การออกแบบคอนโดมาแล้วหลายโครงการ อย่างที่บอกไปตอนต้น โครงการมี Inspiration จาก "หุบเขา" (Valley) ด้วยการนำเส้นสายจากภูเขามาใช้ในตัวอาคาร ทำให้ตัวอาคารและ Facade ออกมาเป็นแบบฟรีฟอร์ม คล้ายๆ กับภูเขา หน้าผา เลย ส่วนตัวฟังชั่นก์ของส่วนกลางก็มีการออกแบบเช่นเดียวกันเกือบทุกจุดอีกด้วย
ด้านของ Landscape ยังคงได้ทีมผู้ออกแบบมากประสบการณ์อย่าง REDLAND-SCAPE ตัวโครงการยังมีพื้นที่สีเขียวกว่า 2.5 ไร่ ตั้งแต่หน้าโครงการ จนถึงดาดฟ้าโครงการ
ส่วนกลาง 4 ชั้น สระว่ายน้ำระดับพรีเมียมถึง 3 สระ
ส่วนกลาง 5,100 ตร.ม. ของโครงการ แบ่งออกเป็น 4 ชั้นด้วยกัน มีสระว่ายน้ำถึง 3 สระ โดยแต่ละชั้นมีรายการส่วนกลางดังนี้
1st Floor | Valley Passage / The Canyon Lobby / Bike Parking / Shop / Semi Outdoor Lounge / Meeting Lounge / Mail Room / Parking
6th Floor (Avalon Paradise) | Avalon Main Pool / Spa Sanctuary Zone / Avalon Private Lounge / Adventurous Valley Pass / Hidden Avalon Seat / Green Infusion Terrace
44th Floor (The Aqua Valley) | Aqua Valley / Hydro Bike Zone / Hydro Jet Pool / Grotto Living Space / Grotto Sunken Living / Vertico Gym / Pedestrian Access / Skywalk Circuit / Valley Lounge / Alpine Lounge / The Residence / Terrarium Library / Rock Canyon / Active Court
44th M Floor (Grand Valley Bay) | Grand Valley Bay / Sunken Living Valley / Mountain Pass / Crystal Alley / Sky Social Court / Alpine Lounge
Facilities ทั้ง 4 ชั้น 39 รายการ
พาชม Highlight Facilities แต่ละชั้นของโครงการ
1st Floor | Valley Passage
เริ่มกันใน Facilities ชั้น 1 ก่อนถึงอาคารจะพื้นที่สวน (Valley Passage) เรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะขนาดย่อมๆ เลย ไว้สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน ใต้ร่มเงาของต้นไม้สูง พร้อมทางเดินที่โค้งไปตามร่มไม้ ไว้สำหรับเดินเล่นก็ได้
เดินเข้ามาก่อนถึงอาคาร จะเจอกับ Facade อาคารแบบ Free Form ที่มีการถอดลักษณะเส้นสายมาจากหุบเขา และในส่วนนี้เองเราจะเห็นรอยแยก สีส้มๆ ที่เกิดจากการออกแบบได้ที่ Inspiration จาก Antelope Canyon ซึ่งทำให้ด้านหน้าอาคารเป็นจุดที่น่าสนใจขึ้นไปอีก
เข้ามาในตัวอาคาร ทางโครงการให้ชื่อเรียกว่า The Canyon Lobby ซึ่งมี Inspiration การออกแบบมาจาก Grand Canyon นั่นเอง จะเห็นได้ว่าแนวคิดดังกล่าวถูกนำมาใช้ในส่วนของผนัง และฝ้าที่มีการเล่นระดับ ให้มี Volume และเป็นเส้นสายไปตลอดแนว
ส่วนพื้นที่ใช้งานยังมีการใช้ เฟอร์นิเจอร์ที่ถอดรูปแบบมาจาก "ก้อนหิน" ทั้งตัวของเก้าอี้ และเคาน์เตอร์ เพื่อให้เข้ากับแนวคิดดังกล่าว
นอกจากนี้ด้านใน Lobby ยังมีพื้นที่เล่นระดับ ถูกจัดไว้สำหรับนั่งเล่น และนั่งทำงานได้อีกด้วย
6th Floor | The Avalon Paradise
ขึ้นมาส่วนของชั้น 6 มีชื่อเรียกว่า The Avalon Paradise เริ่มจากจุดทางเข้าเลย จะเจอกับทางเดินที่มีการหักเลี้ยว ให้เหมือนกับทางเดินในช่องเขา แต่ไม่คับแคบจนเกินไป ให้ความรู้สึกเหมือนการเดิน Trail เลย
