หากพูดถึง Lifestyle ของ Young Generation หรือ คนรุ่นใหม่ (อายุ 25-35 ปี) ในปัจจุบันแล้ว หลักๆ เลยคือ ชอบความสะดวกสบาย ,รักการพักผ่อน ควบคู่กับปาร์ตี้ และการสังสรรค์ไปในตัว Lifestyle ที่ว่ามานี้ มีผลต่อการเลือกคอนโด ของคนเหล่านี้แน่นอน เราเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยของคนรุ่นใหม่ มีความฝันที่อยากมีคอนโดอยู่ย่าน เอกมัย-ทองหล่อ เพราะเป็นโซนที่สามารถเดินไปทำงาน อย่างโซน CBD ได้สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังใกล้แหล่ง Lifestyle หลากหลายรูปแบบ เพื่อ Refresh ชีวิตแบบไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน หลังจากเลิกงาน แน่นอนว่าคอนโดบนย่านนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูง ไม่ตอบโจทย์ คนรุ่นใหม่ ที่ยังเป็น First Jobber และมีงบที่จำกัด การจะหาคอนโดที่ราคาจับต้องได้ใกล้ๆ โซนนี้อาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับคนรุ่นใหม่ ณ ชั่วโมงนี้ ทาง Realist อยากให้ทั้ง คนรุ่นใหม่ และ First Jobber ทั้งหลาย มารู้จักกับทำเล "สุขุมวิท-พระราม 4"  บนสุขุมวิทตอนกลาง ขยับมาอีกนิดเพียง 1 สถานี จากเอกมัย ถือได้ว่าเป็นย่านที่เหมาะกับคนกลุ่มนี้สุดๆ มีราคาคอนโดที่จับต้องได้ เริ่มต้น 2-4 ลบ. และไม่ว่าท่านจะทำงานอยู่ CBD ไหนก็ไปได้ง่ายๆ ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสถานีพระโขนง เดินทางไป CBD สุขุมวิท ในเวลาไม่นาน และ ถ.พระราม 4 ที่มุ่งตรงสู่ CBD สาทรอีกด้วย อีกหนึ่งสิ่งที่มายกระดับ ทำเล "สุขุมวิท-พระราม 4" ให้น่าอยู่สำหรับคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น คือแหล่ง Lifestyle หลากหลายแห่งและรูปแบบทั้ง ห้างขนาดใหญ่, Community Space, คาเฟ่น่านั่ง และโซน Hang Out ต่างๆ เรียกได้ว่าสามารถเปลี่ยนที่ได้แบบไม่ซ้ำกันเลย ได้ยินแบบนี้แล้ว ทุกๆ ท่านคงอยากจะรู้จักทำเลนี้ให้มากขึ้น สามารถอ่านบทความต่อได้เลยครับ

4 เหตุผลที่ "สุขุมวิท-พระราม 4 " เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับคนรุ่นใหม่

• ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีพระโขนง เชื่อมต่อโซน CBD สุขุมวิท ได้ใน 10 นาที
• แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง ห้างขนาดใหญ่ และ Community Mall
• มี แหล่ง Lifestyle หลายแห่ง ให้ได้ Refresh ในทุกๆ วันแบบไม่ซ้ำกัน ทั้งร้านอาหาร, คาเฟ่ และบาร์ สำหรับสาย Hang Out
• มีคอนโดราคาจับต้องได้ เริ่ม 2.5 - 4 ลบ. เหมาะกับคนรุ่นใหม่

สุขุมวิท-พระราม 4 เป็นทำเลที่เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ เพราะไม่ว่าท่านจะทำงานอยู่บน CBD เขตไหน ก็สามารถเดินทางไปได้ง่ายและรวดเร็ว ในเวลาเพียง 10-15 นาที ตัวทำเลเป็นที่ตั้งของสถานี พระโขนง ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถ้าหากจะไป CBD สุขุมวิท หรือ สถานีอโศก ก็สามารถเดินทาง ห่างไปเพียง 4 สถานีเท่านั้น ใช้เวลาแค่ 10 นาที หรือถ้าใครทำงานอยู่บน CBD สาทร และมีรถยนต์ สามารถเดินทางได้ง่ายๆ ด้วย ถ.พระราม 4 ขับมุ่งตรงไปยังสาทร ได้ในเวลา 15 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าไม่ว่าจะ CBD ไหน ก็ไปได้ง่ายและสะดวกสุดๆ และในอนาคตบนทำเลนี้เอง จะมีโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเทา ระยะที่ 2  (พระโขนง-พระราม 3) เกิดขึ้นบนเส้นพระราม 4 ทำให้สามารถเชื่อมต่อสาทร - พระราม 3 ได้ง่ายมากขึ้น ปัจจุบันยังคงอยู่ในระหว่างศึกษาโครงการ สามารถดูอัพเดตข่าวสารและข้อมูลของรถไฟฟ้าสายสีเทาได้ที่นี่ รถไฟฟ้าสายสีเทา (thelist.group)

อีก 1 ปัจจัยที่มายกระดับ ทำเล "สุขุมวิท-พระราม 4" ให้น่าอยู่สำหรับคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น คือแหล่ง Lifestyle หลากหลายแห่งและรูปแบบทั้ง ห้างขนาดใหญ่ และ Community Space ต่างๆ เรียกได้ว่าสามารถเปลี่ยนที่ได้แบบไม่ซ้ำกันเลย ห้าง Shopping mall ขนาดใหญ่ สำหรับสายช้อป อาทิ

• The Em District (สามารถดูการอัพเดทข่าวสารและข้อมูลได้ที่นี่ THE EM DISTRICT!! )
• Terminal 21
• Gateway เอกมัย

Community Space สำหรับสายกิน หรือชอบนั่งทำงาน บรรยากาศชิวๆ อาทิ

• Summer Hill
• Naiipa Art Complex
• Powwowwow
• K-Village

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 2 จุด รองรับการทำกิจกรรมอื่นๆ อย่าง สวนเบญจกิติ และ สวนเบญจสิริ

ร้านอาหารบนทำเลนี้ มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ และเชื้อชาติ บรรยากาศแต่ละร้านก็น่านั่งสุดๆ อาทิ

• Vivarium Revive - ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น บนถ.พระราม 4 บรรยากาศในร้านจำลองเหมือนสวนในขวดแก้ว ให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งอยู่ในสวน เพดานสูงโปร่ง
• Auzzurro Fortysix - ร้านอาหารอิตาเลี่ยน ใน ซ.สุขุมวิท 46 บรรยากาศรอบๆ ร้านเป็นสวน น่านั่งมากๆ
• Zibbap Korean - ร้านอาหารเกาหลี ราคาไม่แรง ใน ซ.สุขุมวิท 71
• Eak Hideya Ramen - ร้านราเมงญี่ปุ่น ปากซอยสุขุมวิท 69 ภายในมีโซนเคาน์เตอร์บาร์ที่เหมาะกับการซู้ดเส้นไปพร้อมกับชมอิริยาบถเชฟในคราวเดียวกัน
• Kinjo Okinawa - ในซ.สุขุมวิท 69 ตรงข้ามแยกพระโขนง Mood & Tone ของร้านเป็นในแบบชนิดที่ว่ารู้สึกเหมือนนั่งอยู่ที่ Okinawa แบบแท้จริง
• Neua.Neur. BKK - ร้านอาหารเหนือฟิวชัน จากคนเหนือแท้ๆ พร้อมเนื้อพรีเมียมออสเตรเลียวากิวนำเข้า ผสมผสาน จากสูตรอาหารเหนือ

คาเฟ่สุดชิค บรรยากาศธรรมชาติ และมีร้านเปิดใหม่ขึ้นเรื่อยๆ หลายแห่งอย่าง

• Chingu Cafe -  ร้านกาแฟสุดเก๋ ตรงข้าม คอมมูฯ Naiipa พร้อมมุมเซลฟี่สุดชิค เรียกได้ว่ามากินกาแฟ แถมยังได้รูปสวยๆ
• NeverMind The German Bakery - คาเฟ่สไตล์เยอรมัน บรรยากาศลอฟท์ สบายๆพร้อมเอ็นจอยเมนูอาหารและของหวานต่างๆที่เป็นสูตรเฉพาะจากเชฟชาวเยอรมันตัวจริง
• Rawr Cafe - คาเฟ่ลับสุดชิว ให้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในป่า สงบ และร่มรื่นมาก เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน
• Paris Mei - คาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส ในซ.สุขุมวิท 42 ทางร้านเสิร์ฟเฉพาะชา และอาหารบรันช์สไตล์คอมฟอร์ตที่เน้นใช้วัตถุดิบคุณภาพ เรียบง่าย แต่ได้รสชาติไม่ธรรมดา
• Theera Healthy Bake Room - คาเฟ่สำหรับสายรักสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก แต่ยังชื่นชอบขนามหวาน เรียกได้ว่าร้านนี้ตอบโจทย์แน่นอน
• Single Lane - ร้านกาแฟย่อมๆ บนพระขโนงที่หยิบยกเอาบรรยากาศและรสชาติของกาแฟแบบ Australian Style มาไว้ที่นี่

ตลอดแนว ถ.พระราม 4 ไป จนถึง ซ.ทองหล่อ เต็มไปด้วยร้าน Hang Out สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน พบปะสังสรรค์ แต่ละร้านก็มีบรรยากาศที่แตกต่างกัน อาทิ

• Future Factory - คอมมูนิตี้ สเปซ สำหรับสาย Hamg Out บน ถ.พระราม 4 พร้อมกับบรรยากาศน่าดื่มด่ำ
• Black Cabin Bar - บาร์บรรยากาศลึกลับสไตล์กระท่อมล่าสัตว์ ใจกลางกรุง พร้อมดนตรีสดหลากหลายแนว ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน
• AINU Bar - ร้านกิมดิื่ม ใน ซ.ทองหล่อ ที่ไม่ได้มีแต่เครื่องดื่มชิคๆ คูลๆ แต่ยังมาพร้อมอาหารอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฮอกไกโด
• Bottoms Up - ร้านนั่งกินดื่มสุดหรู สุดชิลล์ ที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู ใจกลางทองหล่อ
• 63 Music House - ร้านน่านั่งสไตล์วินเทจ โซนเอกมัย ที่ทั้งดนตรีสด และแสง สี เสียง ทำให้ต่อมความสนุกในตัวคุณตื่นขึ้นมา
• Rabbit Hole - ร้านค็อกเทลบาร์ บรรยากาศลึกลับ น่าค้นหา โซนทองหล่อ ไม่ว่าคุณจะชอบค็อกเทลสไตล์ไหน รสชาติ ที่นี่สามารถจัดให้คุณได้แน่นอน

เชื่อว่า Young Gen หรือ คนรุ่นใหม่ หลายๆ ท่าน ต้องอยากมีคอนโดใกล้ๆ โซนสุขุมวิทตอนกลาง (ทองหล่อ-พระโขนง) แน่นอนว่าราคาเฉลี่ยคอนโดโซนนี้สูงถึง 210,000 บ./ตร.ม. ถ้าหากจะหาราคาที่เหมาะสมอาจจะต้องขยับไปถึงโซนบางนา ที่ราคาเฉลี่ย 115,000 บ./ตร.ม. ก็อาจจะพอไหว แต่ก็อาจจะยากสำหรับคนที่ทำงานในโซน CBD ที่อาจจะใช้เวลาในการเดินทางที่มากขึ้น แต่ถ้าหากมีงบเพียง 2.59 ลบ. หรือต่อตารางเมตร ไม่ถึงแสน แต่ยังคงอยากอยู่ใกล้ๆ โซนเอกมัย-ทองหล่อ ชั่วโมงนี้ต้องโครงการนี้เท่านั้น กับ ASPIRE สุขุมวิท-พระราม 4 ที่ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นเพียง 93,000 บ. ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยบนทำเลครึ่งต่อครึ่ง เรียกได้ว่าเป็นราคาที่คนรุ่นใหม่หลายๆ คนสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ เลยครับ

ชื่อโครงการ : แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4 ( Aspire Sukhumvit-Rama 4 ) เจ้าของโครงการ : เอพี ไทยแลนด์ และ มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ ที่ตั้งโครงการ : ถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. พื้นที่โครงการ : 4-3-55.8 ไร่ ประเภทโครงการ : คอนโด High Rise  1 อาคาร 38 ชั้น จำนวนที่จอดรถ : ที่จอดรถ 34% จำนวนยูนิต :  ห้องพักอาศัย 1,323 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต

รูปแบบห้อง 

• Simplex เริ่มชั้น 8 - 30
  • Studio 24-26.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 31-34 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 35 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 55 ตร.ม.
• Vertiplex เริ่มชั้น 31 - 37
  • รูปแบบ G 25 ตร.ม.
  • รูปแบบ H & I 30-33 ตร.ม.
  • รูปแบบ J 35 ตร.ม.
  • รูปแบบ K  52 ตร.ม.

Facilities ของโครงการนี้ ให้มากว่า กว่า 5,000 ตร.ม. อีกทั้งยัง 3 ชั้น รวมๆ กันแล้วกว่า 20 รายการ นอกจากนี้ยังมาในแนวคิด Work – Active – Retreat Ground Floor

• The Oasis - พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ให้ร่มเงา พร้อม Water Feature
• The Aspire Common - ล็อบบี้นั่งพักผ่อน oนั่งทำงานได้ วิวสวน ตามเทรนด์ Work From Anywhere
• The Co-op Society - ห้อง Co-working นั่งทำงาน สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มมาทานในห้องได้ มีอ่างล้างมือและถังขยะ Service จากนอกห้อง พร้อมบรรยากาศสวนชิวๆ
• The Workloft - ห้องทำงานแบบแยกย่อย เพื่อความ Private มากขึ้น
• The Chat Room - ห้องสำหรับคุยงานแบบลับๆ เพิ่มความ Private ไปอีกขั้น
• The Meeting Room ห้องประชุม สำหรับสาย WFH เปิดตลอด 24 ชม.

8 Floor

• Fitness เปิด24 ชั่วโมงด้วยนะ ใครกลับดึกๆ ก็ยังออกกำลังกายได้ แบ่งเป็น 3 จุด
  • The Workout - โซนฟิตเนสแบบ Cardio
  • The Gym - โซนฟิตแอนด์เฟิร์มแบบ Weight training
  • The Ride - โซนออกกำลังแบบปั่นจักรยาน
• The Aqua - สระว่ายน้ำยาว 25 ม. เทียบเท่า Half Olypic มีโซน Jacuzzi สระแช่ตัว ที่มาพร้อมกับระบบ Hydrotherapy ได้พักผ่อนร่างกายไปในตัว
• The Water Lounge - พื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ นั่งจิบเครื่องดื่มชิวๆ
• The Beachfront - พื้นที่ Daybed นอนพักผ่อนริมสระ
• The Island - เกาะกลางสระว่ายน้ำ พร้อมพื้นที่พักผ่อนกลางสระ
• The Club - พื้นที่ Co-working บรรยากาศริมสระ

38 Floor Rooftop Facilities

• The Deck - พื้นที่นั่งเล่นอเนกประสงค์
• The Cloud - พื้นที่สีเขียว พร้อมทางเดินเล่นระดับ
• The Peak - จุดชมวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า
• The Flyover ทางเดินสีแดงโดดเด่นยาว 140 ม. พร้อมจุดชมวิวเมืองและโค้งแม่น้ำ

รูปแบบห้องของทางโครงการ มีทั้งหมด 2 รูปแบบ คือแบบ Simplex และ Vertiplex แบ่งเป็น 36 Layout เรียกได้ว่า ใครสไตล์ไหน ชอบแบบไหน ก็สามารถเลือกได้ตามสไตล์เลย ซึ่งห้องทั้ง 2 แบบ ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน

• แบบ Simplex มีขนาดตั้งแต่ 24 - 55 ตร.ม. โดยห้องแต่ละแบบของ Simplex จะมีการจัด Layout และ Zoning ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างห้องที่น่าสนใจอย่าง 1 Bedroom Type C มีขนาด 31 ตร.ม. ที่จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ C1 กับ C2 ซึ่งทั้ง 2 แบบห้องมีการจัด Zoning ที่แตกต่างกัน
  • ห้อง C1 จะมี Bedroom อยู่ติดหน้าต่าง และ Living Area อยู่ตรงกลาง ครัวแบบเปิด อาจจะสำหรับคนที่ชอบเวลาตื่นขึ้นมาแล้วรับแสงยามเช้าได้เลย และชอบให้พื้นที่ Kitchen - Dining - Living เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่กว้าง
  • ห้อง C2 จะมีส่วน Living ที่อยู่ติดหน้าต่างเลย แถวมีมุมทำงานติดหน้าต่างให้อีกด้วย ตอบโจทย์คน WFH ถัดมาเป็นส่วน Bedroom และครัวแบบปิด ไม่รบกวนส่วนอื่นๆ ห้องนี้สำหรับคนที่เน้นทำงาน และทำกิจกรรมบน Living Area ที่ได้รับแสงตลอด แถมยังได้วิวขณะนั่งทำงานอีกด้วย

• แบบ Vertiplex มีขนาดตั้งแต่ 25 - 52 ตร.ม. ถือเป็นแบบห้อง New Design ของทาง AP เลยก็ว่าได้ เป็นแบบห้องที่ได้ความโปร่งโล่ง เพราะมีเพดานสูงถึง 4.4 ม. เลยทีเดียว สามารถแต่งเติมเป็นพื้นที่ชั้นลอยได้ บางคนอาจต้องการฟังก์ชันเพิ่ม ไปพร้อมกับได้วิวดีๆ ส่วนห้องแบบ Vertiplex ที่เราจะมาแนะนำคือ
  • ห้อง 1 Bedroom Type I1 ที่มีจุดเด่นคือสามารถแต่งเติมเป็นพื้นที่ชั้นลอยได้ เพราะสูงถึง 4.4 ม. แถมพื้นที่ใต้ชั้นลอย ยังสามารถเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่ติดหน้าต่าง สามารถเลือกได้เลยว่าจะให้โซนชั้นลอยเป็น Bedroom หรือ Working Area ก็ได้ แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน

และด้วยความเป็น New Design นี้เอง พื้นที่ด้านบนห้องน้ำ จะไม่ปล่อยให้สูญเปล่า เพราะเป็นพื้นที่เก็บของที่กว้างเท่าห้องน้ำเลยทีเดียว หรืออยากแหวกแนว ก็สามารถจัดเป็นมุมอ่านหนังสือ หรือรูปเซลฟี่แบบเก๋ๆ ก็ยังได้ แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน และด้วยความเป็น New Design นี้เอง พื้นที่ด้านบนห้องน้ำ จะไม่ปล่อยให้สูญเปล่า เพราะเป็นพื้นที่เก็บของที่กว้างเท่าห้องน้ำเลยทีเดียว หรืออยากแหวกแนว ก็สามารถจัดเป็นมุมอ่านหนังสือ หรือรูปเซลฟี่แบบเก๋ๆ ก็ยังได้ เรียกได้ว่า แบบห้องแต่ละแบบ มีความตอบโจทย์คนได้หลากหลายสไตล์ ซึ่งทางโครงการก็ได้เล็งเห็นจุดๆ นี้ของคนรุ่นใหม่ ในปัจจุบันที่มีสไตล์ที่แตกต่างกัน