แผนประมูลโครงการคมนาคม
ลุ้นประมูลจบปีนี้!
แผนประมูลโครงการคมนาคม 20 โครงการนี้เป็นเมกะโปรเจคที่รัฐบาลเร่งรัดให้มีการลงทุน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตอนนี้พยามยามผลักดันแต่ละโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณา เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง ประมูลเวนคืนต่อไป และจะได้เริ่มก่อสร้างภายในปี 2559-2560 ซึ่งขั้นตอนหลักๆในปีนี้คือ เร่งประมูลทุกโครงการให้จบภายในปีนี้ (2559) โดยมีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1.79 ล้านล้านบาท หวังช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 3-4
โดยเริ่มต้นมีการเสนอแนวทางหาเงินก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยของบกลาง 4-5 พันล้านมาดำเนินการก่อน จากเดิมที่จะขอเงินกู้จากกระทรวงการคลัง
และในเวลาอันใกล้จะเริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น, มอเตอร์เวย์พัทยา - มาบตาพุด และพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง A ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากผ่านขั้นตอนการประมูลแล้ว
ในปี 2559 นี้ มีโครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งเปิดประมูลรวม 20 โครงการ เพื่อให้ประเทศมีการขนส่งเชื่อมโยงสะดวกไปทั่วภูมิภาค และเปิดเส้นทางเชื่อมระหว่างประเทศเพื่อการค้า โดยมีเงินลงทุนกว่า 1.79 ล้านล้านบาท ประกอบไปด้วย การคมนาคมทางราง 14 โครงการ, ทางถนน 3 โครงการ, ทางน้ำ 2 โครงการ และทางอากาศ 1 โครงการ โดยทั้ง 20 โครงการยังคงดำเนินไปตามแผนงาน แต่อาจจะมีโครงการล่าช้าไปบ้าง
โดยรถไฟฟ้าเป็นการพัฒนาก่อสร้างเพื่อแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงกระจายความเจริญของเมืองไปตามแนวรถไฟฟ้า ส่วนเส้นทางรถไฟอื่นๆ รวมถึงเส้นทางมอเตอร์เวย์ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ จะเป็นการขนส่งและเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศให้เดินทางได้ง่าย สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ตอนนี้กรมทางหลวงเสนอแนวทางหาเงินก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราชและบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน 65 สัญญา เงินประมูลเริ่มต้น 4-5 พันล้านบาท โดยจะขออนุมัติจากรัฐบาลให้ใช้งบกลางมาดำเนินการก่อนเพื่อให้โครงการส่วนเซ็นสัญญานั้นเร็วขึ้น และสามารถจบลงได้ภายในปีนี้ อีกทั้งกระทรวงการคลังยังไม่ได้หาเงินกู้ให้ หากรอเงินกู้จะใช้เวลานาน
และในเวลาอันใกล้จะเริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น, มอเตอร์เวย์พัทยา - มาบตาพุด และพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง A ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากผ่านการประมูลแล้ว
นอกจากนั้นโครงการอื่นที่ต้องการให้ประมูลจบภายในปีนี้ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา EIA และรอมติเห็นชอบจากคณะ เพื่อดำเนินการเปิดประมูล โดยจะต้องมีการติดตามทุกเดือน เพื่อให้งานดำเนินไปตามแผน และคาดหวังว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของปีนี้ในครึ่งปีหลังให้ดีขึ้น
ข่าวอัพเดทล่าสุด
รฟฟ.สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) อาจจะปรับลดค่าก่อสร้างลงได้อีก ต้องรอการอนุมัติจากครม.
รฟฟ.สายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ยังมีปัญหาEIAที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางต่อขยายจากราษฎร์บูรณะ-ถ.กาญจนาภิเษก 5 กม. ต้องเสนอให้คณะกรรมการจัดจราจรทางบก และรอการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการกรุงรัตนโกสินทร์ บริเวณสถานีสามยอดและผ่านฟ้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์
รฟฟ.สายสีชมพู และรฟฟ.สายเหลือง ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจแล้ว คาดว่าจะประมวลเรื่องเสนอคณะกรรมการนโยบาย PPP และ ครม.เห็นชอบเดือน ก.พ. และเม.ย.นี้จะเริ่มคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน
โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ยังคงมีประเด็นการลดขนาดโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคายที่ยังต้องหารือกัน จากเดิมที่จะก่อสร้างเป็นรถไฟทางคู่ความเร็วปานกลาง ในรูปแบบรถไฟฟ้าที่ใช้ความเร็วตั้งแต่ 160-180 กม./ชม. แบ่งการก่อสร้างเป็น 4 ช่วง งบ 5 แสนล้านบาท
เหลือเป็นรถไฟทางเดี่ยว นั่นก็หมายความว่าขบวนรถไฟในช่วงนี้ไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ ต้องรอสับหลีกเพื่อให้รถไฟอีกขบวนวิ่งผ่านไปก่อน ซึ่งจะเหมือนกับการให้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในปัจจุบัน ที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงจากกรุงเทพฯถึงจุดหมายปลายทาง เพราะเป็นรถไฟทางเดี่ยว ซึ่งทำให้ต้องเลื่อนระยะเวลาก่อสร้างออกไป แต่ลดต้นทุนได้ 1.6 แสนล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายซึโตะมุ ชิมุระ รองอธิบดี กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น ได้เป็นประธานร่วมปล่อยขบวนรถสินค้า ทดลองขนส่งคอนเทนเนอร์ขนาดเล็กขนาด 12 ฟุต ออกจากสถานีชุมทางหนองปลาดุกสู่สถานีบางซื่อ เป็นการนำร่องเส้นทางแนวเศรษฐกิจด้านใต้ (รถไฟกาญจนบุรี-กรุงเทพ, กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศ, กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง) อีกทั้งเป็นการ แสดงสัญลักษณ์ภายใต้ความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่นด้านระบบราง
สายพัทยา-มาบตาพุด - ตอนนี้มีการลงนามในสัญญา 5 สัญญา จากทั้งหมดที่มี 13 สัญญา ส่วนอีก 8 สัญญาอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาหาผู้รับจ้างและเจรจาต่อรองราคา โดยทุกสัญญาจะลงนามได้ประมาณปลายเดือน ก.พ.-ต้นเดือน มี.ค.นี้ ใช้เวลาก่อสร้างได้ในก.พ. 2559
สายบางปะอิน-โคราช - อยู่ระหว่างประกวดราคาในบางช่วงเพื่อเริ่มก่อสร้างก่อน เพราะบางช่วงจะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม
สายบางใหญ่-กาญจนบุรี - อยู่ระหว่างทบทวนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เนื่องจากผลการศึกษาเดิมดำเนินการมาประมาณ 10 ปีที่แล้ว จะต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น คาดว่าจะประกวดราคาได้ในกลางปีนี้
โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) - ตั้งอยู่บริเวณแอ่งจอดเรือที่ 1 อยู่ระหว่างท่าเทียบเรือ A1 และ A0 รองรับเรือชายฝั่งขนาดระวางบรรทุก 1,000-3,000 เดทเวทตัน ยกขนตู้สินค้าคราวละ 100-200 เดทเวทตัน รวมทั้งติดตั้งปั้นจั่นหน้าท่าและปั้นจั่นจัดเรียงตู้สินค้า เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้สูงถึง 3 แสน TEUs ต่อปี
ศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ - โครงการมี 2 ระยะ ตอนนี้อยู่ในระยะที่ 1 ตั้งอยู่ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และ C มีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ จะทำการก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ โดยติดตั้งปั้นจั่นยกตู้สินค้าคร่อมรางรถไฟ จำนวน 6 ราง เพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนขบวนรถไฟในระหว่างการขนถ่ายสินค้า อีกทั้งใช้รถคานเคลื่อนที่ยกตู้สินค้า เพื่อจัดเรียงตู้สินค้าในลานกองเก็บตู้สินค้า ซึ่งจะรองรับปริมาณตู้สินค้าได้จำนวน 2 ล้าน TEUs ต่อปี มีผลทำให้การขนส่งตู้สินค้าจากทางบกมาทางรางเพิ่มขึ้นจากเดิม 7% เป็น 15%
ในส่วนของโครงการที่ล่าช้าตอนนี้ คือ โครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 เงินลงทุน 51,607 ล้านบาท แบ่งประมูล 7 สัญญา จะเริ่มมี.ค. 59 จากเดิมคือ พ.ย.-ธ.ค. ปี58 เพราะต้องส่งเอกสารประกวดราคาให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) อนุมัติก่อน
หากก่อสร้างทุกส่วนในเฟส 2 แล้วเสร็จในปี 2560-2563 จะทำให้รองรับผู้โดยเพิ่มอีก 15 ล้านคน คาดรองในอนาคตสามารถรับผู้โดยสารสูงถึง 85 ล้านคน
ที่มาข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ และมติชน
คลิกรูปภาพเพื่ออ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
ความคืบหน้ารถไฟฟ้า
รถไฟทางคู่
รถไฟไทย-จีน-ญี่ปุ่น
แผนประมูลโครงการคมนาคม