201 AVENUE เอกมัย - พระราม 9 โครงการ Home Office เกรด A ระดับ Super Luxury ทำเล New CBD เชื่อมต่อสุขุมวิท - รามคำแหง - เกษตรนวมินทร์ บริเวณโดยรอบล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวก ใกล้รฟฟ. 3 สาย

อีกทั้งโครงการมีดีไซน์โดดเด่นทั้งเรื่องความสวยงามและการใช้งาน ออกแบบเป็น Open floor plan ความสูง 2.8 ม. พร้อมเสริมพื้นที่สีเขียวทั่วอาคาร เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยการใช้ Lift ที่ติดตั้งระบบ Touchless และ Destination control ยังออกแบบอาคารเป็นอาคารเพื่อประหยัดพลังงานด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามต่อได้เลย

• Project Name : 201 AVENUE
• Developer : Asai Development Co.,Ltd
• Project Type : Semi - detached house
• Project Area : 1-0-77 Rai
• Area / Unit : 45.00 – 52.00 Sq.wa
• Total Unit : 8 Units
• Property Type : Super luxury Home Office

• Unit Type
• TYPE I : Relevant Elegance 601 - 603 Sq.m
• TYPE II : Timeless Vision 601 - 611 Sq.m
• TYPE III : Urban Retreat 578 Sq.m

• Security Systems
• - Remotely mobile access main entrance
• - Smartphone CCTV
• - 24/7 Securities
• Feature Brands
• Mitsubishi, KOHLER, Kasch, Daikin, Kocom, Matelier, BLANCO, Miele, KAWAJUN

• ห้าง - รพ.
• สนง. - สถานศึกษา

201 AVENUE ตั้งอยู่ในซ. จำเนียรเสริมเชื่อมกับถ. ประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งเป็นทำเล New CBD ใจกลางเอกมัย - พระราม 9 เชื่อมต่อสุขุมวิท, รามคำแหงและเกษตรนวมินทร์ ใกล้โซนรัชดาภิเษกและทองหล่อ ซึ่งล้วนแต่เป็นโซนที่ความเจริญขยายตัวออกมา ทำให้บริเวณโดยรอบโครงการล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทั้งแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล พระราม 9, The street, Esplanade และ Golden place ใกล้โรงพยาบาลทั้งรพ.ปิยะเวท, รพ.พระราม 9, รพ.กรุงเทพ, รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช, รพ.เพชรเวช และ รพ.แพทย์ปัญญา ใกล้สำนักงานหลายแห่ง เช่น G tower, Unilever house, SET, CW tower และ Singha complex เป็นต้น ใกล้สถานศึกษา เช่น Singapore international school, KIS international school, Regent's international school, Ekkamai international school, St. Andrews international school และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นต้น

ที่ตั้งโครงการเป็น New CBD ที่มีโครงการพัฒนาเพื่อรองรับความเจริญในทำเลนี้นั่นคือ โครงการรฟฟ. 3 สายในอนาคต สายสีเหลือง เปิดปี 2565 เดินทางไปยังบางกะปิและบางนา หรือจะนั่งต่อสายสีเขียวอ่อนเพื่อเข้าเมืองก็ได้เช่นกัน มากกว่านั้นสายสีเหลืองนี้เชื่อมต่อกับ Airport rail link ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อีกด้วย สายสีส้ม เปิดปี 2567 สามารถเดินทางไปรัชดาภิเษก หรือนั่งเปลี่ยนสายต่อไปยังสายสีน้ำเงินเพื่อเดินทางไป CBD อย่างสาทร - สีลม สายสีเทาที่อยู่ในช่วงศึกษาโครงการ สามารถนั่งมาถึงทองหล่อและนั่งต่อไปถึงสุขุมวิทหรือสยามได้ สายนี้เชื่อมต่อกับ Airport rail link ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเช่นกัน เมื่อโครงการรฟฟ.ในอนาคตทั้ง 3 สายนี้เปิดให้บริการ จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางของโครงข่ายของรฟฟ. เกิดศักยภาพการเดินทางอย่างสมบูรณ์ในทำเลนี้นั่นเอง

201 AVENUE เป็น Home Office ที่มีรูปแบบให้เลือกถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ I. Relevent Elegance ที่ดินขนาด 47 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 601 - 603 ตร.ม. II. Timeless Vision ที่ดินขนาด 45 - 52 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 601 - 611 ตร.ม. III. Urban Retreat ที่ดินขนาด 48 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 578 ตร.ม.

201 AVENUE เป็น Home Office สูง 6 ชั้น ซึ่งชั้น 1 - 3 จะเป็นพื้นที่สำหรับสำนักงาน, ชั้น 4 - 6 เป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัย

• ชั้น 1 - พื้นที่ต้อนรับ รองรับลูกค้า
• ชั้น 2 - พื้นที่สำนักงาน
• ชั้น 3 - ห้องประชุมและห้องทำงานส่วนตัว
• ชั้น 4 - พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร
• ชั้น 5 - พื้นที่สำหรับการนอนหลับพักผ่อน
• ชั้น 6 - พื้นที่โล่ง กลางแจ้ง

นอกจากนั้นในแต่ละชั้นจะมีระเบียงและพื้นที่สีเขียวเสริมในบริเวณชั้น 1, 3 และ 5 เพื่อเพิ่มบรรยากาศความผ่อนคลาย ร่มรื่น

• Office
• Residence

การออกแบบการใช้งานในแต่ละโซนมีความน่าสนใจ ได้แก่ - พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้สูงสุดถึง 6 คัน - Lift เป็นระบบ Touchless และ Destination control ทำให้ลิฟท์เข้าถึงชั้นที่อนุญาตเท่านั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวของพื้นที่พักอาศัย - สวนหลังบ้าน กว้าง 3 ม. ทำเป็นมุมพักผ่อนหรือจะต่อเติมเพื่อใช้งานอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน - Open plan layout ไม่มีเสาคั่นกลาง จึงสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การทำงานได้ตามต้องการ ความสูง Floor to Ceiling 2.8 - 3.2 ม. ทำให้ดูโปร่ง - ชายคา และ Facade ช่วยบังแดด กันความร้อน ให้ร่มเงา - Balcony ออกแบบเป็นลักษณะตัว L เป็นพื้นที่เพื่อการผ่อนคลายหรือคุยโทรศัพท์ - Pocket garden พื้นที่สีเขียว ช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่น - พื้นที่พักอาศัย มีความเป็นส่วนตัว พื้นที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน ใช้งานได้ง่าย สะดวก - Rooftop space เป็นพื้นที่โล่งจึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ตามต้องการ

• 1st Floor
• 2nd Floor
• 3rd Floor

พื้นที่สำนักงานทั้งชั้น 1 - 3 มีการใชังานที่แตกต่างกันไป คือ ชั้น 1 - Reception area เป็นพื้นที่ต้อนรับ รองรับแขก ไม่ว่าจะมีที่จอดรถถึง 6 คัน พื้นที่นั่งพัก รวมทั้งมี Pantry เพื่อจัดเสิร์ฟน้ำและขนมทานเล่นเพื่อรองรับแขก เมื่อมองออกไปข้างนอกจากพื้นที่รองรับแขกจะเห็นสวนหลังบ้าน ทำให้เกิดบรรยากาศที่สดชื่น ร่มรื่น Lift สามารถขึ้นไปได้ยังชั้น 5 แต่ด้วยการติดตั้งระบบ Destination control ทำให้เลือกเข้าถึงพื้นที่สำนักงานหรือพื้นที่พักอาศัยได้ ชั้น 2 - Office space ในชั้นนี้เป็นชั้นของสำนักงาน สามารถจัดพื้นที่การทำงานได้ตามความต้องการ รวมทั้งมีพื้นที่รองรับการทำงานอย่างพื้นที่นั่งพัก Pantry มุมเครื่องดื่มและขนมทานเล่นสำหรับพนักงาน หากต้องการพื้นที่พักผ่อนหรือคุยโทรศัพท์ก็สามารถเดินไปบริเวณระเบียง เมื่อมองออกไปก็เจอสวนสีเขียวบริเวณชั้น 1 ชั้น 3 - Executive office บริเวณชั้นนี้จะมีพื้นที่นั่งพักบริเวณหน้าห้องประชุมและห้องทำงานส่วนตัวของหัวหน้า ห้องประชุมเป็นพื้นที่รวบรวมไอเดีย พรีเซ้นต์งานให้ลูกค้า ซึ่งในชั้นนี้ออกแบบให้มีระเบียงตัว L รอบอาคาร เพื่อการพักผ่อน เพราะมีพื้นที่สีเขียวเพื่อลดบรรยากาศตึงเครียด เพิ่มบรรยากาศสดชื่น

• 4th Floor
• 5th Floor
• 6th Floor

บริเวณส่วนพักอาศัยจะอยู่ชั้น 4 - 6 ซึ่งให้ความสำคัญและคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของ Lift ติดตั้งระบบ Destination control เจ้าของสามารถติดตั้ง Lift ว่าใครสามารถเข้าถึงส่วนที่พักอาศัยได้ เป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวในบริเวณส่วนที่อยู่อาศัยนั่นเอง ชั้น 4 - Private living space มีประตูกั้นระหว่างบริเวณลิฟท์ก่อนเข้าพื้นที่พักอาศัย เป็นการแบ่งแยกโซนพื้นที่ส่วนตัวอย่างชัดเจน เพิ่มมั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การใช้งานในชั้นนี้ คือ พื้นที่ครัวขนาดใหญ่สามารถทำอาหารได้ด้วยชุดเครื่องครัวสุด Premium จาก Miele พื้นที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่น ทำให้สามารถรัปประทานอาหารพร้อมกับดูทีวีได้เลย ส่วนพื้นที่นั่งเล่นก็สามารถผ่อนคลายความเครียดและกังวลจากการทำงาน พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ มีพื้นที่ระบียงสามารถรับลม ชมวิวได้

ชั้น 5 - Private bedroom Master bedroom ขนาดใหญ่และกว้าง บริเวณปลายเตียงสามารถมีพื้นที่นั่งเล่น มีระเบียงชมวิวยามค่ำคืน Master bathroom ใช้สุขภัณฑ์อัจฉริยะตัว Top ของ KOHLER ภายในห้องน้ำได้แบ่งส่วนพื้นที่เปียก - แห้ง ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก บริเวณอ่างอาบน้ำเมื่อมองไปข้างนอกจะพบกับ Pocket garden ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศในขณะแช่น้ำได้ โดยมีการออกแบบให้เพดานของพื้นที่สวนนี้ทำจากกระจกใส ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้ ถัดออกมามี Walk - in closet เก็บเสื้อผ้าเป็นสัดส่วน แยกเป็น His & Her walk in - closet

ชั้น 6 - Private rooftop พื้นที่ดาดฟ้าเป็นพื้นที่โล่ง กลางแจ้ง จึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ ไม่ว่าจะปรับเป็นมุมสวน มุมพักผ่อนหรือสังสรรค์ก็ได้เช่นกัน โดยมีพื้นที่สำหรับซักล้าง สามารถปรับเป็นห้องเก็บของ อุปกรณ์ได้อีกด้วย

201 AVENUE ได้นำแนวคิดอาคารประหยัดพลังงานตามมาตรฐาน LEED มาประยุกต์ใช้ ด้วยการออกแบบการใช้งานเพื่อความยั่งยืน ยกระดับการอยู่อาศัย ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติสูงสุด ซึ่งจะทำให้ตัวอาคารมีบรรยากาศที่น่าอยู่และช่วยประหยัดค่าไฟ ค่าน้ำได้ในระยะยาว แบ่งออกได้เป็น 4 ประเด็น 1. การลดความร้อน ตำแหน่งการวางอาคารจะรับแสงทางทิศเหนือ มีชายคาและ Facade ที่ออกแบบเพื่อบังแดด ใช้กระจก Low - E ที่มีการเคลือบผิวกระจกทำให้แสงสามารถผ่านเข้าสู่อาคารได้ และกันความร้อนที่เข้ามาภายในอาคารได้ถึง 95% กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบริเวณเพดานเพื่อกันความร้อน การลุกลามของไฟ ไม่ซึมน้ำอีกด้วย 2. การระบายอากาศ ทุกชั้นมีช่องรับลม สามารถระบายอากาศได้ มีหน้าต่างที่ด้านทิศเหนือ - ทิศใต้สามารถรับลม ระบายอากาศได้ตลอดทั้งปี 3. สวนสีเขียว ให้ความสำคัญเรื่องพื้นที่สีเขียวที่นอกจากจะช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นในพื้นที่ทำงานและอยู่อาศัยแล้ว ยังช่วยลดอุณหภูมิบริเวณโดยรอบทำให้มีอากาศเย็นสดชื่น 4. การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน ช่วยประหยัดพลังงาน เช่น เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter ที่สามารถประหยัดค่าไฟได้ 30%  เลือกสุขภัณฑ์ - ก๊อกน้ำเป็นระบบ Sensor และ Touchless ทำให้ประหยัดน้ำ เป็นต้น

เลือกใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้วยการเลือก Lift ที่ติดตั้งระบบ Touchless และ Destination control ทำให้ลิฟท์เข้าถึงชั้นที่อนุญาต ป้องกันพื้นที่ส่วนตัวบริเวณชั้น 4 และชั้น 5 มีการติดตั้งระบบ Video door phone บริเวณชั้น 1 และชั้น 4 ทำให้มีความเป็นส่วนตัว รวมทั้งมี Remote control จึงสามารถเข้า - ออกได้สะดวก การเข้าออกอาคารมีความปลอดภัยถึง 4 ระดับ คือ ก่อนเข้าหรือออกจากโครงการจะต้องผ่าน 4 ประตูทั้งประตูรั้วโครงการ, ประตูรั้วอาคาร, ประตูทางเข้าอาคาร และ ประตูส่วนพักอาศัย มี รปภ. พร้อมกล้อง CCTV ตลอด 24 ชม. ทำให้มั่นใจเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการได้เลย

ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานและความสวยงาม รวมทั้งเรื่องทำเลใจกลางเอกมัย - พระราม 9 ทำให้ 201 AVENUE เป็น Home Office ที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้หลากหลาย เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก มีพื้นที่สำนักงานและส่วนพักอาศัยแยกเป็นสัดส่วน การออกแบบเป็น Open plan layout ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ มีความสูง Floor to Ceiling 2.8 ม. ทำให้อาคารดูโปร่ง สวยงาม 201 Avenue เป็น Home Office ที่นอกจากใช้งานได้ง่าย พื้นที่เป็นสัดส่วน ด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงามและทำเลที่ตั้งที่สะดวกสบาย ทำให้ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ ยกตัวอย่างธุรกิจ เช่น คลินิคเสริมความงาม ที่เน้นภาพลักษณ์ ความสวยงาม ลูกค้าสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก หรือ ธุรกิจ Start - up และบริษัท Design - Production ที่พื้นที่ทำงานสามารถปรับเปลี่ยนไปตามการทำงานต่างๆได้นั่นเอง