MARU ลาดพร้าว 15
คอนโดฯ เรียบง่ายแต่มีดีเทล ที่สะท้อนความเป็น Japanese Minimal ผ่านพื้นที่ส่วนกลาง
ทำเลที่ตั้งโครงการ
ทำเลที่ตั้งของโครงการ Maru ลาดพร้าว 15 จะตั้งอยู่ติดริม ถ.ลาดพร้าว ถัดจาก ซ.ลาดพร้าว 15 มาประมาณ 80 ม.จุดเด่นที่สำคัญของโครงการนี้ คือเรื่องความใกล้กับทางเข้าที่ 3 ของรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ระยะประมาณ 50 ม. ทำให้ในเรื่องของการเดินทางเข้า-ออกในตัวเมืองกรุงเทพฯ นั้นถือว่าค่อนข้างสะดวก
แต่ทั้งนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้น เนื่องจากทำเลลาดพร้าวเป็นทำเลที่มีผู้คนอยู่อาศัยจำนวนมาก อาจทำให้มีการกระจุกตัวของผู้คนที่สถานี MRT อยู่บ้าง
ในอนาคตนั้น MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว นั้นก็จะเป็นสถานี interchange ของ MRT สายสีเหลือง สถานีรัชดา อีกด้วย โดย MRT สายสีเหลือง จะเป็นเส้นที่วิ่งไปทางโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ไปทางศรีนครินทร์ - ลาซาล ซึ่งสถานะของโครงการ ก็อยู่ในระหว่างก่อสร้าง คาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้ใช้งานได้ในปลายปี 2564 นี้ เปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2565
สถานที่ที่น่าสนใจใน ทำเลลาดพร้าวก็ถือว่ามีเยอะมาก โดยที่เด่นๆ คงหนีไม่พ้น Central Plaza ลาดพร้าว, Union Mall และสวนจตุจักร
เริ่มจาก Central Plaza ลาดพร้าว และ Union Mall ที่เป็นศูนย์การค้า 2 แห่งอยู่บริเวณ ห้าแยกลาดพร้าว ภายในศูนย์การค้าที่ว่า ทั้ง 2 แห่งนี้ ก็เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารแบรนด์ดังๆ มากมาย สามารถมาเดินเล่นตากแอร์ ช้อปปิ้งหรือซื้อของอุปโภคบริโภคได้อย่างสะดวกสบาย
หากเราจะเดินไป Central ลาดพร้าว จากโครงการ จะมีระยะทางอยู่ประมาณ 1.5 กม. แต่ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถนั่ง MRT จากสถานีลาดพร้าว ไปลงที่สถานีพหลโยธิน ที่ห่างกันเพียงสถานีเดียวเองครับ
และหากเรานั่ง MRT ต่อมาอีกสถานีนึง ก็จะถึง MRT สถานีสวนจตุจักร ที่เป็นสถานี Interchange กับ BTS สายสีเขียว สถานีหมอชิต อีกทั้งบริเวณสถานีนี้ก็เป็นที่ตั้งสวนจตุจักร ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่เราสามารถมาใช้ออกกำลังกายหรือพักผ่อนหย่อนใจได้ หรือถ้าหากเป็นสายช้อป ก็สามารถไปเดินช้อปปิ้งที่ตลาดนัดสวนจตุจักรกันได้ ซึ่งที่นี่ก็มีของให้เลือกซื้อกัน ชนิดที่ว่ามีทั้งแต่เสื้อผ้าและสตรีทฟู้ดราคาเบาๆ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านราคาหลักแสน
Fact Sheet ของโครงการ
MARU ลาดพร้าว 15 เป็นโครงการ High Rise Condominium สูง 30 ชั้น (หากรวมชั้น Roof Top จะเป็น 32 ชั้น) อยู่บนที่ดินขนาด 1-3-0.7 ไร่ มียูนิตทั้งหมด 333 ยูนิต แบ่งเป็นยูนิตพักอาศัย 322 ยูนิต และยูนิตพาณิชย์ 1 ยูนิต
Project Concept แนวคิดของโครงการ
ด้านคอนเซ็ปต์ของโครงการนั้น เชื่อว่าหลายๆ คน น่าจะพอเดาได้ตั้งแต่ชื่อโครงการกันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าโครงการ MARU ลาดพร้าว 15 นี้จะมากับแนวคิด “Twisted Simple” หรือ "ที่เน้นการออกแบบที่เรียบง่ายใช้สีโทนธรรมชาติแบบ minimal แต่แฝงไว้ด้วย function การใช้งานและความสนุกเอาไว้” นั่นเอง
