realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
 

ASHTON ASOKE

TOP CONDOMINIUM ON TOP LOCATION

 

 

ASHTON ASOKE สร้างปรากฎการณ์ขายหมดตั้งแต่ PRE-SALES

ASHTON ASOKE เป็น Luxurious condominium ตัว TOP ของบริษัท Ananda Development ร่วมทุนกับบริษัท Mitsui Fudosan จากญี่ปุ่น ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 6,358 ลบ. และสร้างปรากฎการณ์ Sold Out ตั้งแต่ช่วง Presales ทำให้คงไม่มีนักลงทุนด้านอสังหาฯคนไหนที่ไม่รู้จักโครงการนี้ ปัจจุบันโครงการนี้เหลือเฉพาะห้อง Resale เท่านั้น ซึ่งสามารถดูข้อมูลและซื้อห้อง Resale ได้ในเว็บไซต์ The Agent โดยในเว็บนี้เป็นฐานข้อมูลใหญ่ที่สุดของในการประกาศขาย Ashton Asoke แล้ว ASHTON ASOKE เป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 ที่ Ananda เลือกใช้แบรนด์ ASHTON แบรนด์ Segment สูงสุดของ Ananda ต่อยอดความสำเร็จจาก ASHTON Morph 38 โดยคาแรคเตอร์ของแบรนด์ ASHTON คือ การอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบโดดเด่นบนพื้นที่สุดท้ายใจกลางเมืองบนจุด zero ground ที่เชื่อมรถไฟฟ้า 2 สาย แวดล้อมไปด้วยออฟฟิศชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งถ้าเราพิจารณาจากความ Prime ของทำเลประกอบกับ Timeless Design ของอาคารก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Ananda ถึงเลือกใช้แบรนด์นี้  

5 อันดับ ทำเลคอนโดราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด (ไตรมาส 2 ปี 2560)

1 สุขุมวิทตอนกลาง (เขตวัฒนา เฉพาะแขวงพระโขนงเหนือ และเขตคลองเตย เฉพาะแขวงพระโขนง) ราคาสูงขึ้นประมาณ 11.3 – 13.3 %  2 สุขุมวิทตอนต้น (เขตวัฒนา เฉพาะแขวงคลองเตยเหนือ คลองตันเหนือ และเขตคลองเตยเฉพาะแขวงคลองเตย แขวงคลองตัน) ราคาสูงขึ้นประมาณ 8.6 – 10.6 % 3 สุขุมวิทตอนปลาย (เขตพระโขนง เขตบางนา) ราคาสูงขึ้นประมาณ 8.1 – 10.1 % 4 เขตพญาไท - เขตราชเทวี ราคาสูงขึ้นประมาณ 8.0 – 10.0 % 5 เขตบางซื่อ - เขตดุสิต ราคาสูงขึ้นประมาณ 7.7 – 9.7 % หมายเหตุ เทียบกับราคาในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มา ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ย่าน อโศก อยู่ในพื้นที่สุขุมวิทตอนต้น ซึ่งเป็นทำเลที่คอนโดราคาเพิ่มขึ้นมากเป็นอันดับ 2 ของกรุงเทพ เพิ่มขึ้นถึง 8.6 - 10.6 % สูงกว่าพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย เขตพญาไท - เขตราชเทวี และเขตบางซื่อ - เขตดุสิต อันดับ 1 เป็นของสุขุมวิทตอนกลางที่เพิ่มขึ้นถึง 11.3 - 13.3 % เมื่อเทียบกับราคาในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  

