realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (222)
 (318)
 (387)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (222)
 (318)
 (387)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
 

MITRTOWN OFFICE TOWER

หนึ่งใน OFFICE ที่ SMART ที่สุดของไทย

สามย่านมิตรทาวน์ เป็นอีกหนึ่งโครงการ Mixed-Use ที่น่าสนใจในเวลานี้ของ บ.โกลเด้นแลนด์ ที่ร่วมทุนกับ บ.ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยปัจจัยแรกที่ทำให้โครงการโดดเด่นคือเรื่องของทำเล ที่อยู่ใจกลางพื้นที่ CBD ของกรุงเทพ อย่างเส้นพระราม4 ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่าน หากโครงการเปิดให้บริการ ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าที่นี่จะกลายเป็นอีกหนึ่ง Landmark หลักของย่านที่ดึงดูด และทำให้ย่านนี้ยิ่งคึกคักเพิ่มขึ้นไปอีก และเนื่องจากโครงการประกอบไปด้วย Office, Retail, Condo และ Hotel ทำให้กลุ่มผู้ใช้งานมีความหลากหลาย 
ทั้งในส่วนของ Retail ที่นอกจากเป็นแหล่งรวมร้านค้าร้านอาหารแล้ว ยังมีพื้นที่ Learning Area ไว้สำหรับนักศึกษา ได้มานั่งทำงานหรืออ่านหนังสือกันอีกด้วย ส่วนตัวคอนโดก็มีการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งใน Tower ให้เป็นห้องพักโรงแรม โดยทั้งสองส่วนมีการแยกส่วนกลางออกจากกันอย่างชัดเจน สุดท้ายคือส่วนของ Office ที่มีพื้นที่เช่าต่อชั้นมากถึง 2,000 ตร.ม.เลยทีเดียว ซึ่งในบทความนี้ทาง Realist จะพาผู้อ่านไปพิจารณาถึงความโดดเด่นข้อต่างๆ ของส่วนนี้กัน รวมถึงพาไปสำรวจตลาดอาคารสำนักงานในไทย ว่าปัจจุบันตลาดนี้มีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง ทั้งในพื้นที่ CBD และ Non-CBD ครับ
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ บ.โกลเด้นแลนด์และโครงการอื่นๆในเครือเพิ่มเติม คลิก .

ภาพรวมตลาด Office ในไทย

info : CBRE
จากตารางแสดงสถิติ Office Supply และ Office Demand จะเห็นว่าOffice มีอัตราการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา สอดคล้องกันกับผู้เช่าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน โดยคาดว่าในปี 2021 จะมี Office ให้เช่าเกือบ 9 ล้าน ตร.ม. และมีอัตราการเช่าในตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน 
อีกทั้งเปอร์เซ็นของ Vacancy Rate ยังลดลงเรื่อยๆโดยในปี 2018 นี้จะลดลงเหลือเพียง 7.5% เท่านั้น ในภาพรวมตลาด นั้นทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่ตลาดอาคารสำนักงานจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบรับกับความต้องการกลุ่มผู้เช่ารายใหม่ ที่มีเพิ่มขึ้นในทุกปี
  info : CBRE
ในส่วนของภาพนี้ เมื่อพิจารณาในพื้นที่ CBD จากผลสำรวจของ CBRE พบว่าในปี 2018 Vacancy Rate มีเพียง 7.5% เท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้ว Vacancy Rate มีการลดลงจากเมื่อสิบปีก่อนคือปี 2008 ที่มีเกือบ 15% 
 จึงสามารถสรุปในภาพรวมได้ว่า แม้ตัวกราฟจะไม่ได้มีอัตรา Take-up และ Vacancy ที่ก้าวกระโดดนัก แต่ก็ยังคงเติบโตไปในทิศทางที่ดี และสามารถมั่นใจได้ว่าตลาดนี้ในอนาคตจะยังคงทรงตัว และมีความต้องการพื้นที่สำนักงานอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน โดยเฉพาะพื้นที่เช่า Office เกรด A ในพื้นที่ CBD ที่ยังคงมีจำกัดในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า

