WALDEN แบรนด์คุณภาพ บน Prime Area "ทองหล่อ"
หากใครกำลังมองหาคอนโด Low Rise ที่สามารถจะตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการลงทุน และการอยู่อาศัย คงต้องมาดูในย่านทองหล่อเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เพราะเป็นย่านที่มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ตลอดเวลา รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนที่ชอบ "กิน เที่ยว ดื่ม" อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวกอีกด้วย
ในบทความนี้ REALIST จะพาผู้อ่านไปดู 2 โครงการ Low Rise ใหม่จาก Habitat Group ในชื่อ Walden Thonglor 13 และ Walden Thonglor 8 ซึ่งมีแนวคิดการออกแบบที่น่าสนใจ พื้นที่ส่วนกลางตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย อีกทั้งยังเป็นโครงการที่น่าลงทุนอีกด้วย ส่วนจะมีอะไรที่พิเศษอีกนั้นไปตามดูกันได้เลยครับ
ทำไม Habitat Group ถึงมาลงทุนทองหล่อ?
ย่านทองหล่อ ทำเลน่าจับตามองจนทำให้ Habitat มาลงทุนถึง 2 โครงการ เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างแหล่งช้อปปิ้ง และคอมมูนิตี้มอลล์ระดับคุณภาพ ในย่าน เช่น The Commons, J Avenue ที่มีกิจกรรมมากกว่าการจับจ่ายใช้สอยเพียงอย่างเดียว ซึ่งบางแห่งมีพื้นที่ Co-working space รวมอยู่ในพื้นที่แหล่งช้อปปิ้งอีกด้วย ส่วนโรงเรียนนานาชาติระดับคุณภาพชื่อดัง ที่มีกระจุกตัวในทำเลอยู่หลายแห่ง ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงเด็กโต เช่น Kids Kingdom International Kindergarten, Bangkok Prep เป็นต้น นอกจากนี้ในทำเลยังมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทั้งโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลคามิลเลี่ยน ทำให้อุ่นใจหากเจ็บป่วยอีกด้วย
ส่วนการสัญจรในทำเลทองหล่อนอกจากจะมีถนนหลัก รวมถึงมีซอยย่อยที่เชื่อมต่อไปยังทำเลสำคัญๆ ทั้งเอกมัย พร้อมพงษ์ อโศก เป็นต้น อีกทั้งปัจจุบันมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่หน้าถนนทองหล่อฝั่งสุขุมวิทที่ให้ความสะดวกกับคนที่เดินทางเข้าเมืองเป็นหลัก ส่วนในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเทา ตัดผ่านกลางถนนทองหล่อ ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสร้างมูลค่าของคอนโดให้คุ้มค่าแก่การลงทุนอีกด้วย
ภาพรวมคอนโดในทองหล่อ ที่อยู่ระหว่างการขาย
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยยอดฮิตสำหรับย่านนี้ คงหนีไม่พ้นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีทั้ง High Rise และ Low Rise หลายโครงการ
โดยถ้าเปรียบเทียบในเรื่องของราคา จะเห็นได้ว่า ราคาเฉลี่ยคอนโด Low Rise ในย่านนี้ ค่อนข้างต่ำกว่าคอนโด High Rise เกือบหนึ่งแสนบาทเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งมาจากความแตกต่างของที่ตั้ง เพราะถ้าเป็นคอนโด High Rise จะอยู่ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งทำให้ได้เปรียบเรื่องของการเดินทาง ส่วนคอนโด Low Rise จะอยู่ในซอยที่เชื่อมมาจากทองหล่อ ทำให้มีความสงบ เป็นส่วนตัวกว่า และพลุกพล่านน้อยกว่า
ส่วนอัตราการขายในทองหล่อตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 50 – 60 % สำหรับโครงการที่เปิดตัวมาไม่เกิน 5 ปี ซึ่งทั้ง Low Rise และ High Rise ก็มี Demand ที่สูสีกันทีเดียวครับ
ภาพรวมตลาด Low Rise ยังคึกคัก
ในส่วนตลาดของคอนโด Low Rise ที่ยังเปิดขายอยู่ มี Supply อยู่ไม่มาก โดยตอนนี้เหลือเพียง 1,192 ยูนิตเท่านั้น ในขณะเดียวกันในแง่ของราคาคอนโด Low Rise ก็มีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นกันคือมี Capital Gain เฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อปี
หากท่านผู้อ่านเห็นภาพตลาดโดยรวมแล้ว การที่ Habitat Group เห็นโอกาสนี้ก็ไม่แปลกที่จะเลือกมาลงทุน โดยครั้งนี้เตรียมเปิดตัวด้วยกันถึง 2 โครงการ โดยใช้แบรนด์ Walden เป็นหลักในชื่อ Walden Thonglor 8 และ Walden Thonglor 13 ซึ่งอยู่ในทำเลที่ดีทั้งคู่
นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยของคอนโด Low Rise ย่านทองหล่อที่ยังเปิดขายอยู่ พบว่ามีราคาที่สูงขึ้นทุกปี ซึ่งปี 2016 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 210,000 บาท/ตร.ม. จนมาถึงปี 2019 ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาที่ 255,000 บาท/ตร.ม. และคาดการณ์ว่าในปี 2020 ราคาเฉลี่ยจะขึ้นมาถึง 267,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือเป็นทำเลที่น่าลงทุนสำหรับคอนโด Low Rise อีกด้วยครับ
ประสบการณ์ของแบรนด์ WALDEN
ก่อนที่จะเข้าไปดูข้อมูลโครงการใหม่ ต้องขอย้อนกลับไปดูโครงการเก่าซักเล็กน้อย ซึ่งจากประสบการณ์ของแบรนด์ "Walden" ที่ผ่านมาทั้ง Walden Sukhumvit 39 และ Walden Asoke ซึ่งทั้ง 2 โครงการค่อนข้างประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขายและการลงทุนด้วยเช่นกัน หากดูตัวเลขจะพบว่า ทั้ง 2 โครงการใช้เวลาไม่นานสามารถมียอดขายไปแล้วถึง 80 % บนทำเลสุด Prime ทั้งอโศก และพร้อมพงษ์ ทำให้มีอัตราการเติบโตของราคาคอนโดเฉลี่ยอยู่ 6% และมี Gross Rental Yield อยู่ที่ 6 % ซึ่งค่อนข้างพิสูจน์ได้ว่าโครงการของ Developer เจ้านี้คุณภาพจริงๆ ครับ
จุดเด่นของ Walden Thonglor 8 และ 13 มีอะไรบ้าง?
Walden Thonglor 8
โครงการ Walden Thonglor 8
ที่ตั้งโครงการ ทองหล่อ 8 สุขุมวิท 55
จำนวนยูนิต 117 ยูนิต
ที่ดินโครงการ 1-0-2.7 ไร่
ความสูง 8 ชั้น
จำนวนที่จอดรถ 72 คัน
ประเภทห้องพัก
One bedroom types (usable area appx. 32 sq.m.)
One bedroom plus types (usable area appx. 40 – 47 sq.m.)
Two bedroom types (Usable area appx. 45 – 58 sq.m.)
Two bedroom Plus types (Usable area appx. 59 – 71 sq.m.)
ราคาเริ่มต้นประมาณ 7.9 ล้าน ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 235K บ./ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Basement 1st Floor Juristic office / Fitness
Ground Floor Lobby / Lounge / Outdoor recreation area with landscape
Roof floor Lap Pool / Jacuzzi / Pool Terrace / Floating Walkway / Sunken Seat / Onzen Hot Tub / Water Feature / Kids Pool / Playground / Family Sharing Space / Outdoor Pantry / Observation Deck / Floating Pool /Pavilion / Lawn / Edible Garden / Amphitheater / Step Planter Flower Garden / Shallow Pool / Feature Tree / Outdoor Shower /Party Area / Projector Wall / Outdoor Exercise / Dry Fountain / Changing Room
Design Concept
แนวคิดการออกแบบของโครงการ Walden Thonglor 8 มีความน่าสนใจทั้งในเชิงของสถาปัตยกรรม และภูมิสถาปัตยกรรม ซึ่งสถาปัตยกรรมของตัวโครงการออกแบบโดยบริษัท Paon โดยใช้แนวคิด Luxury in Refined Order ในการออกแบบ และในเชิงของภูมิสถาปัตยกรรมออกแบบโดยบริษัท Landscape Collaboration มีแนวคิดการออกแบบทั้ง 4 แนวคิดด้วยกัน อันได้แก่ Thonglor, Well-being, Art-Labyrinth และ Water Feature ด้วยการผสมผสานแนวความคิดนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของส่วนกลางออกมาสวยงาม หรูหรา และมีภาพลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
Facilities
