รถไฟฟ้าภูเก็ต
โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต
โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตเป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนระบบการคมนาคมขนส่งของประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้เกิดความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นเมืองต้นแบบ หรือเป็นเมืองอัจฉริยะ Smart City โดยโครงการนี้จะบรรเทาปัญหาจราจร ลดมลภาวะเป็นพิษ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ รวมถึงช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนในจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
ความเป็นมาของโครงการ
20 ต.ค. 55
คณะรัฐมนตรี(ครม.) มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้
10 ก.ย. 56
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาและออกแบบโครงการรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวจากสุราษฎร์ธานี –พังงา -ภูเก็ต (รวมทั้งโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต)
10 ก.พ. 59
กระทรวงคมนาคมให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตในรูปแบบ PPP ต่อเนื่องจาก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
13 ก.ค. 61
รฟม. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำรายงานการวิเคราะห์โครงการตาม พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง
พระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า พ.ศ. 2562 เพื่อให้ รฟม. ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพังงาและภูเก็ต ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 62 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 7 เม.ย. 62) เป็นต้นไป
ที่มา : MOT, MRTA, ประชาชาติ
จุดมุ่งหมายของโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต
เพื่อพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพที่สามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีต่อประชาชน นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต
การดำเนินโครงการ
สนข. ดำเนินการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนหลักในจังหวัดภูเก็ตโดยผลการศึกษาได้เสนอแนะแนวเส้นทางที่ควรดำเนินการ จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง และ ช่วงท่านุ่น - เมืองใหม่
เส้นทางที่ 2 ช่วงเมืองภูเก็ต – ป่าตอง
เส้นทางที่ 3 ช่วงห้าแยกฉลอง – ราไวย์
แต่เริ่มดำเนินการเส้นทางที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง และ ช่วงท่านุ่น – เมืองใหม่ก่อน โดยแบ่งการดำเนินการโครงการเป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง รวม 41.7 กม. 21 สถานี
ระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ รวม 16.8 กม. 3 สถานี
โดยเร่งดำเนินการระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลองก่อน
ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง
เส้นทางช่วงนี้เป็นเส้นทางจากในตัวเมืองภูเก็ตไปจนถึงนอกตัวเมืองภูเก็ตนอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตอีกด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ในการเดินทางในจังหวัดมากขึ้น โดยจะเร่งการก่อสร้างให้เร็วที่สุด คาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในปี 2569
ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง รวม 41.7 กม. 21 สถานี
- ทางวิ่งระดับพื้นดิน (At Grade) 19 สถานี
- ทางวิ่งลอดใต้ดิน (Underground) 1 สถานี คือ สถานีถลาง ซึ่งสถานีนี้จะเป็นศูนย์ควบคุมการเดินรถ และซ่อมบำรุงด้วย
- ทางวิ่งยกระดับ (Elevated) 1 สถานี คือ สถานีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้นำเสนอการศึกษาเบื้องต้นของเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับโครงการ ซึ่งประกอบด้วย 3 รูปแบบ คือ รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit) ให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.)
เนื่องจากเมื่อได้เปรียบเทียบงบประมาณระหว่างการใช้รถไฟฟ้ารางเบากับระบบ ART สรุปว่าการใช้ระบบ ART นั้นใช้งบประมาณเพียง 17,723 ลบ. ซึ่งราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับการใช้รถไฟฟ้ารางเบาที่ใช้งบประมาณ 35,201 ลบ.
