Duplex Home จาก AP ไม่เคยหยุดนิ่ง เปิดตัวรวม 14 โครงการ ภายใต้ 4 แบรนด์
GRANDE PLENO
7 โครงการ
"บ้าน นิยามใหม่ของชีวิต ที่เติมเต็มความสุขไร้ข้อจำกัด"
แบรนด์ย่อยแบรนด์แรกที่เปิดตัว เป็นโครงการ Duplex Home ขนาด 2 ชั้น รองรับครอบครัวขนาดเริ่มต้น ราคาเข้าถึงได้ง่ายบ้านกลางเมือง THE EDITION
5 โครงการ
"THE NEW CHAPTER OF HAPPINESS"
ดีไซน์ทันสมัย เน้นตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่ใช้ชีวิตในเมือง มีพื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชั่นเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางTHE SONNE
1 โครงการ
"THE NEW ORIGINAL"
บ้านกลางเมือง CLASSE
1 โครงการ
"THE PARAMOUNT LIVING"
พัฒนารูปแบบบ้านมาตลอด 5 ปี กับ 9 รูปแบบบ้าน
- ในปัจจุบันถือได้ว่า Duplex Home เป็นบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้ดี โดยเฉพาะฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่โตหรือต้องการดูแลมากเท่าบ้านเดี่ยว ซึ่งเหมาะกับคนทำงานที่ใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในออฟฟิศ อยากได้บ้านเพื่อการพักผ่อน แต่ไม่อยากมีภาระในเรื่องงานบ้านมากนัก
- ทาง AP ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และมีการพัฒนาแบรนด์ Duplex Home ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นแบรนด์ GRANDE PLENO และหลังจากนั้นในปี 2559 และ 2560 เปิดตัวแบรนด์ บ้านกลางเมือง CLASSE และ บ้านกลางเมือง THE EDITION ตามลำดับ และล่าสุดในปี 2562 นี้ ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ คือ THE SONNE
- ซึ่งนอกจากจะพัฒนาแบรนด์แล้ว แต่ละแบรนด์เองยังได้มีการพัฒนา Model บ้านของแต่ละแบรนด์เช่นกัน โดยเฉพาะ GRANDE PLENO ที่มีการพัฒนาไปมากถึง 4 รูปแบบ ส่วนบ้านกลางเมือง THE EDITION เองก็พัฒนามาถึง 3 รูปแบบด้วยกัน ทั้งเรื่องของหน้าตา ขนาดพื้นที่ ไปจนถึงฟังก์ชั่นภายใน
รองรับผู้อยู่อาศัยครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- จะเห็นได้ว่าโครงการ Duplex Home จาก AP กระจายอยู่ในโซนต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในแต่ละทำเลก็จะตอบโจทย์กลุ่มคนที่ใช้ชีวิตหรือทำงานในสถานที่แตกต่างกัน
- อย่างโครงการระดับ Top Segment บ้านกลางเมือง CLASSE ตั้งอยู่ในโซนเอกมัย รามอินทรา ใกล้ทางด่วน ทำให้เดินทางเข้าเมืองสะดวก ส่วนในโซนศรีนครินทร์ วงแหวน ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพสำหรับการอยู่อาศัยอีกหนึ่งทำเลในโซนตะวันออก ล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่ มีโครงการ Duplex Home ตั้งอยู่ถึง 2 แบรนด์ด้วยกัน คือ THE SONNE และบ้านกลางเมือง THE EDITION นอกจากนี้ในพื้นที่ฝั่งธนฯ และจังหวัดโดยรอบกรุงเทพฯ อย่างนนทบุรีหรือปทุมธานี ก็มีโครงการจาก GRANDE PLENO ตั้งอยู่เช่นกัน ช่วยสร้างทางเลือกให้กับผู้อยู่อาศัยในแต่ละโซนได้เป็นอย่างดี
เปรียบเทียบฟังก์ชั่นของแต่ละแบรนด์
- สำหรับโครงการ Duplex Home ทั้ง 4 แบรนด์ จะมีสไตล์บ้าน ขนาดพื้นที่พื้นที่ใช้สอย ที่ดิน รวมถึงฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการไม่เหมือนกัน
- ซึ่งสไตล์บ้านส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ยกเว้นรูปแบบ Duplex Home ใหม่ที่เปิดตัวในปี 2562 นี้ ที่เริ่มมีการเปลี่ยนสไตล์เป็นคลาสสิค ได้แก่ GRANDE PLENO แบบใหม่ล่าสุด (OLIVIA) และ SONNE
- ส่วนพื้นที่ใช้สอย หากเป็นครอบครัวขนาดเริ่มต้น เหมาะกับ Duplex Home ของ GRANDE PLENO ขนาด 2 ชั้น เนื่องจากขนาดพื้นที่และฟังก์ชั่นกำลังพอดี คือ พื้นที่ใช้สอย 110-149 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน สามารถอยู่ได้ 2-4 คนขึ้นไป
- หากเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นมา อยู่กัน 5 คนขึ้นไป หรือต้องการบ้านที่รองรับการขยายครอบครัวในอนาคต เหมาะกับ Duplex Home 3 ชั้น ซึ่งมีพื้นที่ตั้งแต่ 218-249 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน
สรุปความแตกต่างของ Duplex Home แต่ละแบรนด์
- โดยสรุป GRANDE PLENO เป็นบ้านที่รองรับครอบครัวใหม่ มีฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยขนาดเริ่มต้น ส่วนบ้านกลางเมือง THE EDITION เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในเมือง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตารางเมตรต้นๆ ขนาด 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ
- ใหญ่ขึ้นมาจะเป็นบ้านกลางเมือง CLASSE ซึ่งเน้นความ Luxury ตั้งแต่ทำเลที่ใกล้เมือง ล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่ ไปจนถึงรูปแบบบ้านที่กว้างขวาง
- ส่วน THE SONNE แบรนด์เปิดตัวใหม่ล่าสุด เกิดจากการต่อยอดและพัฒนา Duplex Home อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอย ขนาดที่ดินเริ่มต้น และหน้ากว้างมากที่สุดจากทั้ง 4 แบรนด์แล้ว ยังพัฒนาคอนเซ็ปต์โครงการให้เกิดความแตกต่าง เน้นในเรื่องของ Timeless Design ให้ความรู้สึกหรูหราและไม่ล้าสมัย
THE LUXURY DUPLEX HOME FROM AP
THE SONNE ศรีนครินทร์ - บางนา
ความงดงามในทุกรายละเอียด ที่ไม่เลือนหายตามกาลเวลา
FACT SHEET
- ชื่อโครงการ : THE SONNE SRINAKARIN - BANGNA
- ที่ตั้ง : ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซ.28 แยก 14-2 ประเวศ กรุงเทพฯ
- ขนาดโครงการ : 12-1-46.5 ไร่
- จำนวนยูนิตทั้งหมด : 56 หลัง
- จำนวนแบบบ้าน : 4 แบบ
- พื้นที่ใช้สอย : 243.28-249.14 ตร.ม.
- ฟังก์ชั่น : 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- ราคาเริ่มต้น : 12-15 ลบ.
กับดีไซน์ที่งดงามทุกรายละเอียด
- การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมคลาสสิคยุคใหม่ สไตล์ Beaux-arts ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมในช่วงคริสต์ศตวรรตที่ 18-19 ที่นำความงามของสถาปัตยกรรมยุคกรีก โรมันมาฟื้นฟูใหม่ องค์ประกอบหลักที่เห็นได้ชัดในสถาปัตยกรรมยุคนี้ คือ ตัวอาคารมีความสมมาตร มีการใช้ทรงโค้ง (Arch) และทรงจั่ว (Pediment) รวมถึงลงรายละเอียดแบบยุคคลาสสิคที่มีความงดงาม ละเมียดละไม
- โดยทางโครงการได้นำแนวคิดมาใช้ พร้อมลดทอนรายละเอียดลงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้รูปแบบบ้านในโครงการมีความคลาสสิค สมบูรณ์ไปด้วยองค์ประกอบในจุดต่างๆ ตามคอนเซ็ปต์ Timeless Masterpiece
SHOW UNIT
SONNE
- พื้นที่ใช้สอย : 245.84 ตร.ม.
- หน้ากว้าง : 13.65 ม.
- ฟังก์ชั่น :
- - 4 ห้องนอน
- - 4 ห้องน้ำ
- - 2 ห้องอเนกประสงค์
- - 2 ที่จอดรถ
ชั้น 1
- ออกแบบไว้ให้เป็นห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ โดยทำทางเข้าเป็น 2 ทางคือจากหน้าบ้านสามารถขึ้นจาก Ramp ที่รองรับการใช้วีลแชร์ หรือจะเข้าจากภายในบ้านก็ได้เช่นกัน
- ภายในห้องนี้จะมี ห้องน้ำส่วนตัว ที่มีลักษณะเฉพาะ คือ No-step Bathroom ที่ทำให้การเข้าไปใช้งานได้ง่าย สะดวก รวมถึงลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการหกล้มของผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็นได้
ชั้น 2
ชั้น 3
- ชั้นบนสุดเป็นส่วนพักผ่อนสำหรับลูกๆ ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้องขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ รวมถึงมี Walk-in Closet และห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง
- นอกจากนี้ ทุกห้องนอนในบ้านยังหันออกด้านหน้าตัวบ้าน ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติและชมวิวได้ตลอดทั้งวัน
ภาพบรรยากาศบ้านตัวอย่างเพิ่มเติม
บรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลาง
สรุปความน่าสนใจของโครงการ THE SONNE ศรีนครินทร์ - บางนา
- 1. ดีไซน์ ออกแบบโดยใช้แนวคิดสถาปัตยกรรมยุคคลาสสิค ซึ่งเป็นรูปแบบที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ไม่ล้าสมัย หรือเรียกอีกอย่างว่า Timeless Design ซึ่งเหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาบ้าน เพื่ออยู่ไปนานๆ ซึ่งสามารถส่งมอบเป็นมรดกให้กับรุ่นลูกหลานก็ยังได้
- 2. Multi-Facade เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นในโครงการ Duplex Home หรือแม้แต่โครงการจัดสรรทั่วไป ภายในโครงการนี้จึงเน้นบรรยากาศและภาพลักษณ์ที่ดีให้ลูกบ้านโดยออกแบบให้บ้านแต่ละหลังมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการความแตกต่าง ทำให้โครงการนี้มีความรู้สึกพิเศษกว่าโครงการอื่นๆ ที่เคยมีมา
- 3. Universal Design คำนึงถึงทั้งพื้นที่ในบ้าน และพื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะทางลาดขึ้น ลงสำหรับรถเข็น ไม่ว่าจะลูกเล็ก หรือผู้สูงอายุ สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวก นอกจากนี้ ตัวบ้านชั้น 1 ออกแบบให้ไม่มี Step รองรับการใช้รถเข็นภายในบ้านอีกด้วย