สำหรับส่วนกลางของโครงการออกแบบมาให้ความรู้สึกหรูหรา มีการใช้ลายหินอ่อนในพื้นที่ Indoor รวมถึงกำแพงน้ำตกที่โอบล้อม Facilities โซนด้านล่าง ตั้งแต่ Fitness ชั้นใต้ดิน Lobby ชั้น 1 ไปจนถึง Meeting Room ชั้น 2 ก็ทำมาได้สวยงาม คาดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งมุมที่ลูกบ้านน่าจะมาใช้งานกันบ่อยๆ เลย
อีกหนึ่ง Highlight ที่น่าสนใจของโครงการ คือ Sky Light Hall ที่เป็นช่องแสงบนดาดฟ้า ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติลงมายังชั้น 1 ให้ความสว่างกับทางเดินของพื้นที่อยู่อาศัยในทุกๆ ชั้นแล้ว ยังตกแต่งด้วยประติมากรรมขนาดใหญ่อีกด้วย
ส่วนชั้นดาดฟ้า ก็จัด Facilities มาให้เต็มๆ ชั้น ทั้งพื้นที่พักผ่อน เช่น สระว่ายน้ำ, Jacuzzi, Onzen พื้นที่สำหรับสังสรรค์ เช่น Pantry, Party Area รวมไปถึงพื้นที่สำหรับคนชอบออกกำลังกายกลางแจ้งอีกด้วย
Show Unit
ห้องพักอาศัยในโครงการส่วนใหญ่เป็นขนาด One bedroom plus types (usable area appx. 40 – 47 sq.m.) ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 40% รองลงมาเป็น Two bedroom types (Usable area appx. 45 – 58 sq.m.) อยู่ที่ 38% โดยอิงมาจากขนาดห้องที่ได้รับความนิยมจากคนเลือกซื้อคอนโดในย่านนี้ เรียกได้ว่าออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ต้องการอยู่ในย่านนี้จริงๆ
ส่วนยูนิตแนวยาวฝั่งทิศตะวันตกที่ติดถนนกับทิศตะวันออกมีการออกแบบแปลนแบบ Interlock สลับกันระหว่างพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นในแนวตั้งของแต่ละชั้น ทำให้ได้พื้นที่ริมระเบียงสูงสุดถึง 3.45 ม.
Walden Thonglor 13
โครงการ Walden Thonglor 13
ที่ตั้งโครงการ สุขุมวิท 49/6 ถนนสุขุมวิท
จำนวนยูนิต 122 ยูนิต
ที่ดินโครงการ 1-0-23 ไร่
ความสูง 8 ชั้น
จำนวนที่จอดรถ 79 คัน
ประเภทห้องพัก 1 Bedroom – 36-50 ตร.ม. 1 Bedroom Plus – 41-46 ตร.ม. 2 Bedroom – 51-68 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้นประมาณ ล้าน ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 184K บ./ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
1st Floor Private Lobby / Outdoor recreation area with landscape / Fitness
Roof floor 13.00 m. x 3.75 m. Lap Pool / Jacuzzi / Pool Terrace / Floating Walkway / Vertical Garden / Onzen Hot Tub / Water Feature / Kids Pool / Playground / Family Seating / Party Area / Seat / Climbing Wall / Tube Green Wall / Exercise Wall / Bubble Foot Therapy /Shallow Pool / Feature Tree / Outdoor Shower / Amphitheater / Water Cascade / Pavilion / Pool Seat Barbeque
Design Concept
แนวคิดการออกแบบของโครงการ Walden Thonglor 13 มีความน่าสนใจทั้งในเชิงของสถาปัตยกรรม และภูมิสถาปัตยกรรม ซึ่งสถาปัตยกรรมของตัวโครงการออกแบบโดยบริษัท Tadah โดยใช้แนวคิด Japanese, Tropical, Thai Tradition และ Facade จากรูปแบบที่มี Reference ผสมผสานในการออกแบบได้อย่างลงตัว
รวมไปถึงในเชิงของภูมิสถาปัตยกรรมออกแบบโดยบริษัท Landscape Collaboration มีแนวคิดการออกแบบทั้งหมด 4 แนวคิดด้วยกัน อันได้แก่ Well-being, Water Cascade, Forest Terraces และ Forest Bathing ทำให้บรรยากาศของส่วนกลางดูสุนทรีย์ เหมาะแก่การพักผ่อนได้ในรูปแบบหลากหลายกิจกรรมอีกด้วยครับ
Facilities
ส่วนกลางของโครงการนี้ ออกแบบมาให้มีความ Tropical เน้นการตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นไม้ และความร่มรื่นของต้นไม้หลากหลายพันธุ์ คนที่รักธรรมชาติน่าจะถูกใจโครงการนี้ได้ไม่ยากเลย