และความเรียบง่ายนี้ ไม่ใช่แค่เรียบๆ ธรรมดาๆ แต่เป็นการนำเอาดีเทล รายละเอียดต่างๆ ที่ผ่านการคิด การออกแบบมานำเสนอด้วยความเรียบง่ายนั่นเอง และทางโครงการก็ได้นำเสมอผ่านทางตัวสถาปัตยกรรมและการตกแต่งต่างๆในโครงการ ซึ่งเดี๋ยวเราจะค่อยๆ ไปดูที่ละส่วนครับ
Entrance & Drop off
เริ่มจากบริเวณทางเข้าของโครงการ จะเห็นได้ว่าทางเข้านั้นจะไม่ได้อยู่ตรงกับตัวอาคาร แต่จะอยู่เยื้องๆ กัน ตรงนี้จะมีข้อดี คือลูกบ้านที่อยู่บริเวณ Lobby และ Co-Living Space ที่ชั้น G จะรู้สึกได้ความเป็นส่วนตัวและความสงบมากขึ้น
เมื่อเดินเข้ามาในโครงการ ทางด้านซ้ายมือจะเป็นที่จอดจักรยานสำหรับลูกบ้าน และหากมองไปด้านหน้าก็จะพบกับ Drop off สำหรับวนรถมาจอดส่งคนที่หน้า Lobby โดยตรงส่วนนี้ก็ได้มีการตกแต่งด้วย Floating Sculture ที่มีลักษณะเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม จากระแนงไม้ ที่เรามักได้เห็นตามงานสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น
Verdure Forest
Co-Working Forest
ส่วนของ Co-Working Forest ที่เป็นพื้นที่สีเขียวฝั่งด้านหน้าโครงการ ที่จะมีการจัดชุดโต๊ะ-เก้าอี้ ไว้หลายรูปแบบ สำหรับไว้ใช้นั่งทำงานหรือนั่งอ่านหนังสือ ช่วงเช้าๆหรือเย็นๆ โดยถึงแม้สวนบริเวณนี้จะอยู่ติด ถ.ลาดพร้าว
แต่ทางโครงการก็ได้มีการออกแบบให้มีระแนงไม้กั้นเป็นแนว ซึ่งช่วยบังสายตาจากภายนอกเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ทำให้พื้นที่ดูทึบตันจนเกินไป
Lobby & Reception
Co-Living Space
ทางซ้ายมือของ Lobby ก็จะเป็น Co - Living Space ที่จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานหรือมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่ตรงนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยชั้น 1 ก็จะจัดเป็นชุดโต๊ะ-เก้าอี้ตามมุมต่างๆ มีบริการตู้กดขนมให้
ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ Indoor แต่ก็มีการออกแบบให้มีผนังกระจกเต็มบานสูงจากพื้นถึงเพดาน ให้แสงธรรมชาติได้ส่องเข้าถึงภายในตัวอาคาร และผู้ใช้งานจะยังสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียว ของ Co - Working Forest ที่อยู่ทางด้านหน้าอีกด้วย
Swimming Pool
บริเวณด้านข้างของสระว่ายน้ำ จะเป็นชุดที่นั่งและ Day Bed สำหรับขึ้นมานั่งพักระหว่างว่ายน้ำ และยังมี Kid Pool อยู่ใกล้ๆ สำหรับให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาเล่นน้ำอีกด้วย
Co - Creation Space
บริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำ ฝั่งเดียวกับโถงลิฟท์ ในส่วนของ Indoor จะเป็น Co - Creation Space ที่จะเป็นพื้นที่ครัว ที่โครงการนั้นได้เตรียมเครื่องใช้และอุปกรณ์สำหรับทำครัวไว้ให้ เพื่อให้ลูกบ้านได้มาสร้างสรรค์เมนูที่ต้องการ หรือจะพาเชฟส่วนตัว มาจัด Chef Table ให้ก็ได้เช่นกัน
ซึ่งจากในห้องนี้ ก็สามารถนั่งทานอาหารไป ชมวิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองไปด้วยได้ โดยเราสามารถเปิดประตูออก เพื่อทำให้พื้นที่เป็น Semi-Out Door Space เชื่อมพื้นที่ระหว่างด้านในและนอกเข้าด้วยกัน
เมื่อเราเดินออกมาด้านนอก Co - Creation Space แล้วจะเจอ Pantry Deck & Daybed Area ไว้สำหรับมานั่งชิว พักผ่อนใต้ร่มไม้ ริมสระว่ายน้ำครับ
Fitness & Yoga Fly
ต่อมาเป็นส่วนของ Fitness ครับ ที่จะมีจุดเด่นที่ตำแหน่งของ Fitness อยู่ตรงมุมอาคาร ทางโครงการจึงออกแบบให้เป็นผนังกระจก 2 ด้านเข้ามุม ตั้งแต่พื้นถึงเพดาน เป็นการเปิดมุมทัศนียภาพให้กว้างมากขึ้น อีกทั้งยังตกแต่งด้วยวัสดุผิวมันและกระจก ทำให้ Fitness ดูกว้างและโปร่งมากขึ้น
