YOU ARE WHERE YOU LIVE.
เพราะรูปลักษณ์คอนโดบ่งบอกความเป็นตัวคุณ
ทุกวันนี้มีโครงการคอนโดเกิดใหม่อยู่ตลอดเวลา และยังมีรูปแบบหลากหลายแตกต่างกันไป ครั้งนี้ทาง Realist จึงทำการจัดหมวดหมู่ของคอนโดที่มีลักษณะแนวคิดที่ใกล้เคียงกัน ให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมของสไตล์คอนโดแต่ละแบบ โดยเราจะพิจารณาตามลักษณะของการออกแบบเป็นหลัก มาดูกันว่าคอนโดสไตล์ไหนที่เข้ากันกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
Condo Category by Realist นั้นแบ่งลักษณะการออกแบบของคอนโดออกเป็น 4 ประเภท คือ Timeless , Simply Modern , Ornamental และ Futuristic ซึ่งในแต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง การออกแบบของคอนโดนั้นๆอาจมีการหยิบยืม Element บางอย่างของแนวคิดทางสถาปัตยกรรมแต่ละยุคสมัยมา ดัดแปลง เพิ่มเติม ลดทอน และแก้ไข จนสุดท้ายก็ออกมาเป็นสไตล์ต่างๆที่เราพบเห็นได้ในปัจจุบัน แต่สิ่งที่ถูกหยิบยืมก็ได้แสดงออกมาด้วยภาพลักษณ์ของตัวสถาปัตยกรรมของคอนโดตามลักษณะที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้เราสามารถจำแนกกลุ่มได้เพราะมีรูปแบบบางอย่างร่วมกันอยู่นั่นเอง
.
Category
Timeless
Simply Modern
Ornamental
Futur istic
ก่อนจะไปดูคอนโดในหมวดหมู่ต่างๆ เรามาย้อนดูรูปแบบสถาปัตยกรรมลักษณะต่างๆในแต่ละยุค เพื่อทำให้เห็นภาพรวมว่า สิ่งที่ถูกเราหยิบยืมมาจริงๆนั้นมีแบบไหนบ้าง ก่อนจะถูกหลอมรวมเป็นสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง
ซึ่งจริงๆแล้วหมวดหมู่ทั้ง 4 ที่ทาง Realist แยกมานั้นอาจมีมากกว่านี้หากจำแนกอย่างละเอียดขึ้น อีกทั้งหมวดหมู่ที่ถูกจัดขึ้นนี้ในแต่ละหมวดล้วนมีความคาบเกี่ยวซึ่งกันและกัน ดังนั้นการจัดหมวดหมู่ขึ้นมา 4 หมวดของ Realist จึงเป็นการดูจากภาพรวมกว้างๆของรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะบางอย่างร่วมกัน
Timeline of architectural styles
info : - Ching, Francis D.K., A Visual Dictionary of Architecture
- Fletcher, Bannister, A History of Architecture 20th Ed
- birdvilleschools.net
- virtualclassrooms.com
Timeless
Timeless เป็นสไตล์ที่มีส่วนผสมของรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคเก่าอย่างยุค Classic ซึ่งมีลักษณะที่โดดเด่น คือ เน้นความสมมาตร (symmetry) ความได้สัดส่วน (proportion) การใช้รูปทรงเรขาคณิต และมีการนำลักษณะที่ปรากฏในสถาปัตยกรรมสมัยกรีกมาใช้ การวางโครงสร้างจะเป็นไปอย่างมีแบบแผนไม่ว่าจะเป็นเสา หรือ คานรับเสา และการใช้ซุ้มโค้งครึ่งวงกลม มีการตกแต่งประดับประดาด้วยการแกะสลักลวดลายประกอบ เช่นการแกะสลักรูปคน และยุค Modern ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคใหม่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 มีรากฐานมาจากแนวความคิดแบบ Functionalism (เน้นการใช้งานเป็นหลัก และอาคารควรแสดงออกถึงความงามของตัวอาคารเอง โดยปราศจากการตกแต่งประดับประดา)
อีกทั้งยังเป็นรูปแบบที่ต้องการตอบสนองสังคมอุตสาหกรรมในยุคนั้น ซึ่งเน้นความไม่แตกต่างของแบบอย่างเพื่อลดช่องว่างของชนชั้นลง ลักษณะอาคารหลักๆจะมีรูปทรงที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา โปร่งเบา สะอาดสะอ้าน สม่ำเสมอ เมื่อนำทั้งสองรูปแบบมาคาบเกี่ยวกันทำให้คำจำกัดความของ Timeless คือ ตัวอาคารจะมีรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย จากเส้นสายและวัสดุ แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายในยุคเก่าแฝงอยู่จากการประดับตกแต่งเล็กน้อยที่ถูกเพิ่มเข้ามา เช่น เสา หรือซุ้มโค้ง ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ทำให้อาคารเกิดความร่วมสมัยและไร้กาลเวลา
.