พื้นที่ Facilities ส่วนใหญ่ของโครงการจะอยู่บริเวณชั้น 1 และชั้นดาดฟ้า โดยส่วนของชั้น 1 จะเป็นส่วนของที่นั่งพักผ่อน และ Fitness ที่โอบล้อม Landscape ที่มีการเล่นระดับของพื้นที่สีเขียวและสระน้ำเอาไว้
ส่วนบริเวณชั้นดาดฟ้า ก็ยังคงมีการเล่นระดับของพื้นที่สีเขียวและสระน้ำเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะบริเวณสระว่ายน้ำ ที่ล้อมด้วยสระตื้นๆ ด้านบน ก่อนปล่อยน้ำล้นออกมายังสระใหญ่ด้านล่าง ทำให้รู้สึกเหมือนว่ายน้ำอยู่ในน้ำตกขนาดย่อมๆ เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม Outdoor อีกหลายโซน ทั้งสังสรรค์ ออกกำลังการ หรือนั่งเล่น ตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุม
Show Unit
สำหรับห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาด One bedroom types (Usable area appx. 36 – 50 sq.m.) และ One bedroom plus types (Usable area appx. 41 – 46 sq.m.) ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 62% ส่วนที่เหลือจะเป็น Two bedroom types (Usable area appx. 51 – 68 sq.m.) อีก 37%
โดยยูนิตที่อยู่ทางทิศตะวันตกฝั่งริมถนนบริเวญชั้น 7 – 8 จะได้ระเบียงที่กว้างและยาวกว่าห้องอื่นๆ ในโครงการ พร้อมกับต้นไม้ริมระเบียง เหมาะกับคนที่อาจจะชอบออกมาสูดอากาศภายนอก หรืออยากมีพื้นที่ริมระเบียงสักเล็กน้อยเพื่อไว้ปลูกต้นไม้
นอกจากจุดเด่นแล้ว Service โครงการจาก L’axe ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
การจัดการเช่า-ซื้อ และบริการ โดย L’axe ซึ่งถือเป็นบริการที่มาพร้อมกับโครงการ Walden Thonglor 8 และ Walden Thonglor 13 ซึ่ง ลูกค้ารู้สึกมั่นใจได้ เนื่องจากเป็นบริการจาก JRE development ของญี่ปุ่น อีกทั้งจะได้รับคะแนน JAL Milleage ในทุกๆเดือนโดยขึ้นอยู่กับอัตราค่าเช่ารายเดือน และที่สำคัญลูกค้าสามารถเลือกบริการเสริม หรือ L’axe Cafeteria Plan ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตาม Budget ของลูกค้าได้อีกด้วยครับ
บริการโดยทั่วไปของ L’axe ประกอบไปด้วย มีแม่บ้านทำความสะอาด 2 ครั้งต่อสัปดาห์/เปลี่ยนผ้าปูที่นอน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ /ฟรี Wi-fi/มีบริการ Japanese Internet TV/ได้รับคะแนน JAL Milleage จำนวน 1% ของค่าเช่า และมีบริการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินในตอนกลางคืน ส่วนบริการเสริมซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประกอบไปด้วย เพิ่มการทำสะอาดของแม่บ้าน (เป็น 3-7 ครั้งต่อสัปดาห์)/บริการซัก อบ รีด (50,100,150 ชิ้นต่อเดือน)/ค่าสาธารณูปโภค (1,000/2,000/3,000 ต่อเดือน)/บริการเครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอ่อน/การประกันภัยความรับผิดชอบสาธารณะ และบริการรถรับ-ส่ง (สนามบิน/รถกอล์ฟ)
จากที่ทาง Realist วิเคราะห์แล้ว คาดการณ์ว่า โครงการ Walden Thonglor 8 และ Walden Thonglor 13 เหมาะทั้งสำหรับผู้อยู่อาศัย และนักลงทุนที่กำลังสนใจโครงการ Low Rise ในทำเลทองหล่อ โดยในแง่ของผู้อาศัยนอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวจากจำนวนยูนิตที่มีไม่มากแล้ว ยังสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของทุกช่วงวัยอีกด้วย
หากมองในแง่การลงทุน คอนโด Low Rise ของแบรนด์ Walden ถือเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากยอดขาย ราคาคอนโด และราคาค่าเช่าที่เติบโตขึ้นทุกปี ของคอนโดที่เคยเปิดขายทั้งในย่านอโศก และพร้อมพงษ์ อีกทั้งในทำเลของทองหล่อ มีแนวโน้มของราคาคอนโด Low Rise ที่สูงขึ้นเช่นกัน จนเป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนอีกด้วยครับ