จำนวนสำนักงานเปิดใหม่ และราคาเช่าเฉลี่ยในย่าน CBD และ Non-CBD

info : CBRE กราฟแสดงจำนวน Office เปิดใหม่ในย่าน CBD และ Non-CBD ซึ่งจากกราฟเป็นที่น่าจับตามองว่าจากปี 2017 ถึง 2018 มีปริมาณ Office ใน CBD เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และต่อเนื่องไปถึงปี 2020 ที่จะมีออฟฟิศเปิดใหม่อีก เพื่อรองรับความต้องการของตลาด
info : CBRE กราฟแสดงราคาเฉลี่ยของ Office ในพื้นที่ต่างๆ ปัจจุบันราคาเฉลี่ยในพื้นที่ CBD อยู่ที่ 994 บ./ตร.ม. และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่ในเขต CBD เริ่มเพิ่มสูงขึ้น และ Office ใหม่ๆเริ่มทยอยเปิดตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

สำนักงานในพื้นที่ CBD มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่นอย่างไร?

พื้นที่ย่านธุรกิจกลางกรุงเทพมหานคร (Central Business District - CBD) -หมายถึงพื้นที่บริเวณ สีลม สาทร ถนนพระรามที่ 4 เพลินจิต ถนนวิทยุ อโศก และ สุขุมวิท (ช่วงต้นจนถึงซอย 24) โดยส่วนที่เป็นใจกลางจะประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานเกรด A โดยเฉพาะสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำระดับโลกจะตั้งอยู่ในย่านนี้ รวมไปถึงสถานทูต โรงแรม 5 ดาว และพื้นที่ศูนย์การค้าชั้นนำต่างๆ บริเวณพักอาศัยระดับ High-End หลายแห่งก็ตั้งอยู่ในบริเวณนี้เช่นเดียวกัน
พื้นที่ย่านธุรกิจกลางกรุงเทพมหานครส่วนนอก - พื้นที่นี้ครอบคลุมไปกับพื้นที่อยู่อาศัยหลักของกรุงเทพตลอดเส้นทางรถไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณจุดเริ่มต้นของถนนสุขุมวิทและอโศกจนถึงซอย 24 พื้นที่นอกย่านธุรกิจกลางกรุงเทพมหานครส่วนนอก - บริเวณย่านชานเมืองและพื้นที่โดยรอบ โดยพื้นที่เหล่านี้เป็นที่นิยมสำหรับบริษัทที่ไม่ต้องการอยู่ในย่านใจกลางย่านธุรกิจแต่ต้องการความสะดวกในการไปถึงบริเวณย่านพื้นที่อุตสาหกรรมและสนามบินได้โดยสะดวก อาคารสำนักงานที่มีที่ตั้งใกล้ หรืออยู่ในแนวระบบขนส่งมวลชนมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

แผนผังแสดงขอบเขตพื้นที่ CBD ของกรุงเทพ

ข้อดีของ Office ในพื้นที่ CBD คือ ตั้งอยู่ใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เช่าได้ โดยราคาค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่าในกรุงเทพจะขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งในเขตนั้นๆอีกทีหนึ่ง พื้นที่สำนักงานส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณย่านธุรกิจกลางกรุงเทพมหานครและรอบๆ ซึ่งครอบคลุมบริเวณ สีลม สาทร ถนนวิทยุและถนนสุขุมวิท
Image & Info : CBRE

สรุปย่าน Office Grade A ในพื้นที่ CBD

info : Nexus
จากตารางข้อมูลทำให้เราเห็นภาพรวมของ Office ในเขต CBD ได้อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกันแล้วพบว่า ย่านพระราม4 เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าจับตามอง เพราะมี Vacancy Rate เพียง 3.26% เท่านั้น ทำให้เห็นว่าย่านพระราม4 เป็นย่านที่มีอัตราการเช่าค่อนข้างสูง และความต้องการของผู้เช่ารายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโครงการที่กำลังก่อสร้างเตรียมพร้อมเปิดตัวอีกกว่า 625,000 ตร.ม. ซึ่งมากที่สุดในทุกๆย่าน ส่วนภาพรวมในด้านราคาเช่านั้นอันดับหนึ่งยังเป็นของย่านเพลินจิต และพระราม1 ที่มีราคาเช่า/ตร.ม. อยู่ที่ 1,013 บาท รองลงมาคือย่านวิทยุ ซึ่งราคาของทุกย่านนั้นมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในอนาคต แต่จะค่อยๆเปลี่ยนแปลง ไม่ปรับอย่างก้าวกระโดด เมื่อดูจากกราฟ Rental Rate ด้านบนประกอบ 
.