Simply Modern
Simply Modern เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานแนวคิดในศตวรรษที่ 20 ที่เน้นรูปทรง ความเรียบง่ายของอาคาร ซึ่งแนวคิดนี้ถูกพัฒนาเรื่อยมาถึงปัจจุบัน รูปแบบนี้เริ่มมาจากยุค Modern ซึ่งเป็นคำที่ใช้บรรยายสิ่งก่อสร้างที่มีองค์ประกอบคล้ายคลึงกันตามคำจำกัดความ ซึ่งโดยทั่วไปคือรูปทรงจะเกลี้ยงเกลาและปราศจากการตกแต่ง เน้นด้วยหลักความคิดทางโครงสร้างเป็นแกนนำ ประกอบกับการพัฒนาขึ้นของ อุตสาหกรรมการถลุงเหล็ก และผลิตกระจก การนำเอาวัสดุใหม่ที่มีคุณลักษณะด้านความแข็งแรง ทนทาน ก่อให้เกิดงานสถาปัตยกรรมที่มีจุดเด่น คือ ระบบโครงสร้างเหล็กที่หุ้มด้วยผนังกระจกสามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องมีเสารับน้ำหนักจำนวนมาก หรือความสูงของอาคารที่สร้างด้วยโครงสร้างเหล็กที่ทำได้สูงขึ้นหลายเท่า อันเนื่องมาจากคุณลักษณะของวัสดุใหม่
Simply Modern ยังมีองค์ประกอบมาจากยุคย่อยๆอย่าง 1. Brutalist เป็นสไตล์หนึ่งในงานสถาปัตย์ที่เกิดในช่วง ปี 50-70 เน้นที่รูปทรงเรขาคณิต สเกลใหญ่ๆ มีรายละเอียดที่ซ้ำๆ โชว์พื้นผิวธรรมชาติของวัสดุ ถ้าเป็นอาคารคอนกรีตก็จะโชว์คอนกรีตเปลือย ถ้าเป็นตึกกระจกก็จะมีแต่กระจกเพียงเท่านั้น และ 2. Mid-Century Modern ซึ่ง มีรูปทรงเลขาคณิตต่างๆที่รวมกันอย่างมีมิติและเน้นการใช้สีที่มาจากธรรมชาติ เพื่อให้ได้อาคารที่เป็นมากกว่าสิ่งปลูกสร้างสวยงาม การออกแบบจะเน้นที่การเชื่อมต่อระหว่างภายนอกและภายใน อาคารบ้านเรือนดั้งเดิมในยุคนั้นมักจะเน้นใช้อิฐและไม้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อสไตล์ Mid-Century Modern เริ่มเข้ามามีบทบาท สถาปัตยกรรมต่างๆก็เริ่มที่จะมีสีสันมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่นิยมใช้สีอ้างอิงมาจากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากต้นไม้ สีเหลืองจากหาดทราย สีฟ้าจากท้องฟ้า เป็นต้น
.
Ornamental Building
Ornamental Building เป็นสไตล์ผสมผสานระหว่างความเก่ากับความใหม่ คือมีการหยิบยืมความเรียบง่ายของเส้นสายยุค Modern มาใช้ แต่ก็มีการสร้างเอกลักษณ์ให้กับอาคารด้วยการสร้างสิ่งประดับตกแต่งในบางส่วนของอาคารอย่างเช่นบนส่วนยอดของตึก ซึ่งการประดับตกแต่งเหล่านี้คล้ายคลึงกับแนวคิดของสถาปัตยกรรมยุค Art Deco ที่เป็นงานออกแบบที่รวมรูปแบบมาจากหลายๆสไตล์ อาจอ้างอิง หยิบยืมแนวทางใดแนวทางหนึ่ง หรือผสมผสานหลายแนวทางเพื่อสร้างรูปแบบอันซับซ้อนหรือสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยขึ้นมาใหม่ การใช้เส้นโค้งและเส้นตรงเรียบง่ายแต่แข็งแรง วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัสดุสมัยใหม่ที่เพิ่งถูกคิดค้นขึ้นในศตวรรษที่ 20 ที่มีความแวววาวอย่างอลูมิเนียม สแตนเลส โลหะ เป็นต้น
เมื่อทั้งสองอย่างที่ดูแตกต่างกันมารวมเข้าด้วยกัน ตัวอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาจึงมักจะมีเอกลักษณ์จากการประดับตกแต่งในส่วนใดส่วนหนึ่งแต่ไม่ได้มาจากภาพรวมทั้งหมดขององค์ประกอบอาคาร สไตล์แบบนี้สามารถพบเห็นได้โดยง่ายจากอาคารสูงต่างๆในเมืองใหญ่ๆ อย่างอาคารสำนักงาน โรงแรม และคอนโด ที่ความโดดเด่นของอาคารมาจากส่วนยอดที่แต่ละตึกก็มีรูปแบบการตกแต่งที่ต่างกันออกไป
.
Futuristic
Futuristic เป็นสไตล์ที่เกิดขึ้นในยุค Late modern ซึ่งเป็นการสร้างรูปแบบงานออกแบบใหม่ๆออกมาจากเทคโนโลยีการก่อสร้าง และวัสดุใหม่ๆซึ่งถูกคิดค้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รูปแบบ Modern จะเน้นที่ความเรียบง่าย และการสร้างความรู้สึกที่สัมผัสได้ในทันทีที่เข้าไปพบหรือสัมผัส แต่รูปแบบ Late Modern มักจะเน้นที่ การสร้าง Space ที่ให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ในแต่ละ ก้าวย่าง ที่เข้าไปสัมผัส และมักจะมีการใช้สีสรรที่สดใส หรือวัสดุที่แปลกใหม่ ตลอดจนรูปทรงที่แปลกตา เข้ามาใช้ในงานด้วยเช่นกัน
ที่ผสานเข้ามาอีกยุคหนึ่งคือ สถาปัตยกรรมแบบ High-Tech ซึ่งเป็นแขนงล่าสุดที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน และกำลังจะพัฒนารูปแบบต่อไปในอนาคต ซึ่งจริงๆแล้วสามารถนับได้ว่ารูปแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุค Late Modern ก็ว่าได้ ยุค High-Tech Architecture นั้นเป็นเสมือนยุคที่สองของแนวความคิดแบบเครื่องจักรกลนิยม (Machine Age) รูปแบบของสไตล์นี้จะใช้โครงสร้างเป็นตัวกำหนดขอบเขตพื้นที่ภายใน และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างเหมาะสมในอาคาร สถาปัตยกรรมจะประกอบขึ้นจากหลายองค์ประกอบ ตั้งแต่ตัวโครงสร้าง รูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย รูปแบบการใช้พลังงานและการมีส่วนร่วมของผู้คนตั้งแต่ผู้ออกแบบ ผู้ก่อสร้าง และผู้ใช้งาน ไปจนถึงการสร้างระบบนิเวศที่ดีในตัวอาคาร
.
Condo Category
เมื่อดูจากรูปแบบสถาปัตยกรรมข้างต้นแล้ว ทำให้เราใช้ลักษณะเหล่านั้นเป็นเกณฑ์คร่าวๆในการจำแนกประเภทของคอนโด ซึ่งทาง Realist ได้คัดโครงการที่มีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไปมาจัดหมวดเป็นตัวอย่าง โดยรูปแบบคอนโด ณ ปัจจุบันความแตกต่างอาจขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย ด้านพื้นที่ กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณและเทคโนโลยีการก่อสร้าง ทำให้ concept ของคอนโดนั้นๆมีแนวทางที่ต่างกัน แต่ก็มักมีจุดร่วมบางอย่างด้านการออกแบบร่วมกัน ในหัวข้อนี้เราจะมาดูตัวอย่างคอนโดในแต่ละประเภทกัน
.
ตัวอย่างโครงการคอนโดแบบ Simply Modern Style
คอนโดสไตล์ Simply Modern จะมีลักษณะร่วมกันคือการเน้นรูปทรง ความเรียบง่ายของอาคาร เน้นการใช้งานเป็นหลัก ( Form Follow Function ซึ่งเป็นแนวคิดของยุค Modern ) หน้าตาของคอนโดจะคล้ายคลึงกันด้วยเส้นสาย เปลือกอาคารและการใช้กระจก โดยมากจะไม่มีการประดับตกแต่งใดๆ แต่บางคอนโดก็จะมีการแสดงถึงเอกลักษณ์ของตนด้วยการเพิ่มสีสันของอาคาร ซึ่งเป็นการหยิบยืมสไตล์ Mid-Century Modern มาใช้ แต่บางคอนโดก็นำรูปแบบ Brutalist ที่มีความทึบตันของเปลือกอาคาร และเน้นความเป็น Grid มาใช้งานด้วยเช่นกัน
คอนโดสไตล์นี้โดยมากจะมีการออกแบบ Function การใช้งานที่คล้ายกัน คือ ชั้นล่างๆของคอนโดจะเป็นส่วนจอดรถ และส่วนกลางจะอยู่ชั้นบนประมาณชั้น 7 ขึ้้นไป หรือไม่ก็จะอยู่บนดาดฟ้าของอาคาร ส่วนที่เหลือของอาคารจะเป็นส่วนห้องพัก และบางแห่ง Facilities อาจถูกย้ายมาไว้ชั้นล่างสุดและแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไป ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้โครงการแล้ว พื้นที่เหล่านี้ยังถูกใช้เป็นพื้นที่โล่งตามกฎหมายอาคารอีกด้วย
.
ตัวอย่างโครงการคอนโดแบบ Ornamental Style
คอนโดสไตล์ Ornamental จะมีลักษณะร่วมกันคือ ความ Modern ของตัวอาคารที่่ไร้การตกแต่งประดับประดา การใช้เส้นสายที่เรียบง่าย รวมถึงการใช้กระจก แต่จะมีความแตกต่างกับสไตล์ Simply Modern ตรงส่วนยอดของอาคารจะได้รับการประดับตกแต่งหรือออกแบบเพื่อให้มีเอกลักษณ์ต่างจากเดิม สรุปคือสไตล์นี้คือการผสมกันของรูปแบบสถาปัตยกรรม Modern ที่ส่วนโครงสร้างและเปลือกอาคาร และรูปแบบ Art Deco ซึ่งนำมาใช้กับส่วนยอดของอาคารนั่นเอง
Function การใช้งานของคอนโดสไตล์นี้แทบจะเหมือนกันกับแบบ Simply Modern คือส่วนกลางหลักๆจะอยู่ด้านบนของชั้น Podium ทั้งสระว่ายน้ำและสวน หรือฟิตเนส ส่วนล่างจะเป็นพื้นที่จอดรถ และถัดจากชั้น Podium ไปจะเป็นส่วนของห้องพัก และในบางคอนโดส่วนยอดของอาคารนอกจากจะถูกออกแบบให้มีความแตกต่างและสวยงามแล้ว ยังมี Function การใช้งานอยู่ภายในอีกด้วย เช่น Sky Lounge และ Sky Pool เป็นต้น
.
ตัวอย่างโครงการคอนโดแบบ Futuristic Style
คอนโดสไตล์ Futuristic จะมีลักษณะร่วมกันคือ รูปลักษณ์ของตัวอาคารที่ดูทันสมัย มีการใช้เส้นสายที่แปลกตาและบางอาคารก็ดูโฉบเฉี่ยว เป็นการรวมกันของรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ Late modern ที่มีการทดลองกับพื้นที่ว่างและเปลือกอาคารในรูปแบบต่างๆ ทำให้ได้อาคารที่แปลกตา กับอีกรูปแบบหนึ่งคือ High-Tech ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในยุค Late Modern เป็นลักษณะของอาคารที่เริ่มพบเห็นได้ในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ๆที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย มักเป็นอาคารขนาดใหญ่ ประเภท สำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และคอนโด
นอกจากภาพลักษณ์อาคารที่ดูทันสมัยแล้ว การออกแบบพื้นที่ โครงสร้างและระบบภายในตัวอาคารยังมีการหยิบเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ ทำให้ตัวอาคารไม่ได้เป็นแค่สิ่งก่อสร้าง แต่ยังเชื่อมต่อโยงใยถึงผู้ใช้งาน และผู้ออกแบบ อาทิเช่น การนำเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานมาใช้ , การเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้อยู่อาศัยกับโครงข่าย Wireless ของตัวอาคาร , ระบบรักษาความปลอดภัยแบบดิจิตอล , ระบบนิเวศน์ภายในอาคาร หรือแม้แต่วิธีการซื้อขายโครงการ ก็นำเอาวิธีการจองผ่านระบบออนไลน์มาใช้งาน ซึ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
.
ตัวอย่างโครงการคอนโดแบบ Timeless Style
คอนโดสไตล์ Timeless จะมีลักษณะร่วมกันคือนำความสมมาตร และเส้นสาย รูปทรงทางเรขาคณิตมาใช้ในการออกแบบ วัสดุที่เลือกใช้จะแฝงด้วยความรู้สึกที่ดูหรูหรามีคุณค่า และแสดงออกถึงความร่วมสมัยในภาพลักษณ์ของอาคาร บางคอนโดอาจมีลักษณะการออกแบบเน้นไปทางด้าน Classic ที่ชัดเจน อย่าง 98 wireless ซึ่งมีกลิ่นอายของยุคคลาสสิคโดดเด่นออกมามากว่ารูปแบบอื่นๆ
ข้อแตกต่างส่วนใหญ่จะมีไม่มาก โดยหลักจะเป็นเรื่องของวัสดุที่ใช้ซึ่งมีเกรดแตกต่างกันไปซึ่งจะทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์อาคาร แล้วแต่ลักษณะของโครงการ ซึ่งมักจะมีผลถึง ราคาต่อตร.ม. ไม่เพียงแต่ความรู้สึกเมื่อได้เห็นภายนอกอาคาร แต่รวมไปถึงการใช้วัสดุตกแต่งภายในอาคารด้วย
.
98 Wireless
The XXXIX Sukhumvit 39
Maestro Ratchada 19
.
Muniq Sukhumvit 23
Muniq Sukhumvi t 23 เป็นหนึ่งในคอนโดสไตล์ Timeless ซึ่งมีความโดดเด่นจากการนำโครงสร้างและรูปลักษณ์อาคารสมัยใหม่มาใช้ แต่เพิ่มเติมกลิ่นอายยุค Classic เข้าไป ทำให้อาคารเกิดความร่วมสมัยขึ้นมา
โครงการได้แทรกความเป็นศิลปะเข้าไปในพื้นที่โครงการทั้งภายในภายนอก ทำให้เกิดสุนทรียภาพเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมของอาคาร ซึ่งตัวสถาปัตยกรรมออกแบบโดย Palmer & Tuner ออกแบบภายในโดย BOIFFILS และออกแบบแลนด์สเคปโดย SHMA อีกทั้งยังตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางเมือง 200 เมตรจาก MRT สุขุมวิท และ 300 ม. จาก BTS อโศก
เมื่อพิจารณาเทียบกับ Super luxury Condo อื่น ๆ พบว่าในงบประมาณที่เท่ากัน อย่างเช่น โครงการ The Bangkok หรือ Khun by yoo ซึ่งอยู่ในย่านทางหล่อ โครงการ Muniq Sukhumvit 23 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า
เพราะนอกจากจะได้ห้องที่มีความ Luxury แล้วยังได้ชั้นที่สูงกว่าอีกสองโครงการข้างต้นหรือได้ห้องระดับ Penthouse เลยทีเดียว โดย 2 Bedroom จะมีราคาเริ่มต้นที่ 14.1 ลบ. และ Mini Penthouse ราคาเริ่มต้น 33.2 ลบ.
VIDEO