ในชั้นนี้คงร่มรื่นมากๆ เพราะล้อมรอบด้วยต้นไม้สูง สร้างบรรยากาศให้ร่มรื่นทั้งในส่วนของสระว่ายน้ำ และพื้นที่นอนอาบแดด และพื้นที่สีเขียวที่น่าสนใจอีกจุดคือ พื้นหญ้าด้านบนอยู่ใน Shape แบบ Free Form บวกกับถูกยกสูงขึ้นมา และแทรกพื้นที่พักผ่อน (Avalon Private Lounge) ไว้ด้านใต้ของส่วนนี้
ทำให้โซนพักผ่อน ได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ ไม่ถูกมองเห็นจากยูนิตด้านบน เพราะมีสวนยกระดับคอยบดบังอยู่นั่นเอง ประโยชน์อีกข้อของพื้นที่สวนจุดนี้ คือ ยังเป็นวิวสวยๆ ให้กับยูนิตด้านบนอีกด้วย
และ Highlight ของชั้นนี้เลยคือสระว่ายน้ำ หรือ Avalon Main Pool มีขนาด 9 x 29 ม. รูปทรง Free Form เหมือนแหล่งน้ำบนหน้าผายังไงยังงั้น ส่วนตัวคิดว่าสระว่ายน้ำชั้นนี้เหมาะกับการมาแช่ตัว เพื่อผ่อนคลาย เพราะมีทั้งระบบวารีบำบัด และบรรยากาศความร่มรื่นของต้นไม้ที่ล้อมรอบ
44th Floor | The Aqua Valley
ขึ้นมาถึง 44 กันแล้ว บนชั้นนี้จะเป็นโซนของ Active Facilities แบ่งเป็นส่วนๆ ดังนี้
- The Residence - พื้นที่จัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้สำหรับลูกบ้านได้
- Terrarium Library - โซนสำหรับนั่งทำงาน มีมุมส่วนตัวให้
- Alpine Lounge - โซนพักผ่อน สามารถมาชมวิวเมืองหรือวิวพระอาทิตย์ตกได้
- Theater Lounge - ห้องดูหนังสำหรับลูกบ้าน
- Rock Canyon - จุดปีนหน้าผาจำลองสูงกว่า 9 ม. ตอบโจทย์สายผจญภัย
- Active Court - มุมเครื่องออกกำลังกายแบบกึ่ง Outdoor
เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นนี้จะเจอกับบันไดทางเดิน สีส้มๆ สะดุดตา อยู่ตรงกลาง ทางโครงการมีแนวคิดให้ทางเดินนี้เป็นเหมือนกับทางเดินคล้ายๆ กับสะพานเชือกข้ามหุบเหว ในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง บวกกับความร่มรื่นของต้นไม้รอบๆ ทำให้เหมือนทางเดินในป่าไม่น้อยเลย
และมาถึง Highlight ของชั้นนี้กัน นั้นคือ The Aqua Valley หรือสระว่ายน้ำ มีขนาด 7 x 19 ม. ซึ่งไม่สระว่ายน้ำธรรมดาๆ แน่นอนเพราะภายในสระนี้ มีพร้อมทั้งเครื่องออกกำลังกายในน้ำ (Hydro Bike Zone) และ โซนบ่อวารีบำบัด Jacuzzi สำหรับแช่และนวดตัวได้ อีกทั้งส่วนนั่งพักผ่อนด้านบน ยังมีการเล่น Volume ทั้งพื้นและฝ้าให้ฟีลลิ่งเหมือนนั่งอยู่ในถ้ำจริงๆ เลย
44th M Floor | Grand Valley Bay
มาถึงชั้นบนสุดของโครงการกันแล้ว เป็นโซนมีชื่อเรียกว่า Grand Valley Bay หลักๆ เลยชั้นจะโดดเด่นที่สระว่ายน้ำ Free Form ยาวถึง 42 ม. ด้วยความที่อยู่ชั้นบนสุด ทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่บนยอดเขาเลย และฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้เลยคือ Sunken Seat ขนาดใหญ่ ซึ่งมาในรูปทรงเดียวกับสระว่ายน้ำ
ฟังก์ชันในจุด เมื่อมองไปด้านหน้าจะเห็นวิวของพื้นที่สีเขียวขนาด 700 ไร่ (สวนรถไฟ) แบบ Panorama หากมองไปทางด้านขวา ในยามเย็นจะได้วิวพระอาทิตย์ตก เรียกได้ว่าเป็นมุมมองสุด Exclusive จริงๆ
ห้อง 1 Bed Plus 3 แบบ 3 สไตล์
ห้อง 1 Bed Plus B1 35 ตร.ม.