ความโดดเด่นของโครงการสามย่านมิตรทาวน์

ในบทความนี้ Realist จะพาผู้อ่านไปดูความโดดเด่นของโครงการสามย่านมิตรทาวน์  ในแต่ละข้อกัน โดยหลักๆแล้วจะเป็นเรื่องของทำเล ซึ่งตัวโครงการอยู่ในย่าน CBD พระราม4 โดยในทำเลเดียวกันก็มีสถานที่อื่นๆอย่าง Office และมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งระบบขนส่งสาธารณะ และรถส่วนตัว ข้อต่อมาคือเรื่องของการออกแบบอาคาร ในส่วนออฟฟิศนั้นมีพื้นที่ต่อ Floor ถึง 2,000 ตร.ม. และไม่มีเสากลางในแต่ละห้องที่แบ่งเช่า ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการจัดผังห้องของผู้เช่าเป็นอย่างมาก
ส่วนสุดท้ายคือเรื่องของการประหยัดพลัง ซึ่งโครงการได้ยื่น LEED แล้ว และคาดว่าจะได้ระดับ Gold ซึ่งทาง Realist จะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอธิบายให้ผู้อ่านได้รับทราบกันอีกด้วย อีกทั้งโครงการยังใช้หลอด LED ทั้งอาคาร ทำให้สามารถประหยัดไฟได้มากกว่าอาคารทั่วไปถึง 50% ด้วยกัน จากที่กล่าวมาทั้งหมด บอกเลยว่าโครงการสามย่าน มิตรทาวน์ เป็นอีกหนึ่งโครงการ Mixed-Use ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในตอนนี้ โดยตัวโครงการมีการก่อสร้างที่คืบหน้ากว่ากำหนดทำให้แผนการเปิดใช้งานในปี 2020 เลื่อนมาเป็น ต.ค. 2019 แล้วครับ
.

1. ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพ ( Central Business District - CBD )

โครงการสามย่านมิตรทาวน์ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับจามจุรีสแควร์ ติด ถ.พระราม4 ฝั่งเดียวกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเรื่องของการเดินทางมายังโครงการ สามารถมาได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งจากเส้นพระราม 1 วิ่งตรงมาฝั่ง MBK แล้วตัดเข้ามายัง ถ.พญาไท หรือหากมาจากทางราชดำริก็สามารถตัดมายังเส้นพระราม 4 ได้เลย 
ข้อเสียคือในชั่วโมงเร่งด่วน ถ.พระราม1 กับ ถ.พระราม4 ทั้งสองเส้นการจราจรจะติดขัดเล็กน้อย และย่านนี้ก็ไม่มีซอยลัดมายังโครงการได้ ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สามารถมาได้ทั้ง BTS และ MRT ถือว่าสะดวกที่สุด ซึ่งหากลงที่สถานีรถไฟใต้ดินสามย่าน ก็สามารถเดินผ่านทางเดินใต้ดินข้ามฝั่งจามจุรีสแควร์ขึ้นมายังโครงการได้

Point of Interest

จามจุรีสแควร์ 0.35 กม.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 0.6 กม.
สยามสแควร์ 1.4 กม.
มาบุญครอง 1.8 กม.
รพ.จุฬาฯ 1.4 กม.
สวนลุมพินี 1.3 กม.
สยามพารากอน 2.1 กม.
สยามดิสคัฟเวอรี่ 1.8 กม.

.