เดินถัดเข้ามาจาก Fitness จะเป็นส่วนของห้อง Yoga Fly ที่มีเพดานสูงถึง 5 ม. ทำให้ลูกบ้านที่มาใช้งาน สามารถออกท่าทางได้อย่างเต็มที่
นอกเหนือจากพื้นที่ส่วนกลางที่กล่าวมาแล้ว ในชั้นนี้ยังมีส่วนกลางอื่นๆ อย่าง ห้องซาวน่า และห้องซักอบรีด ที่โครงการมีการจัดตรียมเครื่องรีดผ้าไอน้ำไว้บริการลูกบ้านด้วย
Rooftop Facilities
กระโดดข้ามมายัง Facilities ชั้น Roof Top ที่อยู่บนสุดของโครงการ MARU ลาดพร้าว 15 เลยครับ
เมื่อเดินออกจากโถงบันไดมาจะสามารถเดินออกมาได้ 2 ทาง คือฝั่งที่เป็น Outdoor Pool Table หรือฝั่ง BBQ Sunken Terrace
หากพูดถึงเรื่องการมองเห็นแล้ว เนื่องจากตัว Core ของอาคารอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ทำให้ไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหนของชั้นนี้ ก็จะยังสามารถเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ อย่างชัดเจนและไม่มีตึกรอบๆ มาบังวิว
ด้านพื้นที่ ทางโครงการได้มีการออกแบบให้ในแต่ละฟังก์ชั่นมีการเล่นระดับพื้นที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเป็นการแบ่งพื้นที่การใช้งานให้มีความหลากหลายมุมมอง
ในด้านความสวยงามนั้น ก็ช่วยให้ในชั้นนี้มีหลากหลายมากกว่าเป็นแค่พื้นเรียบๆ มีโต๊ะวางไว้
พูดถึงภาพรวมและการออกแบบมาพอสมควรแล้ว คราวนี้เรามาเจาะดูในแต่ละฟังก์ชั่นกันบ้างว่า สามารถใช้งานแบบไหนได้บ้าง
Outdoor Pool Table
Outdoor Pool Table ที่เราสามารถชวนเพื่อนๆ มาเล่นกันได้ สังเกตุการตกแต่งรอบๆ โครงการก็ยังใช้ระแนงไม้ในการตกแต่ง ทั้งส่วนที่เป็นฉากกั้น และส่วนที่อยู่ด้านบน ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่ ที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกโปร่งโล่ง ไม่ปิดกั้นมุมมอง แต่ก็ยังได้ตวามเป็นสัดส่วนRelax Forest
ข้างๆ กันจะเป็นส่วนของ Relax Forest ที่ปลูกต้นไม้และไม่พุ่มเอาไว้ ให้ฟีลมานั่งในสวนมาเงาร่มไม้ ประมาณนี้ โดยโครงการจะมีเตรียมที่นั่งแบบเป็น Daybed และส่วนที่เป็น Sunken กดพื้นลงไปเป็นที่นั่ง เหมาะสำหรับใครที่อยากมมานั่งพักผ่อนในส่วน และต้องการความเป็นส่วนตัวในระดับนึงครับOutdoor Theatre
Outdoor Theatre โดยจะมีลักษณะเป็น Amphitheatre คลุมด้วยระแนงไม้ด้านบนและมีผ้าใบสำหรับฉายภาพจาก Projector ในบริเวณนี้เราก็สามารถพาเพื่อนๆ มาฉายหนัง ดู Netflix ที่นี่ ก็ให้อารมหนังกลางแปลงไปอีกแบบ
ทั้งนี้ เราก็สามารถใช้นั่งเล่น พักผ่อน ตรง Amphitheatre ได้ ไม่จำเป็นมาดูหนังอย่างเดียว
BBQ Sunken Terrace & Floating Daybed
Stargazing Deck
เรียกได้ว่าส่วนนี้เป็น Roof Top ของ Roof Top อีกทีหนึ่งครับ คือเราต้องขึ้นบันไดจากชั้น Roof Top ขึ้นมาอีกชั้น จะเป็นกับพื้นที่ที่เรียกว่า Stargazing Deck สำหรับไว้มานั่งดูดวงดาว ในยามค่ำคืนนั่นเอง
บนชั้นนี้เราสามารถมองเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนได้ถึง 270 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้โครงการยังมีการซ่อนกิมมิคเล็กๆไว้ อย่างไฟที่อยู่บนพื้นก็จะสามารถเรียงต่อกันเป็นรูปกลุ่มดาวสิงโตได้ด้วยนะครับ
สรุปเกี่ยวกับ Facilities ในโครงการ
ฟังก์ชั่นการใช้งาน