คอนโดอโศก DEMAND สูง ขายแล้ว 92% 

ตลาดคอนโดย่าน อโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และพระราม 9 มีความต้องการพื้นที่อยู่อาศัยสูงมาก เนื่องจากเป็นย่านเศรษฐกิจและแหล่งทำงาน โดยคอนโดย่านอโศกขายไปได้แล้วกว่า 92% เรียกว่าขายกันไปแล้วแทบจะหมด ส่วนย่านสุขุมวิท-ทองหล่อเป็นทำเลน่าปล่อยเช่า เพราะมี Rental Yield สูงถึง 12% ต่อปี สูงกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อ (MRR) ที่อยู่ที่ประมาณ 8% (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 4 ก.ค. 60) ซึ่งหมายความว่าเราสามารถเอาค่าเช่ามาจ่ายดอกเบี้ยและยังเหลือปิดเงินต้นอีกประมาณ 4% ในขณะที่ด้าน Capital Gain จากการขายพบว่าพอๆกันทั้ง 3 ย่าน คือประมาณ 5%  ความต้องการของตลาดคอนโดดันราคาที่ดินอโศกเพิ่ม 17.8%/ปี เป็นอัตราการเพิ่มเฉลี่ยของราคาที่ดินในเมือง เพราะเดิมก็แพงมากอยู่แล้ว ราคาจึงไม่พุ่งเหมือนชานเมืองที่เพิ่งมีรฟฟ.วิ่งผ่าน เมื่อเทียบกับราคาที่ดินย่านใหม่ๆตามแนวรถไฟฟ้าบางย่านที่อาจสูงเกิน 100%  ราคาคอนโดที่เพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องมาจากปัจจัยหลัก ๆ เช่น ราคาที่ดินสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงขึ้น ประกอบกับ Supply ที่มีไม่มากในแต่ละปี เพราะนับวันที่ดินที่จะนำมาพัฒนาโครงการ เหลือน้อยลงทุกที ส่วนย่านใกล้เคียงกันอย่าง พระราม 9 New CBD ราคาที่เดินเพิ่ม 17.4% ซึ่งเป็นผลจากความบูมของทำเล และยังมี Supply คอนโดสูงถึง 7,666 ยูนิต  แต่ถ้ากลับมาพูดถึงราคาคอนโดเปรียบเทียบกันทั้ง 3 ย่าน พระราม 9 ก็ยังไม่สูงเท่าอโศก และสุขุมวิท ทองหล่อ เพราะอโศก สุขุมวิท ทองหล่อเป็นย่าน CBD ที่มีฐานลูกค้า Premium เป็นพนักงานระดับสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอาศัยอยู่  

"อโศก" ย่าน CBD มีสถานี INTERCHANGE หัว - ท้ายถนน  

ถ.อโศกมนตรี เดิมชื่อ "ซ.สุขุมวิท 21" ก่อนเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ พระอโศกมนตรี ที่ร่วมมอบที่ดินให้เทศบาลนครกรุงเทพสร้างถนนสายนี้ โดยเป็นถนนสายสั้นๆในย่าน CBD ยาวประมาณ 1.3 กม. เริ่มต้นที่ แยกอโศกมนตรี ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่าง ถ.สุขุมวิทกับ ถ.รัชดาภิเษก ไปทางทิศเหนือในแขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา ข้ามคลองแสนแสบ เข้าแขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ไปสิ้นสุดที่ แยกอโศก - เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดตัดกับ ถ.เพชรบุรี 
ด้วยทำเล CBD ของ "อโศก" ที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 แยกสำคัญ คือ แยกอโศก ที่เป็นจุดตัดของถนนใหญ่ อย่าง ถ.สุขุมวิท กับ ถ.รัชดาภิเษก เชื่อมไปยังย่าน สีลม - สาทร ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเก่าแก่ และธุรกิจเกี่ยวกับการเงินการธนาคาร อีกด้านของอโศก คือ แยกอโศก - เพชรบุรี ที่เชื่อมไปยัง พระราม 9 ที่เป็นย่าน CBD ใหม่ ซึ่งทั้ง 2 แยกเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน - แยกอโศก เป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อระหว่าง BTS สถานีอโศก กับ MRT สถานีสุขุมวิท - แยกอโศก - เพชรบุรี เป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อระหว่าง MRT เพชรบุรี กับรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีมักกะสัน พูดถึงอโศก 2 สถานที่แรกที่คนทั่วไปนึกถึกคงหนีไม่พ้น Terminal 21 เนื่องจากขนาดที่ใหญ่สะดุดสายตาเป็นอย่างแรก เมื่อลงมาจากสถานี BTS อโศก กับคอนเซ็ป "ท่าอากาศยานแห่งการช้อปปิ้ง" ที่ขนเมืองสำคัญของโลกมาอยู่ในแต่ละชั้น อีกสถานที่คือ ตึกแกรมมี ที่ใครหลายคนอาจเคยไปตามศิลปินกัน นอกจากอาคารสำนักงานตั้งเรียงกันยาวมาตลอดถนน อโศกยังมีสถานสำคัญอื่นๆอีก เช่น พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใกล้ ๆ ย่านอโศกจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือ สวนเบญจกิติ ที่คนทำงานในย่านมักไปออกกำลังกายกัน และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มีการจัดงาน event ระดับประเทศอยู่ตลอดทั้งปี  