2. โครงการ Mixed-Use พร้อม Office ให้เช่าถึง 48,000 ตร.ม. แบบไม่มีเสากลาง

โครงการสามย่านมิตรทาวน์ เป็นโครงการแบบ Mixed-Use ที่ประกอบไปด้วย Office, Retail, Condo และ Hotel ทำให้การใช้งานในแต่ละส่วนล้วนแต่ Support ซึ่งกันและกัน โดยปัจจุบันโครงการ Mixed-Use เริ่มเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มของอสังหายุคใหม่ก็เริ่มจะเป็นไปในแนวทางนี้มากขึ้น โดยโครงการในไทยที่มีความโดดเด่นยกตัวอย่างเช่น One BangkokWhizdom 101Icon Siam, singha complex เป็นต้น  ในข้อนี้เราจะเน้นไปที่การวิเคราะห์ส่วน Office ขนาด 48,000 ตร.ม. เป็นหลัก โดยจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่เช่าต่อชั้นที่มีมากถึง 2,000 ตร.ม. คิดเป็นเปอร์เซ็นจะอยู่ที่ประมาณ 75% โดย Office ส่วนใหญ่ในพื้นที่ CBD จะมีพื้นที่สำหรับเช่าต่อชั้นอยู่ประมาณ 55-70% เป็นมาตรฐาน
โดยภาพรวมข้อดีของโครงการ สามย่านมิตรทาวน์ ในเรื่องของการมีส่วนผสมของ Residence และ Retail คือทำให้โครงการมีพื้นที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่วนของ Residence ได้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง โดยมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว
ในส่วนของ Retail นั้น ได้มีโซน พื้นที่ค้าปลีก 24 ชม. ไว้ให้บริการ ในบริเวณชั้น B1 - ชั้น 2 ประกอบไปด้วย ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฟิตเนส และ Co-Learning Space สำหรับให้นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไปได้ใช้บริการเพื่อ อ่านหนังสือ ทำการบ้าน ประชุม และติดต่องาน ตลอด 24 ชม.
.

อาคารแต่ละประเภทโดยแยกส่วนทางเข้าออกจากกัน ทำให้มีการใช้งานที่เป็นระบบ

เมื่อดูจากผังโครงการ จะเห็นว่าความพิเศษอีกข้อหนึ่งของโครงการสามย่านมิตรทาวน์ อยู่ที่การวางผัง โดยอาคารแต่ละประเภทจะมีส่วนของ Entrance แยกจากกัน ทำให้สามารถจัดการการสัญจรของผู้ใช้งานได้อย่างเป็นระบบ ข้อดีคือส่วน Residence และ Office มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม
อีกทั้งในส่วนของ Office ยังเพิ่มระบบ Self Check-in และ Destination Control Lift เพื่อการแบ่งโซนการใช้งานได้อย่างเหมาะสม เข้ามาเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนเป็นการทำงานผสมผสานระหว่างคนและเทคโนโลยี ซึ่งทางโครงการพิสูจน์มาแล้วว่าเหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคของประเทศไทย

ส่วน Office ถูกออกแบบให้ไม่มีเสากลางทำให้ได้พื้นที่ขนาดใหญ่

การที่มีพื้นที่เช่าแต่ละชั้นอยู่ที่ 2,000 ตร.ม. นั้นคิดเป็น 75% ของพื้นที่อาคารทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทางโครงการศึกษามาแล้วว่าเป็นขนาดที่ทำให้สามารถออกแบบพื้นที่เช่าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยพื้นที่มาตรฐานของ Office ให้เช่าโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 55-70% อีกทั้งในพื้นที่เช่าเองยังไม่มีเสากลางของอาคาร (Column-Free) ซึ่งรูปแบบของโครงสร้างแบบไม่มีเสากลางและมี Core ตรงกลางอาคารนั้นเป็นลักษณะของอาคารสมัยใหม่ ตัว Core ตรงกลางจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างผนังรับน้ำหนักอาคาร และมีการจัดวางห้องงานระบบให้อยู่ส่วน Core ของอาคาร ทำให้ช่วยลดการส่งผ่านความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารและสามารถควบคุมอุณหภูมิในอาคารได้คงที่

