Mavista Prestige Village Krungthep Kreetha บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ระดับ Super Luxury ในสไตล์ Art Deco ที่โอบล้อมด้วยสนามกอล์ฟถึง 2 แห่ง เรียกได้ว่าหรูสุดในย่านกรุงเทพกรีฑา จากกลุ่ม Major Development เจ้าของโครงการตระกูล M ทั้งหลายอย่าง Marque, Maestro และ Marrakesh Huahin
ท่ามกลางสังคมระดับพรีเมี่ยม พิเศษเฉพาะ 14 ครอบครัวเท่านั้น พร้อม Facilities ส่วนตัวภายในบ้าน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับ Hi-End ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งพื้นที่สำหรับครอบครัว ส่วนรับรองแขก และแยกส่วนเซอร์วิสอย่างชัดเจน ซึ่ง Realist จะพาไปสำรวจบ้านหรูราคาเริ่มต้น 90 ล้านบาทนี้ ว่ามีความพิเศษอย่างไรกันบ้างค่ะ
กรุงเทพกรีฑา ทำเลบ้านหรูที่น่าจับตามอง
บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามอง
เห็นได้จากโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน จาก Developer มากหน้าหลายตาที่หันมารุกตลาดโซนนี้กันมากขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวของย่านเศรษฐกิจสำคัญสู่โซนพระราม 9
ประกอบกับทำเลนี้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท และ New CBD พระราม 9 ได้สะดวก
ครอบคลุมด้วยเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย ทั้งถนน ทางด่วน และรถไฟฟ้า
รายล้อมด้วยสนามกอล์ฟ และโรงเรียนนานาชาติ
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างของถนนเส้นนี้ คือ เป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟถึง 2 แห่ง
ได้แก่ สนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา และ Unigo Grande Golf Course
ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดกลุ่มลูกค้าระดับบน และสะท้อนให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ของย่านนี้ได้เป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ตามมา ทั้งโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลในเครือเอกชนชื่อดัง ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์
ราคาประกาศขายที่ดินกรุงเทพกรีฑาสูงกว่าราคาประเมิน 312%
จากแนวโน้มการพัฒนาที่ดินในโซนกรุงเทพกรีฑาที่มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ย่อมส่งผลต่อมูลค่าที่ดินด้วยเช่นกัน สำหรับราคาประเมินที่ดิน ในปี 2559-2562 รวมถนนใหญ่และซอยแยกย่อยแล้วพบว่าส่วนที่อยู่ในเขตบางกะปิ ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกกระจุกตัวอยู่บริเวณนั้นค่อนข้างมาก ประกอบกับเป็นโซนที่พัฒนามานานแล้ว จึงทำให้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 บ./ตร.ว. มากกว่าเขตสะพานสูงซึ่งเป็นโซนพัฒนาใหม่ที่น่าจับตามอง และมีค่าเฉลี่ยราคาประเมินอยู่ที่ 16,000 บ./ตร.ว. เมื่อรวมทั้งสองเขตทำให้ราคาประเมินที่ดินของย่านกรุงเทพกรีฑาอยู่ที่ 26,000 บ./ตร.ว.
ในขณะที่ราคาประกาศขายตามท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตามซอยย่อย หาที่ดินติดถนนใหญ่ได้ยากแล้ว ก็ยังมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 107,000 บ./ตร.ว. หรือมากกว่าราคาประเมินถึง 312% นับเป็นตัวเลขที่น่าสนใจมากทีเดียว
และแน่นอนว่าสิ่งที่จะแปรผันไปตามราคาที่ดินก็คือมูลค่าของสิ่งปลูกสร้าง ประกอบกับศักยภาพทำเลที่ได้พูดถึงไปเมื่อซักครู่ ทำให้โซนกรุงเทพกรีฑา กลายเป็นอีกหนึ่งทำเลทองของบ้านเดี่ยวสุดหรูระดับ Super Luxury ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และสังคมระดับพรีเมี่ยมนั่นเอง
Mavista Prestige Village Krungthep Kreetha
หนึ่งในโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน ที่อาจเรียกได้ว่าหรูสุดในย่านกรุงเทพกรีฑาแห่งนี้ ได้รับการออกแบบจากบริษัทสถาปนิกชื่อดัง palmer and turner ซึ่งเข้าถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของลูกค้าระดับบนเป็นอย่างดี
ทำให้บ้านเดี่ยวสุดหรูในสไตล์ Art Deco ขนาดพื้นที่ใช้สอย 914 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 230 – 275 ตร.ว. ที่มีเพียง 14 ยูนิตทั้งโครงการนี้ โดดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ
Fact Sheet
- ชื่อโครงการ: Mavista Prestige Village Krungthep Kreetha
- เจ้าของโครงการ: MJP Property co., ltd.
- ที่ตั้งโครงการ: ถ.กรุงเทพกรีฑา
- พื้นที่โครงการ: 12-0-74 ไร่
- ประเภทโครงการ: บ้านเดี่ยว 3 ชั้น
- จำนวนยูนิต: 14 ยูนิต
- ขนาดที่ดิน: 230-275 ตร.ว.
- แบบบ้าน: 1 แบบ พื้นที่ใช้สอย 914 ตร.ม. ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 4-6 คัน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ลิฟต์โดยสาร Maid Pavilion และระบบ Home Automation
- สิ่งอำนวยความสะดวก: Jogging Track, Patio Court, Multiplay Area, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., สวนรอบโครงการ, ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน
- ราคาเริ่มต้น: 90-170 ล้านบาท
- เงินจอง: 500,000 บาท
- ค่าทำสัญญา: 10%
- เงินดาวน์: 10%
- ค่าส่วนกลาง: 150 บ./ตร.ว.
Floor Plan
แรงบันดาลใจจากยุค Gatsby
แรงบันดาลใจของการออกแบบโครงการนี้ได้รับอิทธิพลมาจากยุค Gatsby หรือ Jazz Age ในช่วงปี 1920 – 1930 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 6 – รัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นยุคเดียวกับในภาพยนตร์เรื่อง The Great Gatsby ที่สร้างมาจากนิยายในชื่อเดียวกัน โดยจำลองภาพสังคมยุค 1920s ของอเมริกาออกมาได้ชัดเจนมาก จนกลายเป็นชื่อยุคไป
เอกลักษณ์ของยุคนี้ ทั้งการแต่งกาย และสถาปัตยกรรม ถูกสื่อสารออกมาในรูปแบบของความหรูหราอลังการ โดยเฉพาะลวดลายเรขาคณิตสีทอง บนพื้นสีเข้ม ซึ่งทางโครงการได้นำมาประยุกต์ใช้ในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณโถงลิฟต์และบันได
สังคมคุณภาพ ระดับ Super Luxury เอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะ 14 ครอบครัว
ราคาเริ่มต้นของโครงการนี้อยู่ที่ 90-170 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่สูงมาก เมื่อเทียบกับโครงการบ้านหรูระดับ Super Luxury หลายๆ โครงการ หรือการซื้อที่ดินและจ้างสถาปนิกออกแบบบ้านในงบประมาณที่เท่ากัน
แต่หากมองในมุมกลับกัน ด้วยกำแพงราคาที่สูงถึงหลักร้อยล้านนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และทำเลสุดพิเศษที่หาได้ยากแล้ว แต่ยังรวมไปถึงการคัดสรรสังคมสุดพรีเมี่ยม แวดล้อมด้วยเพื่อนบ้านระดับเดียวกันอีกด้วย
วิวสนามกอล์ฟสุดพรีเมี่ยม
ที่ตั้งของโครงการถูกขนาบข้างด้วยสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ 2 แห่ง ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ประกอบกับการออกแบบตัวบ้าน และการวางผังโครงการ ทำให้สามารถเปิดมุมมองรับวิวพื้นที่สีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตาได้อย่างเต็มที่
โดยเฉพาะยูนิตทางทิศตะวันออก ติดกับสนามกอล์ฟ Unico Grande Golf Club และอยู่ช่วงต้นๆ ของโครงการที่สามารถเข้า-ออก ได้สะดวก จึงได้รับความนิยม และถูกจับจองไปเป็นที่เรียบร้อย
มุมมองจากบ้านตัวอย่าง
ซึ่งถ้าดูจาก Master Plan ของโครงการแล้วจะพบว่า มีถึง 10 ยูนิตจากทั้งหมด 14 ยูนิตที่ได้รับวิวจากสนามกอล์ฟ
โดยลักษณะการจัดวางตัวบ้านทำให้ยูนิตที่ 1, 2, 3, 10 และ 11 ได้เปรียบในแง่ของมุมมองที่เปิดกว้างจากฝั่ง Unico Grande Golf Course
ส่วนยูนิตที่ 12 และ 13 อาจจะเห็นส่วนที่จอดรถของสนามกอล์ฟบ้างเล็กน้อย
ยูนิตที่ 6, 7 และ 14 จะได้วิวจากฝั่งสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑาที่อยู่ห่างออกไป โดยมีคลองคั่นกลาง แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นมุมมองที่ดี
ส่วนยูนิตที่ 4, 5, 8 และ 9 ที่อยู่ตรงกลาง จะได้รับวิวสระว่ายน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ
Court กลางบ้านพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านเป็นหลัก
ทำให้ทางโครงการและสถาปนิกผู้ออกแบบ เลือกที่จะนำสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ เข้ามาไว้ในบ้านแต่ละหลัง เป็น Private Swimming Pool ขนาด 6 x 12 ม.