"อโศก" OFFICE HUB ตลาดลูกค้าต่างชาติระดับ PREMIUM

ความสะดวกของทำเลนี้อยู่ตรงที่มี Interchange Station ทั้งหัวและท้ายถนน แต่ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์อาจจะติดบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ด้วยความเป็น CBD ที่เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานใหญ่ๆจำนวนมาก และมีชาวต่างชาติระดับ Expat เข้ามาทำงาน โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น เกาหลี และตะวันออกกลาง จึงไม่น่าแปลกใจที่ย่านนี้ยังมีกระแสตอบรับที่ดีทุกครั้งที่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียม ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในย่านนี้ เป็นผู้บริหารระดับสูง และผู้จัดการ ทำให้ฐานรายได้ของคนกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงตามไปด้วย  ดังนั้นอสังหาฯในย่านนี้จึงเป็นระดับ Premium ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม Serviced Apartment และคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้ 
เมื่อสำรวจราคาค่าเช่าอาคารสำนักงานที่เรียงกันยาวเหยียดบน ถ.อโศก พบว่ามีราคาตั้งแต่ 350 - 1,100 บ./ตร.ม./เดือน ขึ้นอยู่กับระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าและความใหม่ของอาคาร Info : irentoffice  

ราคาคอนโดย่านอโศก เพิ่มเฉลี่ย ปีละ 7.5% เจาะต่างชาติและนักลงทุน

คอนโดมิเนียมในย่าน อโศก ล้วนเป็นระดับ Premium เนื่องจากต้นทุนราคาที่ดินที่สูงมากและศักยภาพของทำเลที่เป็นแหล่งทำงาน เป็นย่านที่คนพักอาศัยเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ของคอนโดเหล่านี้มักเป็นนักลงทุนและชาวต่างชาติ อย่างโครงการ ASHTON ASOKE ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ (ต.ค. 2560) ผลสำรวจคือมีลูกค้าระดับ Premium เข้ามามีชื่อเป็นเจ้าของจำนวนมาก รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาลงหลักปักฐานในประเทศไทย การลงทุนสำหรับคอนโดในย่านนี้ สามารถปล่อยเช่าได้โดยเฉพาะชาวต่างชาติ โดย Rental Yield ที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 8% และยังสามารถเก็บไว้เก็งกำไรในระยะยาวได้อีกด้วย ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นรถไฟฟ้าสายหลักของเมืองไทยทั้ง BTS และ MRT
ซึ่งเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยสินเชื่อ (MRR) ที่อยู่ที่ประมาณ 8% (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 4 ก.ค. 60) ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มากไม่น้อย คงต้องมาโฟกัสกันที่ Capital Gain ที่จะได้จากการขาย ซึ่งเมื่อพิจารณาดู Capital Gain เฉลี่ย ตั้งแต่ปี 2011 - 2016 ของย่านอโศกพบว่าอยู่ที่ 5.33 สูงกว่าย่านสุขุมวิททองหล่อ แต่น้อยกว่าย่านพระรามเก้า เพราะกระแส CBD ใหม่ของย่านพระรามเก้าทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านนั้นคึกคักขึ้นมาในช่วงนี้ แต่เปอร์เซ็นต์การขายของย่านอโศกก็ยังสูงกว่าอีก 2 โซน โดยสูงถึง 92%