3. Smart Office ประหยัดพลังงานมากกว่าอาคารขนาดเดียวกันถึง 50%

ทางโครงการได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน โดยการใช้หลอดไฟ LED ทั้งโครงการในการพัฒนาโครงการตั้งแต่งานก่อสร้าง จนพัฒนาแล้วเสร็จ ดังนั้น โครงการสามย่านมิตรทาวน์จึงถือว่าเป็นโครงการ Mixed-Use แห่งแรกที่ใช้หลอด LED ทั้งโครงการ ส่งผลให้ในอนาคตผู้ที่เช่าโครงการจะสามารถประหยัดค่าไฟได้ค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังลดการใช้พลังงานได้มากกว่าอาคารขนาดเดียวกันได้ถึง 50%  อีกทั้งยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวคิดเป็น 20% ของโครงการ โดยทางโครงการตั้งเป้าว่าจะยื่นประเมินอาคารเขียว หรือ LEED ให้ได้ในระดับ Gold อีกด้วย

อย่างไรถึงเป็นอาคารประหยัดพลังงาน?

ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการพัฒนาเกณฑ์ประเมินอาคารขึ้นมา ซึ่งสามารถใช้ชี้วัดได้ว่าอาคารนี้เป็นอาคารเขียวหรือไม่ และมีระดับความเป็นอาคารเขียวระดับใด มาตรฐานดังกล่าวก็คือ มาตรฐาน LEED ซึ่งย่อมาจากคำว่า Leadership in Energy and Environmental Design  โดยมาตรฐาน LEED เป็นมาตรฐานที่เน้นเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบตามภาพทางด้านล่าง ซึ่งตามนิยามของมาตรฐาน LEED อาคารประหยัดพลังงานจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาคารเขียว เนื่องจากอาคารประหยัดพลังงานจะวัดกันที่ปริมาณพลังงานระหว่างการใช้สอยอาคารเป็นหลัก โดยมิได้คำนึงถึงพลังงานอื่นๆ 1. Sustainable Sites - การสร้างผลกระทบต่อที่ตั้งอาคารต่ำ การเพิ่มพื้นที่เปิดโล่งสีเขียวเพื่อลดปรากฎการณ์เรือนกระจก ลดการเกิดน้ำท่วมล้น  และลดการก่อมลภาวะทางแสงสว่างรบกวนสู่สภาพแวดล้อมข้างเคียงในเวลากลางคืน การเลือกสถานที่ตั้งที่การคมนาคมขนส่งมวลชนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อประหยัดพลังงานจากการใช้น้ำมัน หรือรถยนต์ส่วนตัว 2. Water Efficiency - เน้นการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมที่ไม่สิ้นเปลืองน้ำเพื่อการบำรุงรักษาต้นไม้ ซึ่งยังรวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการบำบัดน้ำเสียจากโครงการ 3. Energy & Atmosphere - เน้นการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีการนำพลังงานทดแทนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยตัวอาคารจะมีการวางระบบและตรวจสอบสภาพอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการตรวจวัดการใช้พลังงานของอาคาร (Measurement & Verification) 4. Material and Resources - เน้นการใช้วัสดุก่อสร้างอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ในการใช้งาน วัสดุนั้นต้องช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงานและสามารถรีไซเคิลได้เมื่อไม่ใช้งานแล้ว 5. Indoor Environmental Quality - เน้นที่การออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารจัดการให้อาคารมีสภาวะแวดล้อมภายในที่น่าสบาย ปลอดสารพิษ โดยวิธีการใช้วัสดุก่อสร้างและตกแต่งอาคารที่เหมาะสม การจัดให้มีการระบายอากาศที่เพียงพอ รวมถึงการได้รับแสงสว่างธรรมชาติ 6. Innovative and Design Process - เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการออกแบบอาคารด้วยรูปแบบใหม่ และการมีวิธีการหรือหลักเกณฑ์ใหม่ๆ มาใช้ในการทำอาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Building) ทำได้โดยการนำวิธีการหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกำหนดในมาตรฐานมาใช้ 7. Regional Priority - LEED ได้ระบุถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันภายในพื้นที่ของโครงการและให้เครดิตที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเหล่านั้น โดยสนับสนุนให้ทีมงานโครงการมุ่งเน้นที่ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น

.

ระดับของ LEED

 

.

การใช้หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานได้แค่ไหน?

