Nirvana Beyond พระราม 2

ทำเลพระราม 2 นับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพของบ้านระดับ Luxury ด้วยการเดินทางที่ใกล้จุดเชื่อมต่อเข้าสู่ CBD อย่างทางพิเศษเฉลิมมหานคร รวมถึงในอนาคตจะมีโครงการสะพานพระราม 2 เกิดขึ้น โดยเชื่อมกับถนนพระราม 3 ทำให้สามารถเดินทางจาก ถ.พระราม 2 สู่ตัวเมืองได้โดยไม่เสียค่าผ่านทาง และยังมีทางพิเศษกาญจนาภิเษก รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางอีกด้วย
โดยทาง Realist จะมาวิเคราะห์อีกหนึ่งโครงการบ้าน Luxury ในย่านนี้ คือ โครงการ Nirvana Beyond พระราม 2 โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นของ Nirvana ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยถึง 3 Generations ตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนทั้ง 2 ทาง คือ ทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษกาญจนาภิเษก รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง เซ็นทรัล พระราม 2
รูปแบบบ้านระดับ Luxury ในปัจจุบัน
INFO : Nexus Thailand (March 2018)
บ้านระดับ Luxury นั้น แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. บ้านแนวราบ มีจำนวนชั้น 2-3 ชั้น กับ 2. บ้านแนวสูง มีจำนวนชั้น 4-7 ชั้น โดยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว จะพบว่าบ้านแนวราบส่วนใหญ่จะมีขนาดที่ดิน (ตร.วา) ที่มากกว่าในพื้นที่ใช้สอยที่เท่ากัน เนื่องจากบ้านระดับ Luxury แนวราบมักจะอยู่ในโซนนอกเมือง เมื่ออ้างอิงจากกฎหมายผังเมืองกรุงเทพฯ จะอยู่ประมาณโซนสีเหลืองถึงสีส้ม คือ อยู่ในโซนที่ดินอยู่อาศัยหนาแน่นน้อยถึงปานกลาง
ทำให้มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่ดิน (FAR : Floor Area Ratio) น้อยกว่าโซนพาณิชยกรรมหรือโซนที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก ดังนั้นจึงต้องใช้พื้นที่ดินมากกว่าในการสร้างบ้านหนึ่งหลังที่มีพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน ทำให้บ้านแนวราบมีข้อดีตรงที่ส่วนมากจะได้ขนาดที่ดินเยอะกว่า ในขณะที่บ้านแนวสูงมักจะอยู่ในเมือง ทำให้มีความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งบ้านทั้ง 2 ประเภท ก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่ต่างกันคนละแบบ
ทำเลที่มีศักยภาพสำหรับบ้านระดับ Luxury
INFO : Nexus Thailand (March 2018)
บ้านระดับ Luxury กระจายตัวออกเป็น 7 โซนใหญ่ๆ ในกรุงเทพ แต่ละโซนล้วนเป็นทำเลที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียนขนาดใหญ่ รวมถึงความสะดวกด้านการเดินทาง ทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละทำเล ซึ่งโซนที่มีความหนาแน่นของบ้านระดับนี้มากที่สุดนั้น ได้แก่ โซนสุขุมวิท โดยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านประเภทบ้านแนวสูง ส่วนโซนที่อยู่นอกเมืองออกมา เช่น โซนราชพฤกษ์ โซนพระราม 2 ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านประเภทแนวราบ
ทำเลพระราม 2 ทำเลแห่งศักยภาพ
ทำเลพระราม 2 เป็นทำเลที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งด้านการเดินทาง อยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนคือ ทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ที่เชื่อมไปยังจุดต่างๆทั้งในและนอกเมือง ห้างสรรพสินค้า มีห้างใหญ่จากเครือเซ็นทรัล คือ ห้างเซ็นทรัล พระราม 2 ส่วนด้านการศึกษาก็มีทั้งมหาวิทยาลัย คือ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี และโรงเรียนขนาดใหญ่ ได้แก่ โรงเรียนเลิศหล้า, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน และ Norwich International School รวมถึงยังใกล้โรงพยาบาลอีกหลายแห่ง คือ รพ.บางปะกอก 9, รพ.บางมด, รพ.นครธน และ รพ.พานาซี พระราม 2
โครงการในอนาคตของทำเลพระราม 2
ในอนาคตบริเวณ ถ.พระราม 2 จะมีโครงการใหม่อีก 4 โครงการมาช่วยเชื่อมต่อเส้นทางจาก ถ.พระราม 2 ไปยังที่อื่นๆ มากขึ้น โดยโครงการที่คาดว่าจะเปิดให้บริการเร็วที่สุด คือ ทางด่วนดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก คาดว่าสามารถเปิดใช้บริการได้ ปี 63 โดยจะมีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยาคู่ขนานไปกับสะพานพระราม 9 หรือสะพานแขวนในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดความหนาแน่นของการจราจรเข้าสู่ตัวเมืองในชั่วโมงเร่งด่วนได้
ทางด่วนพิเศษ พระราม3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก
มอเตอร์เวย์เชื่อมใต้ ธนบุรี-ปากท่อ-วังมะนาว
โครงการก่อสร้างถนนยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร เป็นมอเตอร์เวย์ 6 ช่องจราจร เชื่อมจากบริเวณสิ้นสุดทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) หรือบริเวณพระราม 2 ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก ให้สามารถเชื่อมกับเส้นทางนครปฐม-ชะอำ บริเวณใกล้กับแยกวังมะนาว
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน – วังมะนาว
นิคมอุตสาหกรรมในย่านพระราม 2
INFO : Realist Research 1/2561
ในบริเวณพระราม 2 นั้นมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ 2 นิคมด้วยกันคือ นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร และ นิคมอุตสาหกรรมสินสาครโดยทั้งสองจะตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 30 กม. ย่านนี้จึงเป็นย่านที่มีพนักงานไปจนถึงระดับนักธุรกิจเจ้าของกิจการอาศัยอยู่เยอะ จากข้อมูลจาก datawarehouse พบว่าในเขตบางขุนเทียน แขวงแสมดำนั้น มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ประมาณ 46 ที่ โดยรายได้เฉลี่ยของโรงงานในย่านนี้ คือ 49,859,078 บ./ปี สามารถคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่ากับมีรายได้เดือนละ 4,154,923 บ./เดือน เลยทีเดียว
บ้านเดี่ยวระดับ LUXURY ในย่านพระราม 2
โครงการ : Ladawan Rama 2
ผู้พัฒนา : Land & House
ราคา : 50-150 ลบ.
พื้นที่โครงการ : ประมาณ 82 ไร่
จำนวนยูนิต : 122 ยูนิต
ที่ตั้ง : ถ.พระราม 2 บางขุนเทียน กรุงเทพฯ
โครงการ : Narasiri Rama 2
ผู้พัฒนา : Sansiri
ราคา : 23-50 ลบ.
พื้นที่โครงการ : 37-0-45 ไร่
จำนวนยูนิต : 57 ยูนิต
ที่ตั้ง : ถ.พระราม 2 บางขุนเทียน กรุงเทพฯ
โครงการ : Lake Serene Rama 2
ผู้พัฒนา : Risland
ราคา : 12-30 ลบ.
พื้นที่โครงการ : ประมาณ 193 ไร่
จำนวนยูนิต : 403 ยูนิต
ที่ตั้ง : ถ.พระราม 2 บางขุนเทียน กรุงเทพฯ
โครงการ : Grandio
ผู้พัฒนา : Golden Land
ราคา : 7.99-27 ลบ.
พื้นที่โครงการ : 83-0-52 ไร่
จำนวนยูนิต : 304 ยูนิต
ที่ตั้ง : ถ.พระราม 2 อ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร
NIRVANA BEYOND พระราม 2
โครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern มีจำนวนยูนิตเพียงร้อยกว่าหลัง บนพื้นที่โครงการเกือบ 42 ไร่ บ้านที่เป็นมากกว่าบ้าน ที่จะทำให้เปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตอย่างแตกต่างและลงตัว อีกทั้งทุกฟังก์ชั่นการใช้งานตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างมีเอกลักษณ์ ใกล้ทุกจุดเชื่อมต่อการเดินทาง
FACT
โครงการ : Nirvana Beyond พระราม 2
ผู้พัฒนา : Nirvana Daii PLC.
ราคา : 19.9-40 ลบ.
พื้นที่โครงการ : 41-2-88 ไร่
ที่ตั้ง : ถ.พระราม 2 บางขุนเทียน กรุงเทพฯ
จำนวนยูนิต : 120 ยูนิต
แบบบ้าน : มีแบบบ้าน 2 ชั้น และ 3 ชั้น
แบบบ้าน 2 ชั้น 3 แบบ ได้แก่ Sane, Reach, Quest
แบบบ้าน 3 ชั้น 5 แบบ ได้แก่ Keen, Niche, Live, Most, Pride
สิ่งอำนวยความสะดวก : คลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สนามเด็กเล่น, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนส่วนกลาง, ระบบไฟฟ้าใต้ดิน, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., CCTV, Double Gate System
บ้านกับการใช้ชีวิต 3GENS ย่านพระราม 2
ในปัจจุบันถึงแม้ว่าคนนิยมแยกตัวออกมาสร้างตัวเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น แต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังอยู่อาศัยแบบครอบครัวขยาย เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ เช่น ครอบครัวมีความอบอุ่น มีโอกาสดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด รวมถึงสามารถฝากลูกๆ ให้ท่านดูแลในยามที่ไปทำงานหรือธุระได้ ซึ่งการอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่นั้น มักจะเป็นการอยู่ด้วยกันของคน 3GENS โดยมีโอกาสที่จะอยู่รวมกัน 2 แบบ คือ
Baby Boomers Gen X Gen Z จะเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุวัยเกษียณ พ่อ แม่ จะอายุช่วง 40-50 ปี และมีลูกอายุไม่เกิน 20 ปี
Baby Boomers Gen X Gen Z จะเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุวัยเกษียณ พ่อ แม่ จะอายุช่วง 30 - 40 ปี และมีลูกอายุไม่เกิน 20 ปี
ซึ่งการเลือกสรรบ้านที่สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายของคนในครอบครัวที่อยู่ด้วยกันหลายช่วงวัยนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงในการเลือกบ้านลำดับแรกๆ นอกจากเรื่องฟังก์ชั่นภายในบ้าน สภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และการเดินทาง
สรุปข้อมูลและจุดเด่นของแบบบ้าน 3 ชั้น
วิเคราะห์แบบบ้าน PRIDE
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : 550 ตร.ม.
ฟังก์ชั่น : 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ
โดยจากด้านหน้าบ้าน ชั้น 1 ประตูทางเข้าจะอยู่ด้านซ้ายของที่จอดรถ และถัดมาจะเป็นบันไดที่เชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่บริเวณชั้น 2 ซึ่งติดกับห้องนั่งเล่น ส่วนบริเวณชั้น 3 จะเป็นโซนของห้องนั่งเล่น
การจัดการพื้นที่ภายในบ้าน
การจัดการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านสามารถแบ่งโซนออกได้เป็น 3 โซนเช่นเดียวกับแบบบ้าน 2 ชั้น คือ
1. Public Area : ส่วนใช้งานรวมและรองรับแขก
2. Semi-Private Area : ส่วนพื้นที่ใช้งานรวมภายในครอบครัวและแขกบางเวลา
3. Private Area : ส่วนพื้นที่ส่วนตัวของคนในครอบครัว
ซึ่งตัวบ้าน มีการจัดการพื้นที่ Public จะอยู่เพียงชั้น 1 ที่เป็นโซนทานอาหารและชั้น 2 ส่วนของสระว่ายน้ำเท่านั้น ส่วนที่เชื่อมต่อมา เช่นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น จะเป็น Semi-Private และส่วนของห้องนอนทั้งหมดเป็น Private
USER
มีการออกแบบให้เอื้อต่อผู้อยู่อาศัยทุกคนในบ้าน โดยทางสัญจรหลักนอกจากบันไดแล้ว ยังมีการติดตั้งลิฟท์ ทำให้ผู้สูงอายุภายในบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่ภายในบ้านได้ทุกชั้น และบริเวณชั้น 3 ที่เป็นชั้นของห้องนอนลูกๆ ยังมีพื้นที่พักผ่อนบริเวณตรงกลางชั้น ทำให้เกิดการพบปะของสมาชิกในชั้นนั้น หรืออาจปรับเปลี่ยนการใช้สอยเป็นพื้นที่ทำงาน หรือห้องสมุด ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ พื้นที่นั่งเล่น โซนทานอาหารก็มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับกิจกรรมต่างๆได้