มาดูแนวโน้มของคอนโดมิเนียมในย่านอโศก พบว่าตั้งแต่ปี 2011 - 2017 มีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นถึง 2,427 ยูนิต เฉลี่ยปีละประมาณ 350 ยูนิตต่อปี โดยเฉพาะช่วงปี 2013 - 2014 เป็นปีที่มีคอนโดเปิดตัวย่านนี้กว่าปีละ 600 - 700 ยูนิต ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ไม่มากแล้ว เนื่องจากปัจจัยที่ดินที่เหลือน้อยเต็มที หากมีการซื้อขายอีกครั้งคงต้องเป็น Big Deal ที่ถูกพูดถึงแน่ๆ และราคาที่ดินคงพุ่งขึ้นแซงหน้าทุกโครงการในปัจจุบัน THE ESSE AT SINGHA COMPLEX เป็นโครงการใหม่ล่าสุดที่ยืนยันความร้อนแรงของคอนโดในย่านนี้ เพราะเปิดตัวด้วยราคาเฉลี่ยสูงถึง 275,000 บ./ตร.ม. สูงกว่า THE ESSE ASOKE ที่ราคาเฉลี่ย 220,000 บ./ตร.ม. แต่ขายไปแล้วถึง 90% (ข้อมูลจากเซลล์ เดือน มิ.ย. โปรดใช้วิจารณญาณกันเองนะครับ) ทั้งที่อยู่ไปทาง ถ.เพชรบุรีแล้วด้วยซ้ำ ทำให้เห็นว่าความต้องการคอนโดมิเนียมในย่านอโศกยังคงสูงอยู่เสมอ ด้านราคาพบว่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 7.5% โดยเฉพาะ Q ASOKE และ THE LOFTS ASOKE ที่สูงประมาณ 11% ต่อปี สำหรับ ASHTON ASOKE ที่ทำสถิติเปิดตัวสูงถึง 230,000 บ./ตร.ม. พบว่าปีนี้ราคา RESALE เฉลี่ยอยู่ที่ 263,000 บ./ตร.ม. ก็ต้องยอมรับว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีนักลงทุนที่หวังเก็งกำไรระยะสั้นจำนวนหนึ่ง ที่ดันราคากันในช่วงปีก่อน ทำให้ปีนี้เมื่อใกล้กำหนดโอนจริง นักลงทุนกลุ่มนี้อาจโอนไม่ไหวและเริ่มทยอยปล่อยห้องโดยเอากำไรไม่เยอะ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ผู้อยู่อาศัยตัวจริงที่เล็งโครงการนี้มานานหรือนักลงทุนที่หวังผลในระยะยาวจะเข้ามาในช่วงนี้ ก็ต้องมาวัดใจกันในช่วงใกล้โอนนี้ว่าใครจะได้ของดีในราคาที่ถูกที่สุดไป ต้องยอมรับว่าแม้จะมีการปั่นราคากันจนสูง แต่ก็ไม่เกินคุณภาพของโครงการนี้เลย เพราะปัจจัยสำคัญที่ปฎิเสธไม่ได้เลยจริงๆของโครงการนี้ก็คือ Location ด้วยระยะ 230 ม.จาก BTS อโศก, 20 ม. จาก MRT สุขุมวิท และความเป็น CBD ที่แท้จริง ต้องยอมให้ ANANDA สำหรับที่ดินแปลงนี้

 

