เปิดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ
ภายหลังการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ ทุกภาคส่วนย่อมได้รับผลกระทบ เนื่องจากการขยายตัวและการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาค อีกทั้งผลกระทบของความร่วมมืออื่น ๆ เช่น กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง (GMS) ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาพื้นที่เขตการค้าและการลงทุนเพื่อเป็นประตูรองรับการเชื่อมโยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
เขตเศรษฐกิจพิเศษมีการกำหนดพื้นที่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ คือระยะแรก ประกอบด้วย ตาก สระแก้ว สงขลา ตราด และมุกดาหาร และระยะที่ 2 ประกอบด้วย กาญจนบุรี เชียงราย นครพนม หนองคายและนราธิวาส โดยรัฐบาลเร่งพัฒนาระยะที่ 1 ก่อนเนื่องจากเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีความได้เปรียบทางด้านกิจการการค้าชายแดน ซึ่งมีมูลค่าสูงอยู่แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือเขตพื้นที่ที่จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ต่อการส่งเสริม สนับสนุน และอำนวยความสะดวก รวมทั้งให้สิทธิพิเศษบางประการในการดำเนินกิจการต่าง ๆ เช่น การอุตสาหกรรม การพาณิชยกรรม การบริการ หรือกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ รูปแบบของเขตเศรษฐกิจพิเศษมีหลายประเภท เช่น เขตการค้าเสรี เขตอุตสาหกรรมเสรี เขตปลอดภาษี เขตการค้าชายแดนเสรี และเขตพัฒนาการส่งออก
Credit : http://www.taksez.com/
ซึ่งในปี 2558 คณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพน.) กำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็น 2 ระยะ เพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และแก้ปัญหาความมั่นคง โดยใช้กลยุทธ์สำคัญ 4 ประการ
1. สนับสนุนพื้นที่เศรษฐกิจใหม่
2. สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน
3. สนับสนุน SMEs และการลงทุนต่อเนื่อง
4. จัดระเบียบพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน
เขตเศรษฐกิจพิเศษมีการกำหนดพื้นที่ที่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ประกอบด้วย ตาก สระแก้ว สงขลา ตราด และมุกดาหาร และระยะที่ 2 ประกอบด้วย กาญจนบุรี เชียงราย นครพนม หนองคายและนราธิวาส โดยในระยะที่ 1 ก่อนเนื่องจากเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีความได้เปรียบทางด้านกิจการการค้าชายแดน ซึ่งมีมูลค่าสูงอยู่แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตาม คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนของประเทศ ตามนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียนและข้อตกลงการค้าเสรี
ปัจจุบันคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษได้กำหนดกิจการเป้าหมายในเขตพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 5 พื้นที่แรกแล้ว โดยในแต่ละพื้นที่จะมีกิจการเป้าหมายแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับศักยภาพ ข้อจำกัด และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยจัดกลุ่มได้เป็น 12 กลุ่มอุตสาหกรรม 62 ประเภทกิจการ
สำหรับการที่กลุ่มผู้ประกอบการจะตัดสินใจเลือกลงทุนในกลุ่มกิจการที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ นอกจากผู้ประกอบการจะพิจารณาศักยภาพและความสามารถของตนและความชำนาญแล้ว ด้านล่างเป็นกราฟอัตตราการขยายตัวมูลค่าการส่งออกชายแดนในแต่ละเขต เพื่อพิจรณาในการตัดสินใจประกอบการจัดตั้งกิจการในแต่ละเขต
Info : Kasikorn Bank (2559)