- เมื่อเข้ามาในห้องจะกับพื้นครัวแบบปิด สามารถทำอาหารแบบจริงจังได้ กลิ่นและควันไม่รบกวนส่วนอื่นๆ
- ด้านขวาเป็นห้องน้ำ ที่แบ่งโซนเปียก-แห้งแบบชัดเจน
- ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ Living สามารถวางเซ็ทโซฟาได้ 2 ที่นั่ง โซนนี้ถูกกั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
- Bedroom มีกระจกเข้ามุม สามารถรับวิวได้ 2 ด้าน
- ห้องอเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องออกกำลังกายได้ พร้อมระเบียงในตัว
ห้อง 1 Bed Plus B2 -B3 35 ตร.ม.
ห้อง 1 Bed Plus B2 และ B3 เป็นห้องที่มีจุดเด่นคล้ายๆ กัน- จุดแรกเลยคือห้องอเนกประสงค์ จะมีขนาดกว้าง ติดหน้าต่าง สามารถจัดเป็น Bedroom ได้อีก 1 ห้อง
- ข้อต่อมาคือ Master Bedroom กว้าง มีพื้นที่จัดมุมทำงาน หรืออ่านหนังสือได้ พร้อมระเบียงในตัว
- ห้องน้ำของทั้ง 2 Type เข้า-ออกได้ 2 ทาง ใช้งานได้สะดวก
อยู่บน Prime Location ติดรถไฟฟ้า พร้อมห้างใหญ่ตรงข้ามโครงการ
ตัวโครงการ "Life Ladprao Valley" ตั้งอยู่บน ถ.พหลโยธิน ช่วงห้าแยกลาดพร้าวฝั่งขาเข้า ถือเป็น Prime Location โซนหนึ่งเลย เพราะรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ Central ลาดพร้าว ซึ่งอยู่ตรงข้ามโครงการเลย เดินทางถึงใน 5 นาทีเท่านั้น
ที่สำคัญเลยคือ โครงการยังใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ได้แก่สายสีเขียวสถานี ห้าแยกลาดพร้าว และ สายสีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน ซึ่งทั้ง 2 สถานีอยู่ในระยะที่สามารถเดินได้ 300 - 500 ม. เท่านั้น
นอกจากนี้ใกล้ๆ กับโครงการยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 700 ไร่ อย่างสวนรถไฟ สามารถไปสูดอากาศ พักผ่อนได้
ในอนาคตจะมีทั้ง Mega Project และตลาดนัดขนาดใหญ่ ตลอดแนว
"ห้าแยกลาดพร้าว" ยังถือเป็นทำเลแห่งอนาคตเลยก็ว่าได้ เพราะในอนาคตต่อๆ ไป จะมีโครงการ Mega Project เกิดขึ้นใกล้ๆ ทำเลนี้อีกถึง 3 โครงการ ได้แก่
- Central พหลโยธิน - คาดว่าเป็น Mixed-use มีทั้งศูนย์การค้า โรงแรม ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน
- Bangkok Terminal - Mixed-use ขนาดใหญ่ ติดสวนจตุจักร มีทั้ง สำนักงาน, ที่พักอาศัย, ศูนย์การค้า, บขส. เป็นต้น ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ในระหว่างศึกษาโครงการ
- Mochit Complex - เป็น Mixed-use เช่นกัน ภายในมีทั้งอาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า, สถานศึกษา และภัตตาคาร
