2563 ศาลสั่งระงับโครงการ เฟส1 แล้ว
หลังจากที่โครงการถูกริเริ่มจากแนวคิดของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ในปี 2557 ได้มีการลงมติเห็นชอบอนุมัติงบ และเปิดเผยโครงการออกมาในปี 2558 โครงการได้รับเสียงสนับสนุน และต่อต้านมากมายมาโดยตลอด มีกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกร้อง และต่อต้านโครงการนี้โดยเฉพาะอย่างกลุ่มสมัชชาแม่น้ำ ซึ่งตลอดมาได้มีทั้งการส่งหนังสือทบทวนต่อค.ร.ม. จัดเสวนาต่อต้าน และได้มีการยื่นหนังสือฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางในปี 2561 และศาลก็ได้รับฟ้องในปีถัดมา ในขณะที่กทม.ก็ยังคงพยายามเดินหน้าโครงการอยู่อย่างต่อเนื่อง จนในวันที่ 5 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมาได้มีการประกาศมาตราการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ระงับการดำเนินการโครงการจนกว่าจะมีคำพิพากษาออกมา
Link Download
คำสั่งศาล
ทำไม ศาลถึงสั่งระงับโครงการเลียบแม่น้ำ?
1. ผิดพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
ถึงแม้ว่าอาคารเพื่อสาธารณะประโยชน์จะไม่ต้องขออนุญาตในการก่อสร้าง แต่เมื่อมีการดำเนินการ ไม่ว่าจะรื้อถอน ดัดแปลง เปลี่ยนแปลงอะไร จำเป็นต้องแจ้งและส่งแบบผังบริเวณ แบบแปลน และรายการประกอบแบบต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่เมื่อกทม. ไม่ได้ส่งแบบที่ให้ม.ลาดกระบังทำมากว่า 7 เดือนให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ศาลปกครองจึงมองว่าโครงการเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาจึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่แล้วเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ว่ามานี้คือใครบ้างล่ะ?
1. นายกเทศมนตรี สำหรับในเขตเทศบาล
2. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำหรับเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
3. ประธานคณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล สำหรับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล
4. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำหรับเขตกรุงเทพมหานคร
5. นายกเมืองพัทยา สำหรับเขตเมืองพัทยา
6. ผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนดสำหรับในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น
กทม.ทำแล้วต้องแจ้ง กทม.เองหรือ?
2. ผิดกฎกระทรวงฉบับที่ 63 ที่ออกตามพ.ร.บ.น่านน้ำ
ตามความเข้าใจปกติการก่อสร้างอาคาร หรือดำเนินการใดใดที่ข้องเกี่ยวกับแหล่งน้ำ ต่างอยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า ในขณะที่ศาลปกครองเห็นแย้งตามกฎหมาย ด้วยกฎกระทรวง ฉบับที่ 63 (พ.ศ.2537) ว่าไม่ใช่ทุกสิ่งก่อสร้างที่ล่วงล้ำแม่น้ำ กรมเจ้าท่าจะอนุญาตได้ แต่หากมีหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาอยู่ โดยมีสิ่งที่โครงการเลียบแม่น้ำเจ้าพระยานี้อาจขัดต่อกฎหมายตัวนี้อยู่ ทำให้การกล่าวอ้างของกทม.ที่ว่าผ่านการอนุญาตจากกรมเจ้าท่าแล้ว เป็นการอนุมัติที่ไม่เห็นชอบด้วยกฎหมาย
โดยมีใจความดังต่อไปนี้
1. สิ่งปลูกสร้างนั้นต้องไม่ต้องเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ กิจกรรมทางน้ำ และระบบนิเวศน์
2. สิ่งปลูกสร้างนั้นสามารถล้ำแม่น้ำได้ เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของสิ่งปลูกสร้างนั้น
3. จะต้องไม่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ขัดต่อพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
3. ผิดกฎหมายผังเมือง ว่าด้วยพื้นที่โล่ง
ตามกฎหมายผังเมืองรวมกทม. ข้อ 40 วรรคที่ 2 ในส่วนของพื้นที่โล่ง ได้กำหนดให้อาคารที่จะปลูกสร้างนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เพื่อการคมนาคม และขนส่งทางน้ำแล้ว จะต้องเป็นอาคารเพื่อสาธารณประโยชน์และ
ต้องไม่กระทบต่อการใช้ประโยชน์ในแหล่งน้ำสาธารณะร่วมกันของประชาชน
แต่โครงการนี้ศาลปกครองกลางมองว่าอาจกระทบ 2 ส่วนด้วยกัน
เจ้าของที่ดินริมน้ำเจ้าพระยา โดยหากมองตามกลุ่มสมัชชาแม่น้ำที่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงของโครงการมาตลอด ผลกระทบอย่างแรกต่อเจ้าของที่ดินคือ โครงการนี้อาจเป็นแหล่งมั่วสุ่ม ก่ออาชญากรรม ปล้นและเข้าถึงบ้านริมน้ำนี้ได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่เจ้าของได้พื้นที่บ้านที่เป็นส่วนตัว ก็ถูกผูกติดกับเส้นทางสาธารณะขนาดใหญ่ที่ใครก็ต่างเข้าถึงได้โดยง่าย อย่างที่สองคือ ทัศนียภาพทั้งตัวเจ้าของบ้าน และผู้ที่มองเข้ามาเอง ต่างก็ถูกบดบังด้วยทางเดินริมน้ำนี้ อย่างสุดท้ายคือ การสะสมของขยะใต้ทางเดิน ที่อาจส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้อยู่อาศัยริมน้ำ และทำให้น้ำเน่าเสีย
การเดินเรือ เนื่องจากโครงการนี้ส่งผลให้ลำน้ำแคบลง 18.8% ซึ่งทำให้การจราจรทางน้ำมีความแออัดมากขึ้น เรือใหญ่นอกจากจะต้องเบี่ยงทางน้ำตื้นแล้ว ยังต้องชะลอความเร็วระมัดระวังเรือเล็กที่ไม่สามารถเดินเรือใกล้ตลิ่งได้อย่างปกติด้วย
4. กระทบโบราณสถานริมน้ำ
นอกจากจะขัดต่อกฎหมาย ตามที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว โครงการทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยานี้ ศาลปกครองกลางยังมองว่า อาจเป็นการก่อสร้างอาคารที่จะมีผลกระทบต่อการศูนย์อัตลักษณ์ของโบราณสถานริมน้ำ ซึ่งจากการสำรวจของกรมศิลปากร เพียงเฟส 1 นี้ก็มีอยู่ด้วยกันถึง 24 แห่งเลยทีเดียวที่ขึ้นทะเบียนจัดเป็นโบราณสถานแล้ว
หลากลายเส้นเสียงสะท้อนทางเลียบริมเจ้าพระยา
เปิดสัญญาจ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจ ออกแบบและจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาริมน้ำเจ้าพระยา 57 กม. ได้ลงนามในสัญญากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้วงเงิน 120 ล้านบาท
พื้นที่นำร่องสองฝั่งรวม 14 กม. จากสะพานพระราม 7 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แนวคิดหลัก "เจ้าพระยาเพื่อทุกคน" (Chao Phraya for All)
นอกจากนี้ยังมีเสียงสะท้อนชี้ให้ทบทวนการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำทั้ง ภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษา, กลุ่ม Friends of The River หรือ FOR รวมถึง Change.org ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อรณรงค์ให้ยับยั้งการสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 14 กม.
และล่าสุดจะมีการเสวนาในหัวข้อ “River’s Voices Forum เสียงของทุกคน อนาคตของแม่น้ำ” เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์แห่งแม ่น้ำโดยพลเมือง ในวันที่ 30 เม.ย. 59
ข้อมูลเบื้องต้น
ระยะทาง
โครงการทั้งหมด ระยะทาง 57 กม.
เริ่มตั้งแต่ สะพานพระราม 7 ถึง สุดเขตกรุงเทพมหานคร
- ฝั่งตะวันออก ประมาณ 36 กม.
- ฝั่งตะวันตก ประมาณ 21 กม.
โครงการระยะแรก
สะพานพระราม 7 - สะพานพระปิ่นเกล้า
สองฝั่งรวม 14 กม.
- โค้งน้ำส่วนที่แคบที่สุด
สวนสันติชัยปราการ 206 ม.
- โค้งน้ำช่วงที่กว้างที่สุด
วัดราชาธิวาชวรวิหาร 383 ม.
งบประมาณ
งบประมาณทั้งหมด 30,000 ลบ.
งบประมาณระยะแรก 14,000 ลบ.
แบ่งเป็น
- งบควบคุมการก่อสร้าง 18 เดือน
- ค่าชดเชยรับฟังความคิดเห็น
- ค่าที่ปรึกษาออกแบบ 120 ลบ. ประกอบด้วย
1. ค่ารายงานแผนดำเนินงาน 24 ลบ. (20%)
2. ค่าจัดทำแผนแม่บทและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 84 ลบ. (80%)
3. รายงานฉบับสมบูรณ์ 12 ลบ. (10%)
สิ่งก่อสร้างเขตโครงการ
ศาสนสถาน 8 แห่ง
สถานที่สำคัญ 19 แห่ง
สถานที่ราชการ 8 แห่ง
โรงเรียน 8 แห่ง
ท่าเรือ 36 แห่ง
ร้านอาหาร 6 แห่ง
ชุมชนรุกล้ำ 29 แห่ง
"เป็นการประเมินเบื้องต้น เมื่อโครงการผ่านขั้นตอนการสำรวจศึกษาและออกแบบร่วมกับชุมชนแล้วจึงจะทราบงบค่าใช้จ่ายที่เป็นจริงอีกครั้ง"
ภาพตัวอย่างทางจักรยานและทางเดินริมน้ำ ที่ทางรัฐบาลใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา
Image : Skyscrapercity
ทางเลียบเจ้าพระย
ความคืบหน้าจากรัฐบาล
Image : www.buildernews.in.th 4 เม.ย. 59
เปิดสัญญา 120 ล้าน กทม.จ้างออกแบบแลนด์มาร์คเจ้าพระยา
สัญญาจ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจ ออกแบบและจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาริมน้ำเจ้าพระยา ที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงนามในสัญญากับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้วงเงิน 120 ล้านบาท
โดยมีรายงานว่า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจะรับผิดชอบงานออกแบบโครงสร้าง ขณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นรับผิดชอบงานศึกษาและทำรายงานเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โดยรายการข้อกำหนดหรือทีโออาร์มีสาระสำคัญดังนี้กำหนดหน้าที่ของที่ปรึกษาเป็น 4 ส่วน คือ
- จัดทำแผนแม่บท การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาระยะทาง 57 กม.
- ออกแบบรายละเอียดด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมระยะนำร่อง เป็นระยะทาง 14 กม. จากสะพานพระราม 7 ถึง สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
- ดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน
- รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการ และสาธารณะ ซึ่งขอบเขตงานทั้งหมดนี้ที่ปรึกษาต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 210 วัน (7 เดือน)
นอกจากนั้นทีโออาร์ยังระบุสารสำคัญอื่นๆอีกดังนี้
กรอบแนวคิด - ต้องกำหนดให้มีช่องทางสำหรับจักรยานและทางเดินเท้าเป็นหลัก จะจัดให้มีลานสันทนาการ ศาลาพักผ่อนริมแม่น้ำ สวนสาธารณะและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่บริการ ลานจอดรถจักรยานลานกิจกรรมให้สอดคล้องและสัมพันธ์กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่ ทั้งนี้การออกแบบต้องคำนึงถึงความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม และศิลปวัฒนธรรมของไทยเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการพิจารณาด้านประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า อำนวยความสะดวกแก่สาธารณะ นักท่องเที่ยว ประชาชนและคนพิการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมภาพลักษณ์แก่กรุงเทพมหานคร
Image : www.buildernews.in.th 4 เม.ย. 59
Image : Prachachat Online 26 มี.ค. 59
กำหนดเงื่อนไข - ที่ปรึกษาต้องออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมตามแบบมาตรฐานของ กทม. แต่ที่ปรึกษาอาจแนะนำหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก กทม.ก่อน ทั้งนี้ ที่ปรึกษายังต้องดำเนินงานตามมติของคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวกับโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
การสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชน - ที่ปรึกษาต้องจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่โครงการ รวมทั้งให้ข้อมูลข่าวสารในเชิงลึกแก่กลุ่มแกนความคิดในชุมชน ผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อรับทราบถึงปัญหา และชี้แจงให้เข้าใจถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ก่อนสรุปรวบรวมคิดเห็นทั้งหมด และนำมาพิจารณาแก้ไขปรับปรุงแบบให้เหมาะสมต่อไปหากมีการก่อสร้างในอนาคต
ทั้งนี้ กทม.แบ่งการจ่ายเงินให้กับที่ปรึกษา ตามความคืบหน้าของโครงการ ซึ่งแบ่งเป็น
- รายงานแผนดำเนินงาน 20% หรือราว 24 ลบ.
- ค่าจัดทำแผนแม่บทและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม 70% หรือราว 84 ลบ.
- รายงานฉบับสมบูรณ์ 10% หรือราว 12 ลบ.
ข้อมูลข่าว : เนชั่น 2 เม.ย. 2559 18:14
Image : www.buildernews.in.th 4 เม.ย. 59
สจล. ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา ชูแนวคิด Chao Phraya for All
- เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับประชาชนทุกคน
- ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและชุมชนให้ยั่งยืน
- การอนุรักษ์วิถีและวัฒนธรรมริมน้ำ
- ส่งเสริมการใช้พื้นที่ในรูปแบบที่หลากหลาย
- เชื่อมโยงให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ในระดับชุมชนและสังคม
- พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียและการระบายน้ำ
- ส่งเสริมประสิทธิภาพการป้องกันน้ำท่วม
- แก้ปัญหาการรุกล้ำด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม และเคารพสิทธิ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เป้าหมายการดำเนินโครงการ
ตามกรอบระยะเวลา 7 เดือน ปี 59
โครงสร้างการทำงานแบ่งออกเป็น 9 ส่วน คือ ด้านสถาปัตยกรรมและผังเมือง, ด้านชลศาสตร์และอุทกวิทยา, ด้านวิศวกรรม, ด้านสิ่งแวดล้อม, ด้านวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ, ด้านประชาสัมพันธ์, การมีส่วนร่วมของประชาชน, ด้านกฎหมาย และ ด้านเศรษฐศาสตร์
- เริ่มจากกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของชุมชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน รวม 32 ชุมชน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม สำหรับระยะนำร่อง 14 กม.
- ส่วนการจัดทำแผนแม่บทระยะ 43 กม.ที่เหลือ จะลงชุมชนทั้งหมด 13 เขต ไม่นับรวมกับสถานที่สำคัญในพื้นที่
- ทีมงานการมีส่วนร่วมได้วางแผนเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาแยกจากการลงชุมชน เช่น สถานที่ราชการ ศาสนสถาน หรือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจะทำควบคู่ไปกับกระบวนการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- มีการลงชุมชนทุกเดือนอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ ชี้แจงความคืบหน้า พัฒนา และออกแบบไปร่วมกัน
ทั้งนี้อยู่ในช่วงที่คณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมได้เริ่มดำเนินการลงพื้นที่สำรวจและพบปะพูดคุยกับชุมชน 4 เขต ได้แก่ เขตบางซื่อ, เขตพระนคร, เขตบางพลัด และเขตดุสิต ในพื้นที่นำร่อง 14 กม. เป็นการประชุมเพื่อหารือกับผู้นำชุมชนเพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงการ และพร้อมให้ความร่วมมือในการลงพื้นที่สำรวจลักษณะทางกายภาพและช่วยกันสรุปข้อมูลปัญหาในชุมชนต้องการปรับปรุงพัฒนา ส่วนชุมชนที่รุกล้ำแม่น้ำอยู่ระหว่างกระบวนการเยียวยา โดยมี กทม. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการย้ายที่อยู่อาศัย
ข้อมูลข่าว : ประชาชาติธุรกิจ 26 มี.ค. 59 12:32
Image : www.buildernews.in.th 4 เม.ย. 59
PRESENTATION
VIDEO
Youtube : ThaiPBS เผยแพร่เมื่อ 30 มี.ค. 2016
VIDEO
Youtube : Friends of River เผยแพร่เมื่อ 20 ม.ค. 2016
.
.
.
เสียงสะท้อนชี้ให้ทบทวนการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำ
.
.
1. ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา
ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของสถาบันภาคการศึกษาด้านการผังเมือง ประกอบด้วย ผังเมืองจุฬาฯ
ผังเมืองธรรมศาสตร์ ผังเมืองเกษตรศาสตร์ ผังเมืองศิลปากร และเครือข่ายสถาปนิก นักสิ่งแวดล้อมและชุมชน ได้แก่ มูลนิธิโลกสีเขียว
สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมอิโคโมสไทย เครือข่ายศิลปวัฒนธรรมริมน้ำเจ้าพระยา ศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ธนบุรี
และเครือข่ายภาคประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ เสนอต่อรัฐบาลให้ทบทวนโครงการพัฒนาริมน้ำระยะแรก
โดยสรุปผล การพิจารณาข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดี
1. การเพิ่มพื้นที่สำหรับการ พักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำ เจ้าพระยา โดยการก่อสร้างทางเท้ากว้าง 7 เมตร ตลอด ทาง 7 กิโลเมตร เลียบ 2 ฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา และลาน กิจกรรมซึ่งเป็นที่โล่งที่มี ทัศนียภาพงดงาม และจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลน พื้นที่สาธารณะสำหรับการ พักผ่อนหย่อนใจในเขต บางซื่อ เขตดุสิต และเขต บางพลัดของกรุงเทพฯ
2. การเพิ่มเส้นทางการสัญจรทางเท้าและทางจักรยาน โดยการก่อสร้างทางเท้ากว้าง 7 เมตรและทางจักรยานกว้าง 7 เมตร เป็นระยะทาง7 กิโล เมตร เลียบ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้า พระยา จะเ พิ่มทางเลือกของ การสัญจรที่มีความสะดวก ปลอดภัย และไม่ใช้น้ำมันเชื้อ เพลิง ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงและ ประชาชที่เดินทางเข้า-ออก . ระหว่างเขตชั้นในและเขตชั้นนอกของกรุงเทพฯและนนทบุรี
3. การแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการก่อสร้าง ทางเลียบ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะรื้อถอนอาคารและสิ่งก่อสร้างที่ บุกรุกและจะช่วยป้องกันการบุกรุกพื้นที่ริมฝั่งแม่นน้ำเจ้าพระยาที่จะ เกิดขึ้นต่อไป
.
.
ข้อเสีย
1. การเกิดผลกระทบต่อชุมชน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดย การก่อสร้างทางเลียบ 2 ฝั่ง . แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีระดับ ถนน +2.8 เมตร และระดับ สันพนังป้องกันน้ำท่วม +3.25 เมตร จะบดบังช่อง เปิด หรือประตูและหน้าต่างของอาคารและพื้นที่ว่าง สาธารณะชุมชน ตลอดแนวทางเลียบแม่น้ำเจ้า พระยาซึ่งมีระดับพื้นดิน โดยเฉลี่ยประมาณ +1 เมตร
2. การกีดขวางการไหลของน้ำเจ้าพระยา และผลต่อ ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ตอน บนโดยที่โครงส้รางของทาง เลียบ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความกว้างด้านละ 19.5 เมตร จะลดทอนความสา มารถในการระบายน้ำ ของแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นผล ให้เกิดปัญหาอุทกภัย ที่เพิ่มมากขึ้นในเขตกรุงเทพฯตอน บนและจังหวัดนนทบุรี
3. การปรับแปลงเป็นถนนเพื่อการสัญจรทางรถยนต์ โดยที่ทางเลียบ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีการออกแบบให้มีทางจักรยานกว้าง 7 เมตร ทางเท้ากว้าง 7 เมตร และ ส่วนที่มีลักษณะคล้ายเกาะกลางถนน กว้าง 3 เมตร เป็นการออกแบบที่แฝงเจตนารมณ์ของการปรับ เปลี่ยนเป็นถนนเพื่อการสัญจรทางรถยนต์ขนาด 4 ช่องจราจร ต่อไปในอนาคต การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อชุมชน ตลอดจนอาคารและสิ่งก่อสร้างตลอดแนวทางเลียบแม่น้ำ เจ้าพระยาในอนาคต
4. การสิ้นเปลืองงบประมาณการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง ของกรุงเทพมหานคร โดยทางเลียบ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีแนวขนานกับสายทางระบบขนส่งมวลชนทางรางสายสีน้ำเงิน (ท่าพระ-บางซื่อ) ซึ่งอยู่ในระหว่าการก่อสร้าง และสายทางระบบขนส่งมวลชนทางรางสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฏร์บูรณะ) ซึ่งอยู่ในแผนการก่อสร้างระยะต่อไป ทางเลียบแม่น้ำ เจ้าพระยาจึงมีแนวทางที่ซ้ำซ้อนและไม่สามารถใช้เป็นระบบ เสริม (Feeder System) ให้แก่ระบบขนส่งมวลชนทางราง ดังกล่าว
5. การสิ้นเปลืองบุคลากรและงบประมาณในการดูแลและบำรุงรักษา โดยที่ทางเลียบ 2 ฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยามีพนังป้องกันน้ำท่วมสูง + 3.25 เมตร ปิดกั้นการเข้าถึงและการมองเห็นจากชุมชนตลาด แนวทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาดังกล่าว จึงอาจเป็นแหล่งอาชญา กรรม การซื้อ-ขายยาเสพติด การอยู่อาศัยของผู้ไร้บ้าน การแข่งจักรยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งทำให้บุคลากรและงบประมาณในการดูแล และบำรุงรักษาเป็นอย่างมาก
6. การสูญเสียทัศนียภาพการตั้งถิ่นฐานและชุนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ทางเลียบ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำเจ้าพระยาจะบดบังทัศนี ยภาพการตั้งถิ่นฐานซึ่งประกอบด้วยวัง วัด และชุมชนที่ตั้งเรียงรายตลอดแนว 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเป็นการสูญเสียรูปแบบการตั้ง ถิ่นฐาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพมหานครที่ได้มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน
.
.
.
เหตุผลในการคัดค้านรูปแบบของโครงการ
ถึงแม้ว่าทางภาคีพัฒนาริมพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา มีความยินดีที่คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพฯ โดยภาคีพัฒนาริมพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา ขอแสดงความคัดค้านรูปแบบของโครงการฯ เนื่องด้วย
.
1. มีโครงสร้างขนาดความกว้างถึง19.50 เมตร และเป็นพื้นที่ดาดแข็ง
ขนาดใหญ่ จะสร้างให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม
นิเวศวิทยา อุทกศาสตร์ของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งภูมิทัศน์วัฒน-
ธรรมของพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแน่นอน และไม่สามารถ
หวนคืนได้
2. มีรูปแบบมาตรฐานเป็นรูปแบบเดียวตลอดความยาวสองฝั่งแม่น้ำ
ในบริเวณที่จะทำการก่อสร้างทั้งหมด14.00กิโลเมตร ขาดความ
เชื่อมโยงต่อภูมิสัณฐานของตลิ่ง โครงข่ายการสัญจรของเมือง
รวมทั้งรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้า-
พระยาที่มีความหลากหลายโดยเฉพาะบางบริเวณเป็นวัดและ
ชุมชนเก่าที่มีเอกลักษณ์
3. ขาดการศึกษาผลกระทบด้านต่างๆ และการวิเคราะห์งบประมาณ
อย่างเหมาะสม
4. ขาดกระบวนการสำรวจความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชน และการสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะที่จะนำไปสู่การสร้างข้อเสนอรูปแบบของโครงการฯที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ทั้งในระดับพื้นที่โดยรอบและในระดับเมืองอย่างแท้จริง ที่จะสามารถสร้างความหวงแหนและเป็นเจ้าของพื้นที่สาธารณะริมน้ำของโครงการฯ นี้ในระยะยาวได้
ภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาจึงได้เสนอให้รัฐบาลทบทวนรายละเอียดโครงการฯ โดยเฉพาะเรื่องรูปแบบอย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งกำหนดกระบวนการทำงาน ตลอดจนการศึกษาผลกระทบของโครงการฯ ในด้านต่างๆ อย่างชัดเจนทั้งก่อนและระหว่างการทำแบบ
.
.
.
ทางภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำทำข้อเสนอแนะ
ทางภาคีพัฒนาพื้นที่ริมน้ำทำข้อเสนอแนะเชิงหลักการด้านผังเมืองของการออกแบบพื้นที่สาธารณะริมน้ำ
1. โครงสร้างทางริมแม่น้ำเจ้าพระยาควรมีขนาด รูปแบบ และประโยชน์
ใช้สอยอย่างหลากหลายเหมาะสม สอดคล้องต่อเนื่องกับประโยชน์
การใช้งาน ของพื้นที่ริมฝั่งด้านใน ไม่ควรเป็นรูปแบบมาตรฐานเดียว
กันตลอด หากผ่านชุมชนเก่า ก็ลดขนาดความก้างให้พอดีเป็นทาง
เดินพอใช้สอย หากผ่านหน้าสถานที่ราชการ ก็ไม่จำเป็นต้องสร้าง
ยื่นไปในแม่น้ำ แต่อาจกินเนื้อที่มาบนบก กระทั่งขยายขนาดกลาย
เป็นสวนริมน้ำก็ยังได้ หรือ หากเป็นอาคารราชการที่ต้อง. รักษา
ความปลอดภัย เช่น รัฐสภา ทางเดินควรอ้อมหลังแทน หากผ่าน
พื้นที่เอกชนก็อาจขอความร่วมมือสร้างเข้ามาเป็นลานกิจกรรมใน
พื้นที่ ฯลฯ เป็นต้น
2. โครงสร้างอาจอยู่ริมแม่น้ำ หรือ วกเข้ามาด้านในก็ได้แต่ต้องบูรณา
การกับเส้นทางสัญจร เช่น ตรอก ซอย ถนน รวมทั้งพื้นที่สาธารณะ
เดิมชุมชน เพื่อให้พื้นที่ริมน้ำต่อเนื่องกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครง
ข่ายการสัญจร ของเมืองให้ได้ การนี้ จะทำให้พื้นที่ถูกการันตีว่า
มีการเข้าใช้งานตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัย หรือ Eyes on
Spaces สายตาเฝ้าะวังจากคนในพื้นที่เอง
3. โครงสร้างทางริมน้ำฯ ควรถูกออกแบบควบคู่ไปกับโครงสร้าง
รอยต่อสัณฐานตลิ่ง อย่าให้สูงจนบังกั้นในลักษณะกำแพงหรือถ้า
ต้องสูง ควรมีชั้นเชิงถอยร่นอย่างค่อยลาดขึ้นทีละนิด จึงเป็น
เหตุผลที่สำคัญกว่า การออกแบบพื้นที่ริมน้ำจะไม่มีประโยชน์
อันใดเลย หากขาดแผนการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ต่อเนื่องด้านใน
ควบคู่ไปด้วยพร้อมกัน
Info&Images : ภาคีพัฒนาริมพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา
.
.
.
2.Friends of The River
นอกจากนี้ยังคงมีเสียงสะท้อนชี้ให้ทบทวนการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำ
อย่างรอบคอบ เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืน โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์
เเฟนเพจ เฟสบุ๊คที่มีชื่อว่า Friends of River เพื่อรับฟังความคิดเห็น
โดยแสดงจุดยืน อยากให้คิดทบทวนถึงการสร้างทางเดินริมน้ำ
ซึ่งระบุว่า แม่น้ำเจ้าพระยาใน อดีตและในความทรงจำมีวิถี ชีวิต
ริมน้ำภูมิทัศน์วัฒนธรรม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ได้ ตายจากสังคม
ไทยไปนาน แล้วด้วยเขื่อนคอนกรีต มันจะ " ตายเป็นครั้งที่สอง "
ด้วยทางด่วนเลียบแม่น้ำ ที่กำลังจะเกิดขึ้นควรจะใช้ มันเป็น
" โอกาส " ที่จะ เยียวยาแม่น้ำและวิถีชีวิตทั้งยังต้องตั้งโจทย์
ที่ไกลกว่าเรื่องทางเดินริมน้ำ
หากการสร้างพื้นที่สาธารณะริมน้ำ ไม่สอดคล้องกับบริบทของเมือง ทั้งในด้านขนาดและการรองรับกิจกรรมประชาชน อาจก่อให้เกิดการใช้งานพื้นที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่การทำลายภูมิทัศน์และการลดคุณค่าพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา รวมทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ความเชื่อมโยงที่จะใช้ประโยชน์และกลมกลืนกับวิถีชีวิตริมน้ำเช่นเดิม ทางเดินและทางจักรยานสาธารณะสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ผ่านบริบทของเมืองที่มีความหลากหลาย ควรคำนึงถึงความต้องการของผู้อาศัยที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งผู้ใช้งานด้วยกระบวนการการมีส่วนร่วม เพื่อหาแนวทางการออกแบบที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย
ซึ่งการทำงานของกลุ่ม Friends
of River จากการหารือกับกลุ่ม
สถาปนิก ชุมชน ASA CAN
จะแบ่งพันธกิจออกเป็น 4 ด้าน
1. ด้านนโยบายเพื่อรณรงค์ให้
... เก ิดการทำงานให้สัมพันธ์
... สอดคล ้องกับบริบทในพื้นที่
2. ด้านวิชาการ เพื่อสร้างความ-
... รู้ให้สังคมผ ่านข้อเสนอที่เป็น
... ผลจากการค ้นคว้าวิจัยในด้าน
... ต่างๆทั้ง ภูมิสถาปัตยกรรม
... วิศวกรรมสิ่ งแวดล้อม
... เศรษฐศาสตร์
3. ด้านสื่อสารสาธารณะเพื่อ
... ย่ อยข้อมูล( graphic )และ
... เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ
4. ด้านเครือข่ายเฝ้าระวัง เพื่อ
... เชื่อมโยงภาคประชาชนใน
... พ ื้นที่
5. ด้านสร้างเครือข่ายเพื่อเชื ่่อม
... โยงภาคีที่เคลือนไหวในกา ร
... พัฒนาพื้นที่ริมน้ำ
.
.
.
Sketchs for the River Challenge
ทางกลุ่ม Friends of the River ได้มีการจัดกิจกรรม Sketchs for the River Challenge ซึ่งแฟนเพจจะเข้าร่วมสนุกได้โดยการส่งต่อคำท้าไปยังคนรอบข้าง "อย่างน้อย 3 คน" ให้ร่วมส่ง "แบบร่างแนวคิด" ในการพัฒนาพื้นที่สาธารณะริมแม่นำ้เจ้าพระยาในฝัน ภายใน 7 วัน แล้ว hashtag มาที่ #friendsofriverchallenge และทาง Realist ได้มีการรวบรวมตัวอย่างผลงานของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมาให้ได้รับชมกัน
.
.
.
ผลงานคุณ Yossapon Boonsom
.
. .
ผลงานคุณ Aom Arch
Spirit Of Context
โดยแนวคิดของผมคือให้ความ-
สำคัญกับพื้นที่ ที่จะเสียไปกับ
การก่อสร้าง จึงมีแนวคิดที่จะ
ทำอย่างไร ที่จะเสียพื้นที่แม่น้ำ
ให้น ้อยที่สุด แต่ได้ประโยชน์
จากพื้นที่ที ่เสียไปให้มากที่สุด
จึงใช้บริบทของพื้นที่นั้นๆ เป็น
ตัวกำหนดทั้งขนาดและกิจกรรม
เพื่อให้บริบทนั้นส่งเสริมก ิจกรรม
ได้มากที่สุด
Design
-Space ที่ได้ คือ พื้นที่ริมน้ำที่
. ลักษณะยื่น เข้าออก เว้าไม่
. เท่ากัน ตลอดทั้งแนว แล้วแต่
. ลักษณะแวดล้อมบริเวณ นั้น
. เป็นตัวกำหนด
- Activity จัดกิจกรรม สอด-
. คล้องกับบริบทของพื้นที่นั้นๆ
. เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงแล ะ
. การสนับสนุนของคนในพื้นที่
. สิ่งที่ได้คือ กิจกรรมที่หลาก-
. หลายไปตลอดทั ้งแนว
.
.
ผลงานคุณ Korkiat Kittisoponpong
1. Waterfront ในแต่ละจุดนั้น
... น่าจะมี reaction กับน้ำที่
... แตกต่างกันออกไป เพื่อให้
... คนเรียนรู้วิถีของน ้ำ
- บางจุดก็อาจจะเป็นเขื่อนที่
.. ค่อนข้างสูงได้
- บางจุดเป็น slope หรือ step
.. ที่ไหลลงไปถึงน้ำให้คนมา
.. สัม ผัสกับน้ำได้ เรียนรู้จาก
.. คราบน้ำได้ถึงกา รที่น้ำขึ้นลง
- บางส่วนเป็นพื้นที่ในลักษณะ
.. เดียวกับโป๊ะ ซึ่งคนที่ใช้พื้นที่
.. จะสามารถสัมผัสถึงบรรยา-
.. กาศของน้ำได ้ในระยะที่
.. ค่อนข้างใกล้ไม่ว ่าน้ำจะขึ้น
.. หรือว่าลง เป็นต้น
.. โดยในแต่ละประเภทนั้นก็ยัง
.. สามารถแบ่งขนาดความกว้าง-
.. ยาว หรือรูปทรงให้แตกต่างกัน
.. ไปต ามการใช้สอยและบริบท
.. ที่เหมา ะสมได้
2. การเสริม activities ที่เป็นงานศิลปะให้แทรกซึมไ ปในแต่ละชุมชน เช่น การจัดดนตรีขนาดย่อม / มีประติมากรรมกระจายอยู่ตามทา ง / บางส่วนอาจจะเป็นชั้นหนังสือ / หรือแม้กระทั่ง landform เองก็สามารถเป็นพื้นที่ที่กระ ตุ้นให้คนที่มาใช้พื้นที่เก ิดการเรียนรู้อะไรบางอย่างไ ด้ / etc. โดยใช้การออกแบบที่สอดคล้องกั บบริบทและดีไซน์ของ ข้อ 1.
3. การพยายามทำให้คนอยากมาใช้พ ื้นที่ ก็ควรที่จะต้องคำนึงเรื่องส ภาพแวดล้อมโดยเฉพาะ เรื่องแดดและความร้อนที่จะเ ป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนไม่อ ยากออกมาใช้พื้นที่ภายนอก แต่เนื่องจากการเป็นพื้นที่ ริมน้ำมีข้อดีในเรื่องอุณหภ ูมิที่ค่อนข้างเย็นถ้าเราสา มารถจัดการเรื่องแดดได้ จึงคิดว่าควรจะหาที่กำบังที ่เหมาะสมกับแต่ละจุด โดยยังอนุญาตให้แสงสามารถส่ งผ่านไปถึงผืนน้ำด้านล่างได ้บ้าง เช่น
- จุดที่พื้นที่มีความคงทนถาว รมากๆ ก็สามารถเลือกต้นไม้ใหญ่มาป ลูกเพื่อให้ร่มเงา
- บางจุดที่เป็นพื้นที่ชั่วคร าวก็อาจจะใช้เป็นร่มที่พับเ ก็บหรือเคลื่อนย้ายได้ตามกา รใช้งาน
- การใช้โครงสร้างเบาที่ค่อนข ้างถาวร เช่น membrane ไปในพื้นที่กึ่งถาวรบางส่วน เช่น ออกแบบไปพร้อมกับโป๊ะ เป็นต้น
.
.
ผลงานคุณ Pocco Kobkongsanti
Park NETwork เเบบไวๆ
ทางเดินเเละพื้นที่ใช้งานถู ก'สาน'อยุู่บนโครงสร้าง
ที่สําคัญ ไม่ได้มีระนาบเดียว เเต่สามารถมีได้อย่างน้อยๆ 3 ระดับ ตามเเต่พื้นที่จะเอื้ออํานว ย
.
.
ผลงานคุณ Jun Jun Sekino
สนใจพื้นที่ปริ่มๆน้ำ แห้งบ้างเปียกบ้าง ทำไรได้มากกว่าสิ่งก่อสร้าง มีพื้นที่ให้อะไรๆโตได้ด้วย ตัวเอง self organization
- เตะเบาๆ คลื่นแรง รอแรงกระแทกสองชั้น น้ำยังไหลวน เกินตะกอน ปลูกต้นไม้ได้ระยะยาว สามารถเป็นเขื่อนเคสน้ำหลาก ได้ between layer ทำหน้าที่เป้นเขื่อนของเมือ ง เป็นสวนของคน เป็นดินให้ต้นไม้ อีกมากมาย
- รื้อถอนง่ายใช้เงินน้อย รบกวนพื้นที่เดิมติดน้ำให้น ้อยสุด ทำลายน้อยสร้างน้อย
- มองเห็นสิงก่อสร้างน้อย เขียวเยอะๆ skyline มองข้ามฝั่งมาเจอปาติดน้ำ ต้นไม้บางชนิด เมื่อก่อนริมเจ้าพระยามีมาก มาย ตอนนี้หายไป เราให้เขากลับมาใหม่
- ทางคนเดิน จักยานวิ่งได้ โครงสร้างเบาๆ ไม่ต้องรับโหลดขนาดนั้น(แบบ ที่เห็นในFacebook) คนต้องการร่มเงาจากต้นไม้ ลมโชยจากแม่น้ำ
- มี flyover จากฝั่งไปถึงเป็นจุดลงเรือไ ด้
-รูปแบบ ต่างปรับเปลี่ยนได้ทุกสิบปี
.
.
ผลงานคุณ Varudh Varavarn
การพัฒนา ที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนฝรั่งเขา เพราะบ้านเรามันร้อน เน้นต้นไม้เยอะๆ พื้นที่ flexible สามารถปรับเปลี่ยน ตัดต่อ ได้ตามลักษณะของวิถีชีวิตริมน้ำที่หลากหลายแบบไทยๆ
Info & Images : Friends of River
3. Change.org
เป็นการออกแคมเปญร่วมกัน รณรงค์ในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อ ยับยั้งการสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 14 กม.
7 เหตุผลที่เราขอให้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าว มีดังนี้
1. เป็นโครงการที่จัดทำอย่างเร่งด่วน
ขาดการพิจารณาศึกษาอย่างรอบด้านโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องเช่น ด้านชลศาสตร์ ด้านประวัติศาสตร์ ด้านภูมิทัศน์ ด้านนิเวศน์วิทยาด้านผังเมือง และด้านสถาปัตยกรรมอีกทั้งยังขาดกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งๆที่แม่น้ำเจ้าพระยา คือพื้นที่สาธารณะของคนทั้งชาติ
2. ด้านชลศาสตร์และอุทกศาสตร์
ส่งผลให้ลำน้ำมีขนาดแคบลง 15-20%ทำให้กระแสน้ำไหลเร็วขึ้นเพิ่มความเสียงในการกัดเซาะตลิ่งและน้ำยกตัวสูงขึ้นในฤดูน้ำหลาก
3. ด้านระบบนิเวศ
เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียและเป็นที่สะสมขยะใต้ทางเดินริมน้ำส่งผลให้คุณภาพน้ำแย่ลง
4. ทำลายการเชื่อมต่อระหว่างคนกับแม่น้ำชุมชนริมน้ำ
เกิดผลกระทบเรื่องความปลอดภัยและเพิ่มจุดเสี่ยงของปัญหาด้านอาชญากรรม และแหล่งมั่วสุม
5. ด้านผังเมือง
รูปแบบเดียวตลอด 14 กม.ของโครงการไม่สอดคล้องกับความหลากหลายของการใช้ที่ดินไม่สอดคล้องกับโครงข่ายคมนาคมและการเชื่อมต่อในพื้นที่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
6. ด้านภูมิทัศน์
เป็นการสร้างสิ่งแปลกปลอมในลำน้ำทำลายทัศนียภาพสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาและบดบังสถาปัตยกรรมที่สำคัญ เช่น วัดและวังส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่มีภูมิทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเอกลักษณ์สำคัญ
7. ความไม่โปร่งใสของการใช้เงินงบประมาณ
14,000 ล้านบาทที่ยังขาดความชัดเจนนำไปสู่การสร้างโครงการขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับทางจักรยานและทางเดินริมน้ำควรแล้วหรือที่จะนำเงินดังกล่าวมาทำลายแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ
งานเสวนาครั้งล่าสุด
River’s Voices Forum
เสียงของทุกคน อนาคตของแม่น้ำ
30 เม.ย. 59
กลุ่ม Friends of the River (FOR)
ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมสัมมน าเชิงปฏิบัติการ
เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์แห่งแม ่น้ำโดยพลเมืองในหัวข้อ
“River’s Voices Forum l เสียงของทุกคน อนาคตของแม่น้ำ”
วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 15.00-18.00 น.
ณ ห้อง Jupiter 4-7 Challenger Hall ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานสถา ปนิก’59 ภายใต้แนวคิด
“ ASA BACK TO BASIC l อาษาสู่สามัญ”
ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559
งานเสวนาที่ผ่านมา
ลงเรือลำเดียวกัน 27 มี.ค. 59
กิ จ กรรมจาก Friends of the River ร่วมรับชมทัศนียภาพริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนจะเปลี่ยนไปจากโครงการทางเลียบแม่น้ำ 14 กม. จาก The Jam Factory คลองสาน มายัง วัดคฤหบดี ชุมชนบ้านปูน
พบกับ คุณสุดารา สุจฉายา (มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์) บรรยายเรื่องประวัติศาสตร์ย่านพื้นที่ริมน้ำอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย และ คุณยศพล บุญสม (Friends of the River) เล่าเรื่องเกี่ยวกับผลกระทบบริเวณพื้นที่ริมน้ำจากการก่อสร้างโครงการทางเลียบแม่น้ำ 14 กม.ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
คน เปลี่ยน เมือง 10 ต.ค. 58
พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยากำลังอยู่ในความสนใจของทั้งฝ่ายรัฐบาลและประชาชนที่ต้องมานั่งช่วยกันคิดหาทางพัฒนาที่ดีที่สุด กลุ่ม Friends of the River จึงร่วมกับ ASA CAN, นิตยสาร art4d และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จาก 9 มหาวิทยาลัย จัด “เทศกาลเพื่อนแม่น้ำ” ส่วนหนึ่งของ Bangkok Design Week ในช่วงวันที่ 6-11 ตุลาคม 58 ที่หอศิลป์กรุงเทพ
ไฮไลท์ของงานนอกจากจะได้ชมนิทรรศการออกแบบพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากนักศึกษาสถาปัตย์ฯ แล้ว ยังมีเสวนา “We changed the city คน เปลี่ยน เมือง” เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงเมืองจากภาคประชาชน โดยมีตัวแทนจาก 4 เมืองต้นแบบ