โดยมีกลุ่มอาคารล้อมรอบเป็นรูปตัว U ทำให้เกิดสเปซตรงกลางบ้าน สามารถใช้เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวสำหรับคนในครอบครัว หรือจัดปาร์ตี้ริมสระน้ำได้สบายๆ
นอกจากนี้ยังเป็นจุดเชื่อมมุมมองจากส่วนต่างๆ ของบ้านเข้าไว้ด้วยกัน
ใหญ่อลังการ พร้อมความหรูหรามีระดับ ด้วยฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วน
Circulation
การจัดสรรฟังก์ชั่นที่ลงตัว ทำให้ทางสัญจรภายในบ้านมีความเป็นระเบียบ ทั้งทางหลัก ทางรอง และเส้นทางสำหรับเซอร์วิส อย่างกรณีที่ลูกๆ เพิ่งกลับจากโรงเรียน ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่กำลังรับแขกอยู่ทางหน้าบ้าน และไม่อยากรบกวนบทสนทนาสำคัญ ก็สามารถใช้ทางเข้ารอง (Sub Entrance) ที่ด้านข้างตัวบ้าน เข้าสู่โถงลิฟต์ เดินลัดไปนั่งเล่นทำการบ้านที่ส่วน Family Room หรือตรงขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบนได้เลยZoning
ตัวบ้านเป็นอาคาร 3 ชั้นรูปตัว U โอบล้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวที่อยู่บริเวณ Court กลางบ้าน นอกจากจะให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับแต่ละครอบครัวแล้ว ยังทำให้ฟังก์ชั่นภายในบ้านที่มีมากถึง 914 ตร.ม. เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยฝั่งหน้าบ้านใช้สำหรับรับรองแขกเป็นหลัก ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว ตรงกลางเป็นส่วนที่ใช้งานร่วมกัน เช่น Pantry, Family Room และโถงลิฟต์ เป็นต้นDouble Volume Living Room สูง 8 เมตร
บรรยากาศแรกที่สัมผัสได้ทันทีนับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาภายในตัวบ้าน คือ ความโอ่โถงของห้องรับแขกที่มีความสูงจากพื้นจรดฝ้าถึง 8 เมตร เทียบเท่ากับพื้นที่สเกลใหญ่ๆ อย่างโรงแรมได้เลย
เพราะ Double Volume ของบ้าน Luxury ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร
นอกจากนี้ยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ ประกอบกับการตกแต่งซุ้มประตู หน้าต่าง ด้วยลวดลายแบบ Art Deco ยิ่งทำให้ห้องรับแขกนี้ดูหรูหราสมฐานะ และเหมาะสำหรับรับรองแขกคนสำคัญ
His & Her มุมส่วนตัว ในห้อง Master Bedroom
สำหรับโครงการบ้านหรูย่อมต้องมี Master Bedroom ขนาดใหญ่เป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่โครงการ Mavista Prestige Village นี้นับว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
และถ้าดูจากสัดส่วนของ Walk-in Closet และห้องน้ำ Master Bathroom เทียบกับพื้นที่พักผ่อน จะเห็นได้ว่ามีขนาดค่อนข้างกว้าง สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าระดับบน
โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับความงาม และเครื่องแต่งกาย ไม่น้อยไปกว่าการพักผ่อนเลยทีเดียว
Maid Pavilion พื้นที่สำหรับแม่บ้านโดยเฉพาะ
บ้านหรูระดับนี้ นอกจากพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว พื้นที่รับรองแขก ยังต้องมีพื้นที่สำหรับแม่บ้านอย่างน้อยๆ 2-3 คน เพื่อดูแลความเรียบร้อยในบ้าน
ซึ่งทางโครงการก็ได้เตรียมฟังก์ชั่น Maid Pavilion ประกอบด้วยห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้าน ที่แยกส่วนอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือออกจากกัน นอกจากจะแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจนแล้ว ยังทำให้เกิด Flow ของการใช้งาน ตอบโจทย์บ้านหลังใหญ่ที่มีแม่บ้านกลายๆ คน อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีส่วนครัวหลังบ้าน ห้องซักรีดที่มีประตูกั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งดีในแง่ของความสะอาด และ Common Area สำหรับรับประทานอาหาร และนั่งพักผ่อนขนาดใหญ่อีกด้วย
โดยส่วนของ Maid Pavilion นี้ยังมีทางลาดเข้า-ออก จากทางหลังบ้าน และประตูกั้นเป็นสัดส่วนจาก Pantry ภายในบ้าน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้านอีกด้วย
Show Unit
ชั้น 1
ตัวบ้านสูง 3 ชั้นสไตล์ Modern Classic ตกแต่งด้วยลวดลายแบบ Art Deco หน้าบ้านประกอบด้วยทางเข้าหลัก และที่จอดรถ 4-6 คัน พร้อม EV Charger ด้านข้างตัวบ้านมีทางลาดเชื่อมไปยัง Sub Entrance และช่องทางเซอร์วิสของแม่บ้านบริเวณหลังบ้าน
สระว่ายน้ำส่วนตัวที่ Court กลางบ้านห้อมล้อมด้วยกลุ่มอาคารรูปตัว U สามารถมองเห็นได้จากส่วนต่างๆ ของบ้าน พื้นที่ริมสระน้ำกว้างขวาง เชื่อมต่อกับส่วน Pantry สะดวกสำหรับการจัด Pool Party โดยไม่รบกวนการพักผ่อนของสมาชิกในบ้าน ด้วยประตู-หน้าต่างที่ทำจากกรอบอลูมิเนียมกันเสียงอย่างดี
โถงทางเข้าบ้าน เชื่อมต่อกับส่วนรับแขก และทางเดินที่เชื่อมไปยังส่วนต่างๆ ของตัวบ้าน
ห้องรับรองแขกบริเวณหน้าบ้าน ให้ความรู้สึกโอ่โถงด้วย Double Volume Space สูงถึง 8 เมตร
โถงลิฟต์และบันไดที่เชื่อมต่อจาก Foyer หน้าบ้านและ Sub Entrance ด้านข้างตัวบ้าน เพิ่มความหรูหราโดดเด่นด้วยลวดลายสไตล์ Art Deco และพื้นบันไดลายหินอ่อนที่ให้มากับตัวบ้าน
ส่วน Pantry พร้อมเครื่องครัวครบชุด Wine Cellar และเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ เพียงเปิดประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำและ Deck ด้านนอก ก็สามารถจัดปาร์ตี้ริมสระได้สบาย
ห้องรับประทานอาหาร ต่อเนื่องจากส่วน Pantry
เสมือนเป็นห้องรับแขกอีกหนึ่งห้องที่ให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านในสุดของตัวบ้าน ต่อจากส่วนรับประทานอาหาร เหมาะสำหรับรับรองแขกที่ค่อนข้างสนิทสนม หรือใช้เป็นห้องเรียนพิเศษสำหรับลูกๆ
ห้องเก็บรองเท้า อยู่ใกล้กับ Sub Entrance และโถงลิฟต์
พื้นที่สำหรับแม่บ้าน ประกอบด้วยส่วนครัวไทย ห้องซักรีด และห้องพักส่วนตัวอีก 2 ห้อง หากบ้านไหนมีแม่บ้านเยอะหน่อย อาจจะดัดแปลงห้องเก็บของและห้องซักรีดที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง ให้กลายเป็นห้องพักเพิ่มอีกก็ยังได้ ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็น Common Area สำหรับแม่บ้านโดยเฉพาะ สามารถเข้าออกได้โดยตรงจากทางลาดหลังบ้าน ซึ่งถ้าติดตั้งประตูและตัวล็อคให้แน่นหนา ก็จะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับบ้านได้อีกชั้น
ชั้น 2
พื้นที่นั่งเล่นดูหนังสำหรับสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะ และ Window Seat ที่เปิดรับมุมมองกว้างด้วยกระจกสูงเต็มบาน เชื่อมต่อกับโถงทางเดินชั้น 3 ด้วย Double Volume Space
บริเวณชั้น 2 ฝั่งเดียวกับห้องรับแขกด้านล่าง ทางโครงการได้ตกแต่งไว้เป็นห้องฟิตเนส ซึ่งอาจปรับเป็นห้องทำงาน หรืออื่นๆ ได้อเนกประสงค์
ห้องนอนนี้ตั้งอยู่บนชั้น 2 ที่ปีกด้านในสุดของตัวบ้าน บางส่วนของห้องที่ยื่นออกไปเหนือ Deck ของสระว่ายน้ำเป็นกระจกสูงเต็มบาน ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติและเปิดมุมมองอย่างเต็มที่ สามารถวางโต๊ะทำงาน หรือชุดโซฟานั่งเล่น และทำให้สเปซของห้องมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น
Walk-in Closet ภายใน Bedroom 1 เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว
ห้องน้ำภายใน Bedroom 1 ประกอบด้วยอ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์ยาว โถสุขภันฑ์ และส่วน Shower พร้อมกระจกกั้นอาบน้ำบานเปลือย
ฟังก์ชั่นใกล้เคียงกับห้องนอนเมื่อซักครู่ เพียงแต่ตั้งอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน ติดกับส่วน Family Room
Walk-in Closet ภายใน Bedroom 1 เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว
ห้องน้ำภายใน Bedroom 1 ประกอบด้วยอ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์ยาว โถสุขภันฑ์ และส่วน Shower พร้อมกระจกกั้นอาบน้ำบานเปลือย
ชั้น 3
ห้องนอน Master Bedroom ตั้งอยู่บนชั้น 3 ปีกด้านในสุดของตัวบ้าน นอกจากมิติภายในห้องที่กว้างขวางแล้ว โครงสร้างยังแข็งแรงเพียงพอสำหรับเป็นจุดติดตั้งตู้นิรภัยประจำบ้านได้อีกด้วย
Walk-in Closet ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่พอๆ กับส่วนพักผ่อนเมื่อซักครู่ สามารถแบ่งตู้เสื้อผ้าเป็นสองฝั่ง His & Her โดยมี Island เก็บ Accessories อยู่ตรงกลาง
ห้องน้ำภายใน Master Bedroomถูกจัดวางแบบสมมาตรซ้าย-ขวา ที่นอกจากจะแบ่งส่วนของ Shower และโถสุขภัณฑ์แล้ว ยังแบ่งเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็น His & Her อีกด้วย
ห้องทำงานที่ชั้น 3 ของตัวบ้าน ภายในมีห้องน้ำในตัว สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้
ห้องนอนรับรองสำหรับแขก ตั้งอยู่ทางปีกด้านหน้าของตัวบ้าน เช่นเดียวกับห้องรับแขก และฟิตเนส
Walk-in Closet ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่พอๆ กับส่วนพักผ่อนเมื่อซักครู่ สามารถแบ่งตู้เสื้อผ้าเป็นสองฝั่ง His & Her โดยมี Island เก็บ Accessories อยู่ตรงกลาง
ห้องน้ำภายใน Master Bedroomถูกจัดวางแบบสมมาตรซ้าย-ขวา ที่นอกจากจะแบ่งส่วนของ Shower และโถสุขภัณฑ์แล้ว ยังแบ่งเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็น His & Her อีกด้วย