การจัดการทางสัญจรภายในบ้าน
ทางสัญจรของบ้านสามารถแบ่งออกเป็น 4 ทางหลัก ได้แก่
1. Lift : เส้นทางสีเขียว โดยจะอยู่บริเวณเดียวกับบันได ซึ่งสามารถขึ้นได้ถึงชั้น 3 ของตัวบ้าน
2. Visitor Route : เส้นทางสีน้ำเงินเป็นเส้นทางของแขก โดยสามารถเข้าถึงได้บริเวณส่วนต้อนรับของบ้าน พื้นที่ทานอาหารบริเวณชั้น 1 และสระว่ายน้ำ บริเวณชั้น 2 ของบ้าน
3. Family Route : เส้นสีแดงเป็นเส้นทางของคนในครอบครัว ซึ่งสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ภายในบ้าน
4. Service Route : เส้นทางสีเทาใช้เป็นส่วนสำหรับทางบริการ ในส่วนของแม่บ้าน โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้ทางเข้า-ออกร่วมกับเจ้าของบ้านและแขก ซึ่งเข้าทางบริเวณด้านข้างของตัวบ้าน
ความโดดเด่นของบ้าน
มีการออกแบบบริเวณกลางบ้านให้เป็นคอร์ท ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ตามไลฟ์สไตล์ ความต้องการของคนในบ้าน โดยอาจเป็นพื้นที่ที่ช่วยสร้างเสริมให้เกิดกิจกรรมภายในบ้าน หรือเป็นพื้นที่ที่ก่อให้เกิดความสบายตา เช่น พื้นที่สวน โดยพื้นที่ส่วนนี้ยังเป็นพื้นที่โล่งที่มีการเชื่อมต่อตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 3 ซึ่งทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้าถึงภายในบ้าน และทำให้บ้านมีความโปร่ง สร้างความรู้สึกสบายในการอยู่อาศัย
สรุปข้อมูลและจุดเด่นของแบบบ้าน 2 ชั้น

วิเคราะห์แบบบ้าน QUEST
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : 365 ตร.ม.
ฟังก์ชั่น : 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ
โดยจากด้านหน้าบ้าน ชั้น 1 จะพบกับพื้นที่ Terrace ตรงกลาง ที่มีการใช้ Double Volume ซึ่งเชื่อมต่อกับทางเข้าบ้าน ส่วนบริเวณที่ติดกันจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีกระจกเปิดให้แสงธรรมชาติเข้ามาสู่ตัวบ้านถึง 3 ด้าน และมีการใช้ Double Volume เช่นเดียวกัน ชั้น 2 บริเวณด้านซ้ายจะเป็นห้องนอน 2 ส่วนขวามือจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีกระจกบริเวณ Double Volume ให้สามารถมองเห็นกิจกรรมในห้องนั่งเล่นได้
การจัดการพื้นที่ภายในบ้าน
การจัดการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านสามารถแบ่งโซนออกได้เป็น 3 โซน ได้แก่
1. Public Area : ส่วนใช้งานรวมและรองรับแขก
2. Semi-Private Area : ส่วนพื้นที่ใช้งานรวมภายในครอบครัวและแขกบางเวลา
3. Private Area : ส่วนพื้นที่ส่วนตัวของคนในครอบครัว
โดยมีการออกแบบโซน Public-Private ไว้อย่างเหมาะสม คือ มีการจัดให้โซน Private อยู่บริเวณด้านในของชั้น 1 และบริเวณชั้น 2 ของบ้าน ส่วนพื้นที่ที่เป็นโซนรับแขกก็จัดไว้ให้อยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก
USER
มีการออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านรองรับกับความต้องการของทุกคน ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ ออกแบบให้ห้องนอนอยู่บริเวณชั้นล่าง สามารถเข้าถึงได้สะดวก และยังอยู่บริเวณด้านในของบ้านติดกับพิ้นที่สวนด้านนอก ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเงียบ สงบ และยังสามารถเชื่อมต่อกับส่วนอื่นภายในบ้านได้สะดวก กลุ่มพ่อ แม่ ห้องนอนมีขนาดใหญ่ และมีช่องเปิดที่ติดกับพื้นที่โซนนั่งเล่น ทำให้สามารถมองเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน รุ่นลูก ห้องนอนอยู่บริเวณชั้นเดียวกับพ่อ แม่ ทำให้ไปมาหากันสะดวกสบาย และภายในห้องยังมีพื้นที่สำหรับมุมส่วนตัวอีกด้วย
การจัดการทางสัญจรภายในบ้าน
ทางสัญจรของบ้านสามารถแบ่งออกเป็น 3 ทางหลัก ได้แก่
1. Visitor Route : เส้นทางสีน้ำเงินเป็นเส้นทางของแขก โดยสามารถเข้าถึงได้บริเวณส่วนต้อนรับของบ้าน พื้นที่ห้องนั่งเล่น
2. Family Route : เส้นสีแดงเป็นเส้นทางของคนในครอบครัว ซึ่งสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ภายในบ้าน
3. Service Route : เส้นทางสีเทาใช้เป็นส่วนสำหรับทางบริการ ในส่วนของแม่บ้าน โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้ทางเข้า-ออกร่วมกับเจ้าของบ้านและแขก
ความโดดเด่นของบ้าน
บ้านของ Nirvana มีความโดดเด่นในการออกแบบ Space การออกแบบทั้งภายนอกและภายในแบบ Double Volume บริเวณทางเข้าตรง Terrace และบริเวณโซนนั่งเล่น ช่วยส่งเสริมให้บ้านมีความหรูหรา และโปร่งโล่ง ทำให้คนที่พักอาศัยภายในบ้านไม่รู้สึกอึดอัด
เปรียบเทียบระหว่างแบบบ้าน 2 ชั้น และ 3 ชั้น ของ Nirvana Beyond พระราม 2
โดยสรุป แบบบ้านของ Nirvana Beyond พระราม 2 แบบ 2 ชั้น และ 3 ชั้น มีความแตกต่างกันในหลายด้าน คือ
1. ขนาดที่ดิน : มีขนาดเริ่มต้นใกล้เคียงกัน แต่แบบบ้านขนาดใหญ่สุดของ 2 ชั้น จะได้พื้นที่ที่มากกว่า
2. พื้นที่ใช้สอย : แบบบ้าน 3 ชั้น จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า โดยมีพื้นที่ตั้งแต่ 311-550 ตร.ม.
3. ฟังก์ชั่น : แบบบ้าน 2 ชั้น จะมีเพียง 4 ห้องนอนเท่านั้น ส่วนแบบบ้าน 3 ชั้น จะมีมากสุดถึง 5 ห้องนอน
4. จุดเด่น : แบบบ้าน 2 ชั้น จะเน้นการใช้ Double Volume เพื่อทำให้บ้านโปร่ง ในขณะที่แบบบ้าน 3 ชั้น จะใช้คอร์ท และการเล่นระดับของตัวบ้านที่ทำให้บ้านมีเพดานที่สูง
นอกจากนี้โครงการนี้ยังมีข้อโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดของบ้านทุกแบบ คือ มีห้องนอนชั้นล่างเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ และห้องนอนทุกห้องยังถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำในตัว เหมือนเป็น Master Bedroom ทุกห้อง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางสำหรับครอบครัวมีขนาดกว้างขวางเพื่อรองรับการอยู่กันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่
INTERIOR
Bedroom
Bedroom
Bathroom
Living Room

Dining Room
Dining Room
Dining Room
Swimming Pool
FACILITIES
- ระบบไฟฟ้าใต้ดิน
- คลับเฮ้าส์
- ฟิตเนส
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- สนามเด็กเล่น
- สวนส่วนกลาง
- รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
- ระบบกล้อง CCTV
- Double Gate System
สรุปภาพรวมโครงการ Nirvana Beyond พระราม 2
โครงการ
Nirvana Beyond พระราม 2 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดปานกลางถึงครอบครัวขนาดใหญ่ โดยตัวโครงการมีเพียง 120 ยูนิต ทำให้โครงการมีความสงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะกับการอยู่อาศัย ซึ่งตัวแบบบ้านเอง
มีการออกแบบรูปลักษณ์ให้มีความทันสมัย และมีให้เลือกถึง 8 แบบบ้าน แบ่งเป็น บ้าน 2 ชั้น 3 แบบบ้านและ 3 ชั้น 5 แบบบ้าน
ฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้าน พื้นที่ใช้สอย ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับคนถึง 3GENS ด้วยกัน และยังมีการออกแบบโดยใช้ Double Volume และ Courtyard กลางบ้าน ยิ่งทำให้บ้านมีความอยู่สบาย
นับว่าเป็นโครงการบ้านระดับ Luxury ที่มีฟังก์ชั่นคุ้มค่า ในทำเลศักยภาพ ไม่ไกลจากตัวเมือง
NIRVANA BEYOND พระราม 2
หากสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์ด้านล่าง
หรือติดต่อ โทร 1787