เตรียมสอยห้องราคาดีก่อนโอน ASHTON ASOKE 

ASHTON ASOKE

เจ้าของโครงการ: Ananda Development  และ Mitsui Fudosan ที่ตั้งโครงการ: ถ.อโศกมนตรี พื้นที่โครงการ: 2-3-47.60 ไร่ จำนวนชั้น: 50 ชั้น จำนวนยูนิต: 783 ยูนิต จำนวนที่จอดรถ: 371 คัน ราคา RESALE เฉลี่ย: 263,000 บ./ตร.ม. (2ส.ค.60)
เป็นการยากที่จะเลือกว่า ASHTON ASOKE ควรเป็นอะไร ระหว่าง "ที่พักอาศัย" "ของสะสม" หรือ "การลงทุน" หรือจะพูดให้ถูก ASHTON ASOKE คือ ที่พักอาศัยที่น่าเก็บสะสม และควรค่าแก่การลงทุน นอกจากทำเลที่ใกล้แหล่งทำงานแล้ว การได้ครอบครองห้องชุดที่เป็นที่สุดบนทำเลที่เป็นที่สุดก็เป็นความปรารถนาที่ไม่กี่คนจะสามารถทำได้ ANANDA เลือกใช้ทีมออกแบบสถาปัตยกรรมจาก A49 บริษัทสถาปนิกชื่อดังของไทยที่ฝากผลงานรางวัลและผลงานต่างประเทศไว้จำนวนมาก และเป็นเหมือนโรงเรียนสถาปนิก เพราะสถาปนิกที่มีชื่อเสียงหลายๆคนก็เคยทำงานที่นี่ เรื่องการออกแบบจึงวางใจได้เลย จุดเด่นของโครงการนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ถ้าเป็นเรื่องการออกแบบ คือการเอากระจกโค้งเข้ามาใช้ตรงมุมอาคาร ทำให้ดีไซน์มีความต่อเนื่อง ความบาง และนุ่มนวลแบบที่กระจกธรรมดาไม่สามารถให้ได้ และมีไม่กี่โครงการที่กล้าใช้กระจกแบบนี้ เนื่องจากราคาที่โหดไม่เบา ซึ่งดีไซน์ระดับนี้ถึงจะสูสีกับทำเลที่ Outstanding ของโครงการ 
นอกจากดีไซน์ภายนอกอาคารที่ A49 ออกแบบมาได้บางเบาและสง่างามแล้ว ยังได้ทีมอินทีเรียมือดีจาก PIA Interior บรฺิษัทตกแต่งภายในชื่อดัง ที่มีผลงานออกแบบให้กับโรงแรมระดับ 5 ดาวมาแล้วมากมาย ทำให้มั่นใจได้เลยว่า พื้นที่ส่วนกลาง และ Facilities ต่างๆในโครงการทุกตารางเมตรผ่านการคิดออกแบบมาแล้วอย่างดี ซึ่งในโครงการต่อๆมาของแบรนด์ ASHTON เราก็ยังเห็น ANANDA เลือกใช้บริการ 2 ทีมนี้ อย่างโครงการล่าสุด ASHTON ASOKE - RAMA 9 แสดงว่าจากผลตอบรับโครงการที่ผ่านมา ผลงานร่วมกันของ 2 ทีมนี้น่าจะเป็นที่พึงพอใจของ ANANDA อย่างมาก ASHTON ASOKE จึงคงไม่ใช่โครงการที่ตอบโจทย์แค่ด้านการลงทุนเพียงอย่างเดียว เพราะคอนโดมิเนียมที่ผ่านนักออกแบบยอดฝีมือขนาดนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ ตามกำหนด ASHTON ASOKE น่าจะเสร็จประมาณเดือนตุลาคม ปี 2560 นี้ เชื่อว่าจะต้องมีนักลงทุนระยะสั้นที่จ่ายค่าโอนไม่ไหวเริ่มปล่อยห้องกันมาเรื่อยๆ เช่นเดียวกับนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยตัวจริงที่รอสอยห้องที่ราคาดีกันอยู่ เป็นจังหวะสำคัญที่จะได้เห็นคนที่ยอม Cut loss ก่อนที่ตัวเองจะเจ็บตัวมากไป งานนี้คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดน่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยตัวจริงและนักลงทุนในระยะยาวครับ 
Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon