realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (220)
 (317)
 (380)
 (28)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (8)
 (181)
 (85)
 (109)
 (106)
 (40)
 (17)
 (44)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (220)
 (317)
 (380)
 (28)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (8)
 (181)
 (85)
 (109)
 (106)
 (40)
 (17)
 (44)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon

เจาะทำเลย่านรัตนาธิเบศร์ (ฝั่งตะวันตก)

29 Mar 2019 7.1K

เจาะทำเลย่านรัตนาธิเบศร์ (ฝั่งตะวันตก)

29 Mar 2019 7.1K
 

เจาะทำเลย่านรัตนาธิเบศร์ (ฝั่งตะวันตก)

รัตนาธิเบศร์เป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อไปสู่พื้นที่อื่นๆ ได้หลากหลาย ทั้งใช้วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ หรือ ออกนอกเมืองไปยังฝั่งตะวันตก โดยพื้นที่รัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตกนี้เองที่กำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้รวดเร็วเหมือนกับย่านอื่นๆ ในเมืองหลวง แต่ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ที่คับคั่งไปด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และถูกใช้เป็น Hub หลักของการเดินทางเข้า-ออกสู่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของย่านรัตนาธิเบศร์ หากดูจากผังที่ทาง Realist ลองกำหนดขอบเขตโดยประมาณแล้ว พื้นที่จะเริ่มจากบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า ข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจนสุด ถ.รัตนาธิเบศร์ ที่ย่านบางใหญ่เชื่อมเข้าเส้นทางพิเศษกาญจนาภิเษก ซึ่งในทุกวันนี้พื้นที่ในฝั่งตะวันตกก็เป็นอีกหนึ่งโซนที่น่าจับตามอง โดยปัจจุบันที่ดินบริเวณนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 บ./ตร.วา และราคาของ High-Rise Condo ในย่านเฉลี่ยอยู่ที่ 77,000 บ./ตร.ม. (Q1 2019) เรามาลองดูบทวิเคราะห์ของ Realist เกี่ยวกับพื้นที่รัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก รวมถึงอัพเดทราคาอสังหาฯภายในย่าน และความน่าลงทุนของย่านในบทความนี้กันครับ
.

ความสำคัญของย่านรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก

ถ้ามองจากมุมของคนในพื้นที่ โซนรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตกถือว่าค่อนข้างเงียบ สงบ และไม่ค่อยมีความน่าสนใจมากเท่ากับพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ นัก แต่หากมองเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ชานเมืองที่กำลังขยายตัวเพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและลงทุน พื้นที่แห่งนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของจังหวัดนนทบุรีเลยทีเดียว เพราะทั้งฝั่งของอสังหาริมทรัพย์เจ้าเล็กเจ้าใหญ่ หรือผู้ประกอบการก็ต่างพากันสนใจ ทำให้เห็นว่าพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในเขตชานเมืองก็สามารถเป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งเราต้องลองมองกันทีละส่วน เริ่มตั้งแต่ การมาถึงของโครงการขนาดใหญ่ อย่าง เซ็นทรัลเวสต์เกต ซึ่งโดยปกติห้างส่วนใหญ่จะไปรวมตัวกันอยู่บริเวณใจกลางเมือง 
และแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง เพราะมีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อรวมตัวกันอยู่ ดังนั้นพื้นที่ตั้งของเซ็นทรัลเวสต์เกต ก็อาจเป็นตัวการันตีได้ระดับหนึ่งว่าพื้นที่แห่งนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ทั้งการค้าและการคมนาคม ซึ่งปัจจุบันการเติบโตของเมืองกำลังถูกปรับเปลี่ยนไปในแนวทางของการกระจายความเจริญออกจากศูนย์กลางไปยังพื้นที่ปริมลฑลมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในพื้นที่ต่างๆ โดยรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตกถือเป็นอีกหนึ่ง case study สำคัญที่น่าใช้ศึกษาดูผลลัพธ์ต่อจากนี้ไป ว่าการกระจายความเจริญมาสู่ย่านนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเปลี่ยนไปในแง่ใดได้บ้าง
 

เริ่มสร้างพื้นที่ความเจริญใหม่ในเขตชานเมือง

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกรุงเทพฯ ก็คือศูนย์รวมความเจริญทั้งหมดของประเทศเรา และความเจริญนั้นก็จะถูกกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่คับแคบไม่กี่แห่ง แต่นั่นก็นับว่าเป็นข้อดีของเมืองหลวงในทางเศรษฐกิจ ขณะที่แถบชานเมืองของบ้านเรานั้นความเจริญยังคงกระจัดกระจาย ถ้าเราต้องการจะสร้างเมืองใหม่เพื่อจะกระจายความเจริญออกไปอย่างยั่งยืน เราต้องสร้างเขตกระจุกความเจริญขึ้นภายในพื้นที่ชานเมืองเหล่านั้น เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและชีวิตที่สะดวกสบาย เฉกเช่นเดียวกับที่ผู้คนมักหาได้จากพื้นที่คับแคบแออัดในเมืองหลวง
หากให้ยกตัวอย่าง ก็น่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาเมืองโตเกียวของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวจะใช้วิธีกระจุกความเจริญในบางพื้นที่ โดยเฉพาะเขตชานเมือง โดยการปรับปรุงพื้นที่นั้นทีละส่วนจนกลายเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ ซึ่งการกระจุกความเจริญไม่ใช่เพียงสร้างตึกขนาดใหญ่ในพื้นที่แคบ แต่ต้องเน้นส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยการเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงพื้นที่ทางศิลปวัฒนธรรมเข้าด้วยกันในพื้นที่เดียว
 

พิจารณาย่านรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก

image : Dcon Prime
จากการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลเวสต์เกต ทำให้พื้นที่โดยรอบของย่านถูกปรับเปลี่ยนความสำคัญ และเป็นการสร้าง Destination ใหม่ให้แก่คนในย่านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งจุดที่ห้างนี้ตั้งอยู่ยังเป็นส่วนปลายของ ถ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเชื่อมเข้าสู่เส้นทางพิเศษกาญจนาภิเษก โดยถือเป็น Transportation Hub หรือศูนย์รวมเส้นทางคมนาคมหลักจากภาครัฐ ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ - คลองบางไผ่
ทางพิเศษศรีรัช-กาญจนาภิเษก หรือวงแหวนสายตะวันตก โดยถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์สายตะวันตก บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี ไปสุดที่ท่าเรือทวายอีกด้วย นอกจากนั้นในอนาคตพื้นที่ฝั่งตะวันตกนี้จะถูกสร้างเส้นทางให้เชื่อมต่อกับฝั่งอันดามัน ก็จะทำให้พื้นที่รัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตกถูกปรับเปลี่ยนให้สามารถรองรับกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างดี
เซ็นทรัลเวสต์เกต image : skyscrapercity
เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ image : rabbitfinance
บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า image : googlemap
บิ๊กซีรัตนาธิเบศร์ image : googlemap
ตลาดบางใหญ่ image : googlemap
บางใหญ่ไนท์พลาซ่า image : googlemap
โรงพยาบาลการุญเวช image : Baania
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ image : Baania
info : thebangkokinsight
หากพิจารณาจากภาพรวมของตัวจังหวัด นนทบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่กำลังถูกปรับเปลี่ยนให้รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วผังเมืองใหม่ที่ออกมาทำให้พื้นที่พัฒนาเพียงส่วนที่ใกล้กับกรุงเทพฯ เนื่องจากผังเมืองฉบับใหม่จะทำให้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี กลายเป็นพื้นที่สีเขียว (พื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม) ที่สามารถพัฒนาได้เพียงบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดเท่านั้น และต้องสร้างแต่ในจุดที่มีถนนสาธารณะที่กว้าง 12-14 ม. จากเดิมกำหนดไว้เพียง 6 ม. หากมองอีกมุม ก็น่าจะเป็นเพราะจังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดที่คนในพื้นที่ประกอบอาชีพการเกษตรเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว 
จึงเหมาะสมในการกันพื้นที่บางส่วนเพื่อชาวสวนได้ประกอบอาชีพมากกว่าการขายที่ดินทิ้ง ในขณะที่พื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) สามารถพัฒนาโครงการทาวน์โฮมได้ แต่ต้องอยู่ติดกับถนนใหญ่เท่านั้นโดยกำหนดให้ ถนนสาธารณะหน้าโครงการต้องกว้าง 10 ม. ขึ้นไป ต้นทุนราคาที่ดินจึงสูงขึ้นมาก ส่วนพื้นที่สีส้ม (ที่อยู่อาศัยหน้าแน่นปานกลาง), พื้นที่สีน้ำตาล (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) สามารถพัฒนาโครงการได้โดยไม่มีข้อกำหนดความกว้างของถนนสาธารณะ แต่ปัจจุบันราคาที่ดินในพื้นที่ก็ขยับตัวสูงขึ้นมากเช่นกัน
ในบริเวณโซนรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก เมื่อดูประกอบกับผังเมืองใหม่ พื้นที่แห่งนี้จะอยู่ในเขตสีน้ำตาล (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) ซึ่งในอดีตราคาประเมินที่ดินก่อนมีแผนโครงการรถไฟฟ้าจะอยู่ประมาณ 40,000 บาท/ตร.วา แต่ปัจจุบันราคาที่ดินประเมินของกรมธนารักษ์ (2559 - 2562) อยู่ระหว่าง 120,000 - 150,000 บ./ตร.วา และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วหากผังเมืองในตอนนี้ยังไม่ถูกแก้ไขและพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ข้อดีอีกอย่างของโซนรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก คือเป็นพื้นที่บริเวณเขตสีน้ำตาล (ย.7 และ ย.8) จะไม่มีเงื่อนไขขนาดความกว้างถนนในการสร้างโครงการแนวสูง อีกทั้งยังเป็นบริเวณแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ต่างกับบริเวณอื่นๆ ที่อยู่นอกแนวรถไฟฟ้าหรือผังสีน้ำตาล จะมีเงื่อนไขในเรื่องของความกว้างถนนเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากไม่อยู่ในรัศมีรถไฟฟ้าและติดถนนที่มีความกว้างน้อยกว่า 12 เมตร ก็จะพัฒนาอพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมิเนียม ได้เพียง 2,000 ตารางเมตรต่ออาคารเท่านั้น
.

ความเจริญที่เกิดขึ้น และการขยายตัวของย่าน

รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วง เตาปูน – คลองบางไผ่ ได้เปิดให้บริการไปเมื่อ เดือนสิงหาคม 2559 ปัจจุบันได้มีแผนการสร้างส่วนต่อขยายช่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ โดยขณะนี้ ครม.ได้อนุมัติในการเวนคืนที่ดินในแนวรถไฟฟ้าช่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ แล้ว ซึ่งสถานะของโครงการอยู่ในช่วงเตรียมประกวดราคากันอยู่ คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการในปี 2568 โดยสิ่งที่มาพร้อมกันกับรถไฟฟ้าก็คือ โครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดขายมาตั้งแต่ก่อนการสร้างรถไฟฟ้าเสียอีก ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันก็มีโครงการคอนโดเปิดขายมากกว่า 30,000 ยูนิตเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่าสายสีม่วงเป็นอีกหนึ่งเส้นที่มี Supply ของ Condominium ค่อนข้างสูงทีเดียว
 

การพัฒนาของย่านย่อมต้องมีข้อดี-ข้อเสีย

แม้แนวโน้มการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ตลอดเส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมีนับหมื่นยูนิต แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆ จะพบว่ามียูนิตที่รอการระบายอยู่มากกว่า 30,000 ยูนิตด้วยกัน โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถลดราคาได้เกินกว่า 20-30% จากราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 70,000-150,000 บ./ตร.ม. เพราะหากลดมากกว่านี้จะเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ที่ซื้อโครงการไปในรายแรกๆ อีกทั้งยังไปกระทบต้นทุนด้วย ทางออกจึงมีเพียงการแถมของให้ผู้ที่มาซื้อ ซึ่งทำให้เกิดการทิ้งโอนทิ้งดาวน์ จนต้องนำกลับมา Resale ใหม่อยู่ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะ Over Supply ที่เกิดจากผลการศึกษาของรัฐ ก่อนก่อสร้างสายสีม่วงที่คาดการว่าจะมีผู้โดยสาร 2 แสนคนต่อวัน แต่กลับมีเพียง 2 หมื่นคนต่อวัน ในช่วงที่ยังไม่ต่อเชื่อมกับสายสีนํ้าเงินที่สถานีเตาปูน และเมื่อมีการเชื่อมต่อสถานี เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 แม้จะมีคนใช้บริการมากขึ้นแต่อยู่ที่ 5 หมื่นคนต่อวันเท่านั้น สาเหตุที่คนใช้บริการน้อยเกิดจากค่าโดยสารแพง เฉลี่ยไป-กลับวันละ 200 บาทไม่รวมรถโดยสารเชื่อมต่ออื่นๆ
info : ฐานเศรษฐกิจ .

สำรวจราคาคอนโดแต่ละย่านตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง

เมื่อสำรวจคอนโดแบบ High Rise บนเส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงพบว่าส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วงเตาปูนถึงสะพานพระนั่งเกล้า โดยทาง Realist แบ่งออกเป็น 4 โซน ซึ่งมีทั้งโครงการเก่าและใหม่ที่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกปี โดยโซนที่ราคาสูงที่สุดคือบริเวณแยกเตาปูนที่มีราคาขายเฉลี่ย 143,000 บ./ตร.ม. เนื่องจากความที่อยู่ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ที่ในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางคมนาคมหลักของกรุงเทพฯ จึงส่งผลต่อระดับราคาที่สูง รองลงมาเป็นโซนถ.กรุงเทพฯ-นนทบุรี ราคาขายเฉลี่ย 84,000 บ./ตร.ม. และโซน ถ.ติวานนท์-ถ.รัตนาธิเบศร์ 85,000 บ./ตร.ม. 
ซึ่งทั้ง 2 โซนนี้ ราคาค่อนข้างใกล้เคียงกันและไม่เเตกต่างกันมากนัก แต่ โซนถ.กรุงเทพฯ-นนทบุรี จะได้เปรียบเพราะเป็นเส้นที่เข้าใกล้กรุงเทพฯ และสถานีกลางบางซื่อมากกว่า ส่วนโซนที่ราคาถูกที่สุดคือ รัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก ราคาขายเฉลี่ย 77,000 บ./ตร.ม. ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการโครงการคอนโดที่ราคาไม่แพงมากนัก และยังคงอยู่ในบริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ ข้อดีคือเนื่องจากยังมีโครงการเกิดขึ้นไม่มากนัก ทำให้ความสงบของโซนนี้มีค่อนข้างสูงกว่าส่วนอื่นๆ และตามกฎหมายผังเมืองก็กำหนดให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ เรื่องวิวจึงได้เปรียบมาก โดยเฉพาะวิวแม่น้ำเจ้าพระยาหากเลือกห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
  โซนรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตกนั้น คอนโดจะมีราคาไม่โดดสูงมากนัก และสามารถเลือกเดินทางเข้า-ออกจากพื้นที่ได้สะดวกทั้งทางรถยนต์บนเส้นหลักอย่าง ถ.รัตนาธิเบศร์ และการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งพื้นที่โดยรอบอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ มีความสงบและสะดวกในการเดินทางไปพร้อมกัน โดยมีข้อดีอีกอย่างคือวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา และ สภาวะน่าสบายที่มาจากลมที่พัดผ่านแม่น้ำ จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจหากต้องการซื้อคอนโดที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นรถไฟฟ้าสีม่วง เมื่อมาดูภาพรวมคอนโดแบบ High Rise ในโซนรัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตก พบว่ามีราคาเฉลี่ยที่ 77,000 บ./ตร.ม. โดยมีโครงการใหม่อยู่หลายโครงการด้วยกัน ที่ปัจจุบันเพิ่งสร้างเสร็จในปี 2018 มีอยู่ 3 โครงการคือ Grow Rattanathibet, Plum Condo (เฟส2) และ Dcon Prime
 

รัตนาธิเบศร์ (ฝั่งตะวันตก) กับความคุ้มค่าในการลงทุน

รัตนาธิเบศร์ฝั่งตะวันตกแม้จะกำลังเติบโต แต่ก็ยังไม่ถือว่ามีตัวเลขที่หวือหวามากนักหากต้องการจะลงทุนในย่านนี้ ในระยะยาวการลงทุนในเรื่องที่ดินอาจมีความน่าสนใจมากกว่าเพราะราคาพื้นที่บริเวณเส้น ถ.รัตนาธิเบศร์กำลังถีบตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด และก็เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องรอดูกันต่อไปในแง่ของกฎหมายผังเมือง ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวโครงการเก่า และโครงการปัจจุบันที่เหลือขายก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะนำมาพิจารณา เพราะ ต่อจากนี้โครงการใหม่ๆ ในย่านราคาต้องเพิ่มสูงขึ้นมากแน่ๆ ในส่วนของ High-Rise Condominium ในย่าน ตัวเลข Capital Gain 3.9% ก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งหากจะซื้อเพื่อลงทุน แต่หากเป็นผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง คอนโดในย่านนี้น่าจะตอบโจทย์มากที่สุดด้วยปัจจัยในเรื่องการเดินทางที่สะดวกและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัย
 

High-Rise Condo ในย่าน รัตนาธิเบศร์ตะวันตก

The Rich Park @ Chaophraya image : richy place
  • Developer : บริษัท ริชี่เพลส 2002 จำกัด (มหาชน)
  • Building : 1 อาคาร 33 ชั้น
  • Units : 633 Units
Plum Condo Central Station image : livinginsider
  • Developer : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • Building : 1 อาคาร 38 ชั้น
  • Units : 1,208 units
Grow Rattanathibet image : bannia
  • Developer : บริษัท โกรว พรอพเพอร์ตี้ จำกัด
  • Building : 1 อาคาร 34 ชั้น
  • Units : 364 Units
Casa Condo Sam Yaek Bangyai image : hipflat
  • Developer : Quality House Plc. (Q.House)
  • Building :  1 อาคาร 39 ชั้น
  • Units : 847 Units

DCON PRIME RATTANATHIBET

FACT

  • Project : Dcon Prime Rattanathibet
  • Developer :  บริษัท อรดา จำกัด
  • Area : 2-1-16 ไร่
  • Location :  อยู่บนเส้น ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ติด MRT ไทรม้า
  • Type : High Rise Condo
  • Building :  1 อาคาร 38 ชั้น
  • Unit per Floor : 22 ยูนิต / ชั้น
  • Parking : รวมจอดซ้อนคันประมาณ 199 คันคิดเป็น 31%
  • UNIT PACKAGE – Fully Furnished
  • UNIT TYPE
  • Total units : ส่วนพักอาศัย 638 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต
1 Bedrooms 26.58 - 33.05 ตร.ม.
2 Bedrooms 48.25 - 60 ตร.ม. 
Facilities
  • Lobby Lounge
  • Library
  • Meeting room
  • Sky Fitness
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ
  • Sky Lounge
  • Rooftop Garden
  • Sauna
PRICE
  • เริ่มต้นที่  1.59 ลบ.
  • (ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  68,000 บ./ตร.ม. ณ วันที่ 7 ก.พ 2562)
การก่อสร้าง : สร้างเสร็จพร้อมโอน
 

Dcon Prime Rattanathibet 

เป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่ที่น่าสนใจ ของ บริษัท อรดา จำกัด ราคาเริ่มต้น 1.59 ลบ. ตั้งอยู่ติดกับสถานีไทรม้า ให้เฟอร์พร้อมอยู่ โดยมีจุดเด่นที่ได้รับวิวของโค้งน้ำเจ้าพระยาแบบเต็มๆ  นอกจากจะเหมาะกับการอยู่อาศัยเองแล้วการลงทุนในระยะยาวในโครงการ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยการปล่อยเช่าห้องจะมีรายได้จากค่าเช่าประมาณ 6,500 บาทต่อเดือน หรือ คิดเป็น Yeild ที่  4.9% (สำหรับราคา 1.59 ลบ) .

FACILITIES

SHOW UNIT

Bedroom
Living 

Dining  

อยากรู้ข้อมูลของโครงการ ตามต่อได้ที่ www.dconprime.com/

Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (220)
 (317)
 (380)
 (28)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (8)
 (181)
 (85)
 (109)
 (106)
 (40)
 (17)
 (44)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon