เซ็นทรัล โรบินสัน ยกทัพลุยอาเซียน !
เซ็นทรัลพลาซ่า ไอ-ซิตี้ มาเลเซีย
Image : Central I-City Malaysia
Image : City Mall ที่ตั้ง Central Malaysia
- มูลค่าโครงการ : 5,800 ลบ. (CPN ถือหุ้น 60% *ICP ถือหุ้น 40%)
*ICP เป็นบริษัทในเครือของ I-Berhad ยักษ์ใหญ่ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมาเลเซีย
- ขนาดที่ดิน : 27.5 ไร่ (Freehold)
- GFA : 278,000 ตร.ม.
- NLA : 89,700 ตร.ม.
- เริ่มก่อสร้าง 2014 เปิดบริการ 2016Image : CPN
Info : Than Online (5-7 Sep 2013), Prachachat Online (10-12 Feb 2014)
เซ็นทรัล ทุ่ม 5.8 พันล้านปักธง “เซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้” รีจินอล มอลล์แห่งแรกในมาเลเซีย เล็งปูทางขนทัพสินค้าไทยรุกอาเซียน มั่นใจพร้อมเปิด 2559 ก่อนเดินหน้ารุกอินโดฯ เวียดนามต่อทันที ชี้ศักยภาพสูง ประชากรเยอะนางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานพัฒนาธุรกิจและบริหารโครงการก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจด้วยการเข้าไปลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตของเมือง มีจำนวนประชากรสูง รวมไปถึงมีการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ในระดับกลาง-สูง ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีอำนาจต่อรอง ซึ่งประเทศที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยบริษัทมุ่งเน้นการทำตลาดเชิงรุก พร้อมวางแผนที่จะเปิดศูนย์การค้าในตลาดอาเซียนให้ได้ 2-3 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ โดยจะใช้เงินลงทุน 4-5 พันล้านบาทต่อแห่ง
ล่าสุดบริษัทยังยืนยันว่า แผนการลงทุนในมาเลเซีย ยังเป็นไปตามแผนเดิมที่วางไว้ คือบริษัทจะร่วมมือกับ ICP ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ I-Berhad ยักษ์ใหญ่ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมาเลเซีย พัฒนาศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “เซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้” ศูนย์การค้าในรูปแบบรีจินัล มอลล์ แห่งแรกของมาเลเซีย มูลค่าโครงการราว 5.8 พันล้านบาท หรือ 580 ล้านริงกิต โดยเป็นการจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นในมาเลเซีย โดย ICP ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ CPN 60% “มาเลเซีย เป็นประเทศที่มีศักยภาพ มีเศรษฐกิจที่เติบโต แข็งแกร่ง มีการลงทุนอย่างคึกคักโดยเฉพาะในภาคค้าปลีก ประชากรมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มาเลเซียจึงเป็นประเทศที่มีอำนาจการซื้อสูงกว่าประเทศไทยและมีรายได้ของประชากรเฉลี่ยสูงกว่าประเทศไทยถึง 2 เท่า และมีผู้บริโภคกลุ่ม (Middle to High Income) เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกที่สำคัญ” นางสาววัลยา กล่าวและว่าซีพีเอ็น ได้พันธมิตรที่ดี เป็นยักษ์ใหญ่ที่มีความพร้อมรอบด้าน เข้าใจตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค กฎหมายท้องถิ่น และส่งเสริมให้เรานำความเชี่ยวชาญของซีพีเอ็นมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคมาเลเซียได้อย่างลงตัว
สำหรับเซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้ ตั้งอยู่ในโครงการ i-City ซึ่งเป็นไซเบอร์ เซ็นเตอร์ หรือเมืองเทคโนโลยีแห่งใหม่ของมาเลเซีย โดยเซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้ จะเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์ทันสมัยทั้งการช็อปปิ้ง บันเทิง และเป็นศูนย์กลางการพบปะของชุมชนในเขตตะวันตกของรัฐสลังงอร์ ตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ขนาดกว่า 28 ไร่ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด (GFA) ประมาณ 2.78 แสนตารางเมตร และมีพื้นที่ขาย (NLA) ประมาณ 8.97 หมื่นตารางเมตรโดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2557 และจะเปิดให้บริการในปี 2559
นางสาววัลยา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยจำนวนมากเข้าไปขยายการลงทุนในมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจัสปาล, เอ็มเค เรสโตรองต์, บาร์บีคิว พลาซา ฯลฯ การเข้าไปลงทุนศูนย์การค้าในมาเลเซียครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกช่องทางในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่สนใจขยายการลงทุนในต่างประเทศ เพราะจะมีความได้เปรียบในด้านโลจิสติกส์ และการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale)
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันในเมืองสลังงอร์ ถือเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่กำลังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีนักธุรกิจสนใจเข้าไปลงทุนจำนวนมาก ขณะที่ในภาคธุรกิจค้าปลีก ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปลงทุนมากนัก โดยกลุ่มเซ็นทรัลถือเป็นผู้ประกอบการต่างชาติรายแรกๆ ที่ชิงเข้าไปลงทุน
โรบินส์ เวียดนาม
โดยเริ่มจากสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นของกลุ่มเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง เป็นการนำร่องทดลองตลาดในรูปแบบร้านขนาดย่อมในเวียดนาม เพื่อศึกษาและทดลองตลาด ก่อนที่จะเปิดเป็นรูปแบบห้างสรรพสินค้า
หลังจากนั้นได้เปิดร้านซูเปอร์สปอร์ตในกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลรีเทลเข้าไปเสริม ด้วยงบฯลงทุน 100 ล้านบาท นำร่องเปิดซูเปอร์สปอร์ตสาขา 4 แห่ง และตั้งเป้าขยายร้านซูเปอร์สปอร์ตเพิ่มอย่างน้อยปีละ 8 แห่งในรูปแบบเดียวกับเมืองไทย เน้นเข้าไปเปิดในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ โดยจะเปิดตลาดทั้งโฮจิมินห์และฮานอย ที่เป็นเมืองขนาดใหญ่ของเวียดนาม มีกำลังซื้อสูงเหมือนไทย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนธุรกิจในเวียดนามยังมีความซับซ้อนและมีปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาแพง แต่ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสในการขายสูง จากจำนวนประชากร การเติบโตของเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และพฤติกรรมการบริโภคไม่แตกต่างจากเมืองไทย
เฉกเช่นเดียวกับตลาดในอินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่กลุ่มเซ็นทรัลได้ประกาศแผนการลงทุนและจับจองพื้นที่ไปแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยการส่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเข้าไปเปิดในศูนย์การค้าแกรนด์ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ระดับไฮเอนด์ บนพื้นที่ประมาณ 21,000 ตร.ม. และจะเป็นสาขาแรกของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในการเปิดตลาดอาเซียน
ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจะเข้าไปลงทุนพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาครั้งแรกในอาเซียนที่ประเทศมาเลเซียภายใต้ชื่อ “เซ็นทรัลพลาซา ไอ-ซิตี้” ซึ่งจะเป็นศูนย์การค้ารูปแบบรีจินัลมอลล์ 2.78 แสน ตร.ม. ที่พัฒนาร่วมกับกลุ่ม I-Berhad ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของมาเลเซียที่ถือหุ้น 60% และเซ็นทรัลพัฒนา 40% เริ่มก่อสร้างปี 2557 และเปิดให้บริการได้ในปี 2559
การสยายปีกโกอินเตอร์ของกลุ่มเซ็นทรัล จึงไม่เพียงออกไปสร้างชื่อด้วยการซื้อกิจการในต่างประเทศ อย่างห้างหรู ลา รีนาเซนเต้ อิตาลี หรืออิลลุม เดนมาร์ก แต่หลังจากนี้จะเป็นการผลักดันและปั้นแบรนด์ที่มีอยู่ในมือให้ออกไปเติบโตในตลาดอาเซียน กลายเป็น “บิ๊กมูฟ” ที่จะเห็นการเคลื่อนทัพครั้งสำคัญนับจากนี้ไป
เซ็นทรัลดีพาร์ตเม้นท์สโตร์ อินโดนีเซีย
(สาขาแรกที่ไปเปิดในอาเซียน)
Image : Grand Indonesia Shopping Town ที่ตั้ง Central
Image : Grand Indonesia Shopping Town ที่ตั้ง Central
Image : Central department store Indonesia
Image : Central department store Indonesia
Image : Central department store Indonesia
Image : Central department store Indonesia
- มูลค่าโครงการ : 600 ลบ.
- พื้นที่ฝั่งตะวันออกของศูนย์การค้า "แกรนด์ อินโดนีเซีย" ซึ่งเป็นช๊อปปิ้งคอมเพล็กซ์ระดับไฮเอนด์ พื้นที่ 4 ชั้น ประมาณ 21,000 ตร.ม.
- เปิดบริการ : 2014
Info : Than Online (5-7 Sep 2013), Prachachat Online (10-12 Feb 2014)