สำหรับฟังค์การใช้งาน เรียกได้ว่า MARU ลาดพร้าว 15 จัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะมาก รวมๆ แล้วโครงการนี้มีส่วนกลางให้ถึง 8 ชั้น 45 แบบเลยทีเดียว ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าตอบโจทย์คนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ มีส่วนกลางต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย ตาม Lifestyle ของแต่ละคนเลยครับ
การออกแบบและตกแต่ง
ด้านการออกแบบภายนอกของโครงการด้วยแนวคิด Minimal Modernizeและ Japanese luxury สำหรับการตกแต่งภายใน ผสมผสานออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ของโครงการ คือ “Twisted Simple” ซึ่ง ก็ได้ Keep ความเป็นญี่ปุ่นและนำเสนอออกมาได้อย่างชัดเจนเลยครับ เริ่มจากโทนสีของโครงการ ที่จะคุมโทน ขาว-น้ำตาลจากไม้และยังดึงเอาเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น อย่าง การใช้ระแนงไม้มาใช้ประดับตกแต่งบริเวณพื้นที่ส่วนกลางต่างๆที่มาพร้อมการใช้งานและแฝงความสนุกเอาไว้อีกด้วยห้องตัวอย่างของโครงการ
1 Bedroom - 30.15 sq.m.
ห้องขนาด 30.15 ตร.ม. จะเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการครับ ค่อนข้างเหมาะแก่การอยู่ 1-2 คน ด้านฟังก์ชั่นภายในห้องเริ่มจาก เมื่อเราเข้าห้องมาจะเป็นส่วนของชุดครัวที่โครงการจัดให้มา พร้อมกับตู้ต่างๆ ที่จะ Built-in ให้พร้อมเลยครับ
มาถึงส่วน Living Area ตรงนี้ ก็สามารถจัดเป็นโซฟากับชั้นวางทีวีได้ ขนาดพอดีๆ ส่วนอีกฝั่งก็สามารถทำเป็นชุดโต๊ะทำงาน Built-in แบบในห้องตัวอย่างก็ได้ หรือจะทำเป็นโต๊ะทานข้าวเล็กก็ได้เช่นกัน
จุดที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องนี้เลย คงหนีไม่พ้นประตูบานเลื่อนไม้ ที่เป็นประตูห้องน้ำ ที่เราสามารถเลื่อนมาปิดบริเวณครัว เพื่อทำเป็นครัวปิด ในเวลาที่เราประกอบอาหารที่มีกลิ่นแรงได้
2 Bedroom - 60.40 sq.m.
ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 60.40 ตร.ม. เป็นขนาดห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ครับ โดยฟังก์ชั่นการใช้งานก็จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ครัว ครับ
เมื่อเข้าห้องมาเราจะมาอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่นและครัวครับ ทางฝั่งห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงที่สามารถมองออกไปเห็นวิวเมืองได้ แต่ตรงนี้จะมีจุดสังเกตตรงที่ ตำแหน่งของห้องแบบนี้ นั้นจะอยู่ตรงจุดมุมของอาคาร เวลามองออกไปก็อาจจะเห็นระเบียงของห้องข้างๆ ซึ่งถ้าเราค่อนข้างใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะติดม่านหรือฟิล์มเพิ่มเติมได้ครับ
ข้างๆ กับห้องนั่งเล่น ก็จะเป็นตู้ Built-in และชุดครัวยี่ห้อ Franke ครับ ซึ่งจะจัดเป็นแบบเข้ามุมครับ ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถใช้ทำอาหารแบบเบาๆ ได้ครับ อาทิ สลัด แซนวิช ขนมปังปิ้ง ถั่วแระต้ม โซบะเย็นเป็นต้น
ทางฝั่งผนังตรงทางเข้าก็จะเป็นตู้เก็บของที่โครงการ Built-in มาให้ครับ สามารถใช้เก็บของได้พอสมควรเลยครับ
มาในส่วนของห้องนอนใหญ่กันบ้างครับ ห้องนี้จะเป็นเป็นกระจกเข้ามุมครับ มองเห็นวิว ถ.ลาดพร้าว ยาวไปถึงห้าแยกลาดพร้าวเลยครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website โครงการ MARU Ladprao 15
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://bit.ly/35Dh8ET
Line Official : http://line.me/ti/p/[email protected]
หรือโทร Major Development Call Center 1266