ระยะทางที่วิ่งได้ทั้งหมดของแต่ละสวน
จากเส้นทางจักรยานที่กล่าวถึงจะผ่าน 3 สวนใจกลางเมือง คือ สวนลุมพินี, สวนเบญจกิติ และสวนชูวิทย์ โดยทั้ง 3 สวนนี้เป็นสวนที่มีขนาดและความพิเศษแตกต่างกันไป เช่น สวนลุมพินี เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย, สวนชูวิทย์ เป็นสวนสาธารณะเอกชน และสวนเบญจกิติ เป็นสวนที่ตั้งบนพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาพื้นที่ สวนเพิ่มเติมเรียกว่า “สวนป่าเบญจกิติ” ซึ่งมีการเปิดให้บริการในส่วนของสวนป่าระยะที่ 1 ไปแล้ว
สวนลุมพินี เรียกสั้น ๆ ว่า สวนลุม เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย เปิดใช้ในปี 2468 มีที่ดิน 360 ไร่ ซึ่ง ร.7 ได้พระราชทานสำหรับสร้าง "สยามรัฐพิพิธภัณฑ์" เพื่อจัดแสดงสินค้าไทยเป็นครั้งแรก และจัดให้เป็น "สวนสาธารณะ" สำหรับประชาชน
สวนแห่งนี้ถือเป็นสวนใจกลางเมืองที่มีผู้คนหลากหลายกลุ่มอายุเข้ามาใช้งานทั้งออกกำลังกายและมาพักผ่อน เป็นศูนย์รวมของคนรักสุขภาพ
สวนชูวิทย์ เป็นสวนสาธารณะเอกชน บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณถนนสุขุมวิท ซอย 10 ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ดินบริเวณนี้เดิมให้เช่าเป็นบาร์เบียร์และร้านค้าชื่อ "สุขุมวิทสแควร์"
นายชูวิทย์ซื้อมาจากเจ้าของเดิม และมีโครงการสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาว แต่เกิดปัญหา จึงยกเลิกโครงการสร้างโรงแรม และสร้างเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้งานแทนในปี 2546
Credit : Richard Barrow
สวนเบญจกิติ พื้นที่สวนเบญจกิติในปัจจุบันนั้นเป็นการพัฒนาพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม ในส่วนที่ 1 หรือเรียกว่า สวนน้ำ ตามมติครม. ที่จะย้ายโรงงานยาสูบออกไปนอกกรุงเทพฯ
โดยมีพื้นที่ 130 ไร่ เปิดใช้งานเมื่อ 2547 (ซึ่งในปัจจุบันโรงงานยาสูบใหม่อยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.อยุธยา บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง)
ต่อมาโรงงานยาสูบได้มอบพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 61 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ในระยะที่ 1 เพื่อทำเป็น "สวนป่าเบญจกิติ" วงเงิน 950 ลบ. ตามเเบบเเปลนของสำนักพระราชวัง พื้นที่สวนปลูกไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เพื่อเป็นปอดใจกลางเมือง โดยรวมๆแล้วในสวนจะมีต้นไม้เล็กใหญ่ถึง 30,400 ต้นเลยทีเดียว ตอนนี้ในระยะที่ 1 ได้เปิดให้ใช้งานแล้ว ในอนาคตข้างหน้าโรงงานยาสูบจะทำการส่งมอบพื้นที่ในระยะที่ 2 และ 3 รวมแล้วจะเป็นพื้นที่สวนป่าถึง 320 ไร่ คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการทั้งหมดในปี 2563
ด้านในสวนป่าเบญจกิติ จะเป็นป่าที่จะมีเส้นทางการสัญจรของทั้งทางจักรยานและทางคนเดินออกกำลังกาย ขนาดกว้าง 3 ม., 6 ม. และ 8 ม. เพื่อให้ผู้มาใช้งานสามารถใช้งานได้หลากหลาย มีเกาะนก, อาคารเรือนกระจก, หอสมุดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ, อาคารแสดงศิลปวัฒนธรรม และลานกีฬา แทรกตัวอยู่ในพื้นที่สวนป่า รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเช่น ห้องน้ำมีทุกระยะ 200 เมตร หรือ ทางลาดสำหรับรถเข็นผู้พิการ เรียกได้ว่าเป็นสวนป่าของกรุงเทพฯที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกคนจริงๆ
พื้นที่สีเขียว 73%
ป่าน้ำ
ป่า
ป่าดิบที่ลุ่ม
สนามหญ้า
บ่อน้ำ
ด้านวัฒนธรรม 17 %
สวนเฉลิมพระเกียรติ
พื้นที่จัดแสดงงาน
ชมรมดนตรี
ศูนย์วัฒนธรรม
ด้านกีฬา 7 %
สนามกีฬาต่างๆ เช่น
• ฟุตบอล, บาส, เทนนิส,
• เปตอง, ตะกร้อ
ลานอเนกประสงค์
ด้านศิลปะ 2 %
ลานศิลปะ
ลานอเนกประสงค์
ศูนย์แสดงงานศิลปะ
เกาะประติมากรรม