แอลอีดี เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำพวกสารกึ่งตัวนำรูปแบบไดโอดชนิดเปล่งแสง จุดเด่นหลักคือการกำเนิดแสงในรูปแบบให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสารกึ่งตัวนำ ต่างจากหลอดไส้หรือหลอดตะเกียบที่ใช้เทคนิคกำเนิดความร้อนเพื่อกระตุ้นก๊าซในหลอดแก้วหรือใช้การเผาไหม้ใส้ทังสเตนในหลอดเพื่อให้เกิดแสงสว่าง แอลอีดีจึงมีขนาดชิ้นส่วนที่เล็กมากกว่าหลอดไฟปกติมากๆ และอายุการใช้งานสูงกว่าเพราะความร้อนต่ำมาก
LED ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนหลอดไฟฟ้ารูปแบบเดิม ยกตัวอย่างเช่น หลอดไฟแอลอีดีรูปแบบขั้น E26/E27 , หลอดแอลอีดีทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ขั้นแบบ T8 หรือ หลอดไฟแอลอีดีสำหรับโคมไฟติดเพดาน (โคมซาลาเปา) เป็นต้น

ภาพเปรียบเทียบอัตราการกินไฟระหว่างหลอดแอลอีดี กับหลอดชนิดต่าง ๆ

image : wemall.com
ข้อดีคือ การประหยัดไฟ จากตารางเปรียบเทียบปริมาณการกินไฟของหลอดแต่ละชนิดที่ให้ความสว่างเท่ากันจะสรุปได้ว่าแอลอีดีที่จำหน่ายตามท้องตลาด มีค่าวัตต์ความสว่างสูงเทียบเท่าหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์(หลอดตะเกียบ) และหลอดทังสเตน (หลอดไส้) ในปริมาณวัตต์ไฟฟ้าที่น้อยกว่า (วัตต์มากกินไฟมาก) เช่นในแอลอีดี 18 วัตต์ ให้ค่าความสว่างเท่ากับหลอดไส้แบบ 180 วัตต์ ซึ่งกินไฟต่างกันประมาณ 10 เท่า ข้อเสียคือ อัตราความสว่าง แสงส่องสว่างที่ออกจากหลอด LED จะมีลักษณะพุ่งตรงเป็นลำแสงไม่ค่อยมีการกระเจิงของแสง ทำให้แสงที่ได้จากหลอดไฟ LED นั้นจะครอบคลุมพื้นที่ได้ไม่กว้างเท่ากับหลอดแบบฮาโลเจน, ฟลูออเรสเซนต์ หรือทังสเตน

โครงการใช้กระจกแบบ Low-E และมีพื้นที่สีเขียว 20% ของที่ดินโครงการ

 
image : buildinggreen.com
กระจก Low-E  เป็นกระจกที่ผ่านการเคลือบชั้นโลหะโดยระบบ Pyrolytic ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเคลือบกระจกที่บางมาก มีคุณสมบัติ คือ ป้องกันความร้อนที่มาจากดวงอาทิตย์ เปรียบเสมือนฉนวนกันความร้อน นอกจากนี้ยังให้ค่าในการสะท้อนความร้อนที่ต่ำรวมถึงค่าในการถ่ายเทความร้อนที่ต่ำ พื้นที่สีเขียว 20% โดยส่วนหลักๆคือสวนดาดฟ้าขนาดใหญ่บน Retail ของโครงการ
.

สรุปภาพรวมโครงการ

โครงการสามย่านมิตรทาวน์ เป็นอีกหนึ่งโครงการ Mixed-Use ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานในเขต CBD เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนั้นมีอย่างครบครัน ทำเลที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ในราคาที่สมเหตุสมผล อีกทั้งโครงการยังมีความโดดเด่นในด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทำให้ผู้เช่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้มากกว่าอาคารสำนักงานทั่วไป
ในส่วนอื่นๆนอกจาก Office ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน แม้จะไม่ได้นำมาวิเคราะห์โดยละเอียด อย่างส่วน Residence ที่ผสมผสานระหว่าง Condo กับ Hotel หากดูในเรื่องความคุ้มค่าในการซื้อเพื่อลงทุนนั้น ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ในเหตุผลเดียวกันกับตัว Office คือเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกและทำเลครับ
.

โครงการ Office อื่นที่น่าสนใจในเครือ Golden Land

FYI Center

   
Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (222)
 (318)
 (387)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon