รฟม.UPDATE สายสีส้ม สายสีเขียว
สายสีส้ม
กลับไปใช้แนวเดิม "ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี"
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้คจร. ที่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้า
สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ระยะทาง 17.5 กิโลเมตร กรณีที่ รฟม. เสนอปรับเปลี่ยนช่วงที่ผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์-สถานี
ศูนย์วัฒนธรรม เป็นแนวใหม่โดยให้ผ่านดินแดง-ถนนพระราม 9
โดย คจร.มีมติให้ รฟม.ดำเนินการก่อสร้างตามแนวเส้นทางเดิม เนื่องจากเป็นแนวเส้นทางที่เหมาะสม ผ่านชุมชน และมหาวิทยาลัย
ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนมีรายได้น้อยจะได้ใช้ประโยชน์จากรถไฟฟ้ามากกว่า
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟม.กำลังปรับแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้า
สายสีส้ม ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการจัดการจราจรทางบก (คจร.) กำหนด โดยจะกลับไปใช้แนวเส้นทางเดิมคือ "ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี"
จากเดิมที่ได้มีการศึกษาไว้ว่าจะเปลี่ยนไปใช้เส้นทางตลิ่งชัน-พระราม 9-มีนบุรี โดยจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.
ในวันที่ 3 ก.ค.
Images : PPTV
ในขณะที่แนวเส้นทางใหม่เป็นย่านคอนโดมิเนียมและตึกสูงซึ่งเป็นที่อยู่ของคนมีฐานะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแนวเดิมหรือเปลี่ยนแนวใหม่ล้วนแต่มีผลกระทบ แต่ควรเลือกแนวที่มีการประกาศไว้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา รฟม.ดำเนินงานล่าช้าจึงต้องรีบไปทำความเข้าใจกับประชาชน ขณะเดียวกันที่ประชุมยังมีมติ อนุมัติโครงการช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21.5 กิโลเมตร ด้วย
"ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" รองนายกรัฐมนตรี ระบุการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเส้นทางศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จะใช้เส้นทางผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์ตามแผนเดิม ชี้ลดแออัดจราจรดีกว่าถนนพระรามเก้าและไม่ได้เอื้อเอกชน ย้ำจะสร้างเส้นทางใดก็ส่งผลกระทบต่อประชาชนเหมือนกัน
วันนี้ (10 มิ.ย.2558) ที่ประชุมคณะกรรมการการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มเส้นทางตลิ่งชัน-มีนบุรี มีมติจะใช้เส้นทางเดิมในการก่อสร้างช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ซึ่งต้องผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์ตามแผนแม่บทเดิม เพราะมีการประกาศล่วงหน้าแล้วมานานกว่า 10 ปี และได้ผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) อีกทั้งหากสร้างผ่านเส้นประชาสงเคราะห์จะสามารถลดปัญหาการจราจรที่แอดอัดได้ดีกว่าบริเวณถนนพระรามเก้า และขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเส้นทางจากมีนบุรีมาถึงศูนย์วัฒนธรรมและยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้างผ่านชุมชน ดังนั้น ควรใช้ระยะต่อเวลาต่อจากนี้ในการบริหารจัดการพื้นที่และจัดหาที่อยู่ใหม่ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินจำนวน 184 ครัวเรือน
Info : Khaosod Online ( 30 June 2015)
สายสีเขียว
ไม่รื้อสะพานรัชโยธินแต่สร้างรางสูงขึ้นอีก 2 เมตรแทน
พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟม.มีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต บริเวณแยกรัชโยธิน จากเดิมที่วางแผนจะรื้อสะพานรัชโยธินและก่อสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอด แต่ข้อเสนอใหม่จะไม่รื้อสะพานรัชโยธิน โดยจะยกระดับโครงสร้างของรถไฟฟ้าและสะพานข้ามแยกในแนวถนนพหลโยธินให้อยู่เหนือสะพานข้ามแยกเดิม
ทั้งนี้ เหตุที่ต้องทบทวนแผนการก่อสร้างดังกล่าว เนื่องจากการรื้อสะพานรัชโยธินและสะพานข้ามแยกเกษตรนั้น สร้างความกังวลถึงผลกระทบด้านการจราจรที่จะเกิดขึ้นในช่วงการก่อสร้าง โดยเฉพาะการก่อสร้างอุโมงค์จะใช้เวลาถึง 3 ปี จึงมีการเสนอเพิ่มทางเลือก 4 แนวทางให้บอร์ด รฟม.พิจารณา ประกอบด้วย
1. ทุบสะพานข้ามแยกรัชโยธินและก่อสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดแทน ส่วนรถไฟฟ้าจะมาตามแนวถนนพหลโยธิน และใต้รถไฟฟ้าจะมีถนนยกระดับซึ่งใช้ตอม่อเดียวกับรถไฟฟ้า แต่อยู่ต่ำกว่ารถไฟฟ้า เป็นแนวทางที่แก้ปัญหาจราจรได้ค่อนข้างสมบูรณ์เพราะรถที่วิ่งบนถนนพหลโยธินและรัชดาภิเษก เวลาเลี้ยวซ้ายและขวาจะไม่ตัดกับรถทางตรง เพราะมีทั้งสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ลอด แต่ข้อเสียคือใช้เวลาก่อสร้างนาน 3 ปี
2.ไม่ทุบสะพานรัชโยธิน แต่ การก่อสร้างรถไฟฟ้าต้องยกระดับสูงจากแนวเดิมอีก 2 เมตร จาก 16 เมตร เป็น 18 เมตรแทน เพื่อให้ข้ามเหนือสะพานรัชโยธิน ส่วนใต้รถไฟฟ้าจะมีถนนซึ่งใช้ตอม่อเดียวกับรถไฟฟ้า แนวทางนี้มีข้อดีเรื่องระยะเวลาก่อสร้างน้อยลง ค่าใช้จ่ายลดลง 1,200 ล้านบาท เพราะไม่มีการก่อสร้างอุโมงค์ และช่วยบรรเทาปัญหาในช่วงระหว่างการก่อสร้างได้
3. รื้อสะพานรัชโยธินและก่อสร้างสะพานข้ามแยกแนวถนนรัชดาภิเษก โดยให้ข้ามเหนือจากโครงสร้างของรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีความสูงถึง 24 เมตร แนวทางนี้มีความเสี่ยงมากในเรื่องของความปลอดภัยและผลกระทบ รวมทั้งเทคนิคการก่อสร้างสะพานที่จะต้องไต่ลาดสูง 24 เมตร
Images : Prachachat Online
4.ไม่รื้อสะพานรัชโยธิน แต่จะก่อสร้างเฉพาะโครงสร้างรถไฟฟ้า โดยไม่มีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกในแนวถนนพหลโยธิน วิธีการนี้สามารถประหยัดค่าก่อสร้างได้มากที่สุด แต่การแก้ไขปัญหาการจราจรไม่ดีเท่ากับแนวทางที่ 2
“ขณะนี้บอร์ดได้เห็นชอบแนวทางที่ 2 แต่รอผลพูดคุยกับ กทม. หากไม่มีข้อเสนออะไร และไม่ติดปัญหาทางเทคนิคจะสามารถดำเนินการได้ และจะสรุปเสนอบอร์ดครั้งหน้า จากนั้นเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ต้นปี 2559” พล.อ.ยอดยุทธ กล่าว
Info : Posttoday Online ( 6 July 2015)
ความคืบหน้ารถไฟฟ้า สายสีส้ม สายสีเขียว