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการ โดยมีคำสั่งเพิ่มเติม คือ
1. หาข้อสรุปรูปแบบรถไฟฟ้าว่าจะใช้ระบบใด ระหว่างรถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก, รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง (แบบสายสีทอง) และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit) ที่ใช้งบประมาณถูกกว่าครึ่งหนึ่ง
2. ให้ สนข. ร่วมกับ กทพ. และ รฟม. ทบทวนภาพรวมการประมาณการปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าภูเก็ต ทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า โครงการทั้ง 2 ระยะจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการตามที่คาดการณ์ไว้
3. ให้ รฟม. กำหนดราคาค่าโดยสารใหม่ให้เหมาะสม โดยที่ราคาไม่สูงจนเกินไปและสามารถจูงใจให้เอกชนมาร่วมลงทุนได้
4. ให้ รฟม. พิจารณาใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร เนื่องจากตามแนวเส้นทางของโครงการจะผ่านบริเวณที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่นอยู่แล้ว โดยจะเร่งการดำเนินการระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง ให้พร้อมเปิดบริการได้ในปี 69นี้
ในพ.ค. 64 รฟม.ได้
สรุปรูปแบบโครงการระบบขนส่งมวลชนจากรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม) เป็นระบบ Automated Rapid Transit (ART) หรือรถบัสอัจฉริยะไร้คนขับ ซึ่งใช้ล้อยางแต่เดินรถด้วยระบบไฟฟ้า ทําให้
งบประมาณโครงการลดลงประมาณ 15,289 ลบ. จากเดิม 35,20 1 ลบ . และลดระยะเวลาการก่อสร้างจากเดิม 9 เดือน โดยตอนแรกจะใช้เวลาก่อสร้าง 3ปี โดยหวังให้เป็นรฟฟ.สายแรกของต่างจังหวัด
เทคนิคการก่อสร้างสำหรับโครงการนี้จะใช้เทคนิคที่ใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่างๆ เช่น การใช้คอนกรีตหล่อสําเร็จ และการใช้ Launching Gantry เป็นต้น
จากการที่ต้นทุนการก่อสร้างมีราคาที่ถูกลง ทำให้รฟม.สามารถกําหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงได้ ในเบื้องต้นจะแบ่งเป็นการเดินทางในเมืองภูเก็ต นอกเมืองภูเก็ต และการเดินทางระหว่างเขตเมือง เนื่องจากโครงการนี้จะเป็นโครงการแรกในไทยที่ใช้ระบบ ART นายศักดิ์สยามจึงให้ รฟม. ค้นคว้าโครงสร้างอัตราค่าโดยสารของโครงการ ART จากต่างประเทศประกอบการพิจารณาด้วย
นอกจากนี้นายศักดิ์สยามให้รฟม. พิจารณาลดต้นทุนการก่อสร้างและระยะเวลาการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยพิจารณาการนําเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีต้นทุนต่ำมาปรับใช้ เพื่อให้สามารถกําหนดอัตราค่าโดยสารได้ต่ำที่สุด
แผนการดำเนินโครงการระยะที่ 1 คือ
ปี 64 เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในรูปแบบการร่วมลงทุนโครงการฯ
ปี 65 ประกาศเชิญชวน / คัดเลือกเอกชนผู้ร่วมลงทุนโครงการฯ/ เสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ/ ลงนามในสัญญา
ปี 66 – 69 ออกแบบรายละเอียดและก่อสร้างโครงการ
ปี 69 เปิดให้บริการโครงการ
แนวเส้นทางโครงการ ระยะที่ 1
เริ่มจากสถานีสนามบินภูเก็ตโดยแนวเส้นทางช่วงนี้เป็นโครงสร้างแบบยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 4031 จากนั้นลดระดับลงสู่ระดับดินที่ทางหลวงหมายเลข 4026 มุ่งหน้าเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 402 เพื่อเข้าสู่เมืองภูเก็ต โดยแนวเส้นทางช่วงผ่านอ.ถลางจะลดระดับเป็นทางลอดใต้ดิน มีระยะทางประมาณ 3 กม. จากนั้นแนวเส้นทางจะกลับขึ้นสู่ระดับดิน ผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร(อนุสาวรีย์วีรสตรี) สถานีขนส่ง เข้าสู่เขตเทศบาลเมืองภูเก็ต ผ่าน ถ.ภูเก็ต และข้ามสะพานเทพศรีสินธุ์ (สะพานข้ามคลองเกาะผี) เพื่อเข้าสู่ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก (ทางหลวงหมายเลข 4021) และไปสิ้นสุดที่บริเวณห้าแยกฉลอง ระยะทางรวมประมาณ 41.7 กม.
แนวเส้นทางโครงการ ระยะที่ 1 ผ่าน
- ชุมชนขนาดใหญ่ ได้แก่ เทพกระษัตรีศรีสุนทร เทศบาลนครภูเก็ต
- จุดเชื่อมต่อการเดินทางกับรูปแบบการขนส่งอื่นๆได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ตแห่งที่ 2 และ ท่าเทียบเรือฉลอง
- สถานศึกษา ได้แก่ โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย จำนวนมากกว่า 20 แห่ง โดยมีจำนวนนักเรียน/นักศึกษา รวมประมาณ20,000 คน
- โรงพยาบาล/ศูนย์สุขภาพชุมชน จำนวน 4 แห่ง
ที่มา : MOT, MRTA, ประชาชาติ