ในปัจุบันโฮมออฟฟิศถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการทำธุรกิจ เพราะสามารถตอบโจทย์คนทำธุรกิจหลายประเภทได้ดี กว่าการเช่าออฟฟิศในเมือง รวมถึงถ้ามองในระยะยาวการซื้อหรือผ่อนโฮมออฟฟิศสักหลังแล้วได้กรรมสิทธิ์ สามารถขายหรือโอนต่อให้ลูกหลานได้ก็เป็นการลงทุนอีกทางหนึ่ง
ซึ่งในบทความนี้ จะพาไปดูโฮมออฟฟิศในทำเลศักยภาพอย่างโครงการ BAAN PANNA เอกมัย - รามอินทรา ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของที่ตั้งซึ่งติดกับเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ ส่วนฟังก์ชั่นยังสามารถตอบโจทย์คนทำธุรกิจได้ดี สามารถจอดรถสูงสุดได้ถึง 11 คัน ส่วนรายละเอียดเชิงลึกอื่น ๆ ไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
ทำไม ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม จึงเป็น ย่าน Luxury ?
1. INFRASTRUCTURE ที่สะดวกสบาย
รถไฟฟ้าผ่ าน 4 สาย
บนเส้น ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงวัชรพล - ทองหล่อ วิ่งตามแนวถนนตลอดทั้งเส้น ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่สถานี BTS ทองหล่อ ทำให้สามารถเดินทางไปโซนสุขุมวิทได้โดยต่อเดียว นอกจากนี้ ยังมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ สายสีชมพู สายสีน้ำตาล และสายสีเหลือง
ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนื อ
ส่วนระบบทางพิเศษ มีโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือเกิดขึ้น มีจุดเริ่มต้นที่ทางด่วนศรีรีช - วงแหวนรอบนอก วิ่งไปตามโทลเวย์ และตัดไปตามแนว ถ.ประเสริฐมนูกิจ สิ้นสุดที่ถ.กาญจนาภิเษก ซึ่งถือได้ว่าเป็นทางด่วนที่เชื่อมกรุงเทพฯ ระหว่างวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตกไปฝั่งตะวันออกไว้ด้วยกัน ทำให้เดินทางสะดวกขึ้น
สำหรับแผนการเปิดใช้งาน คาดว่าทางเชื่อมโทลล์เวย์ - ศรีรัช จะสร้างเสร็จในปี 2565 ทางด่วน N2 และ E - W Corridor สร้างเสร็จปี 2567 ส่วนทางด่วนส่วนต่อขยายทดแทน N1 ยังมีติดปัญหาเรื่องพื้นที่ซึ่งอาจต้องรอความแน่ชัดต่อในอนาคต
แน่นอนว่าเจ้าของธุรกิจและกิจการที่ตั้งอยู่ในโซนนี้ย่อมได้รับผลดีจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยตรง เพราะการมาของรถไฟฟ้าทำให้เกิดการขยายตัวของเมือง รวมถึงยังทำให้พนักงาน ผู้ที่มาติดต่อธุรกิจ เดินทางไป - มาสะดวก
2. แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ตัวโครงการตั้งอยู่ใน ซ.นาคนิวาส 6 ติดกับเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ และยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ชื่อดัง เช่น The Walk เกษตร - นวมินทร์ เดอะ คริสตัล และ Crystal Design Center (CDC) โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ เช่น รพ.เวชธานี รพ.เปาโล และ รพ.ลาดพร้าว รวมถึงโรงเรียน เช่น รร.สตรีวิทยา 2 และ รร.เลิศหล้า ถนนเกษตร - นวมินทร์
ซึ่งช่วยทำให้พนักงานออฟฟิศในโซนนี้ใช้ชีวิตสะดวกสบายทั้งเรื่องของอาหารการกิน หรือการผ่อนคลายหลังเลิกงาน นอกจากนี้ บางธุรกิจยังได้รับผลพลอยได้จากการที่ตั้งอยู่ใกล้ห้างใหญ่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ด้วย
3. ผังสีใหม่ พัฒนาได้มากขึ้ น
เมื่อมาดูการใช้ประโยชน์ผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่จะประกาศบังคับใช้ภายในปี 63 นี้ จะเห็นได้ว่าทำเลนี้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน จากเดิมที่ส่วนใหญ่ถูกจัดให้เป็นสีเหลืองหรือที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย พัฒนามาเป็นสีส้มหรือที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง ส่งผลให้พื้นที่ในโซนโดยเฉพาะที่ดินติดถนนใหญ่สามารถขึ้นโครงการขนาดใหญ่ได้
ซึ่งถ้ามาดูการใช้ประโยชน์ของประเภทอาคารหลัก ๆ อย่างคอนโด พาณิชยกรรม และสำนักงาน จะเห็นได้ว่าสามารถสร้างสูงสุดได้เกิน 10,000 ตร.ม. เลยทีเดียว ทั้งนี้ต้องอยู่ติดริมถนนใหญ่หรืออยู่ในระยะ 500 ม. จากรถไฟฟ้าด้วย และในปัจจุบันบริเวณริม ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม มีแปลงที่ดินรอการพัฒนาอีกหลายแปลง ซึ่งคาดว่าจะมีโปรเจกต์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นหลังผังเมืองใหม่บังคับใช้ ทำให้ในอนาคตภาพรวมจะมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน
โดยสรุป ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นของโซนนี้หลังการปรับผังสี คือ สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้มากขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาภายในโซน โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต่อไปจะสามารถสร้างอาคารประเภทต่าง ๆ ได้ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้โซนนี้เปลี่ยนจากทำเลอยู่อาศัย กลายเป็นทำเลธุรกิจใหม่ เกิดการจ้างงานและดึงดูดให้คนเข้ามาในพื้นที่นี้มากขึ้น
4. มีกลุ่มลูกค้าในโครงการบ้านหรูหลายแห่ง !!!
ทำเลนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมบ้านหรูชื่อดังหลายโครงการ เมื่อสำรวจบ้านเดี่ยวราคา 20 ลบ. ขึ้นไปตั้งแต่ช่วง ถ. รามอินทรา ถึง ถ.ลาดพร้าว ที่อยู่ห่างจาก ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ไม่เกิน 1.5 กม. พบว่ามีถึง 12 โครงการ รวมแล้วกว่า 442 ยูนิต
มีบ้านเดี่ยวที่ราคาเริ่มต้นระดับร้อยล้านถึง 2 โครงการ ด้วยกัน เริ่มจากโครงการแรกที่มีราคาเริ่มต้นสูงสุดถึง 245 ลบ. คือ โครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส จากสิงห์ เอสเตท รองลงมาเริ่ม 138 ลบ. คือ โครงการอเทลิเยร์ เรสซิเดนซ์ จากเอแลนด์
โดยในกรุงเทพฯ ทำเลทีมีบ้านเดี่ยวราคาสูงระดับนี้มีเพียงไม่กี่ทำเลเท่านั้น ปัจจัยหนึ่งที่บ้านเดี่ยวระดับร้อยล้านเลือกไปตั้งจะต้องเป็นทำเลศักยภาพ เดินทางเข้า ออกเมืองได้ง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโซนครบครัน ซึ่งทำเลนี้ก็เป็นหนึ่งในทำเลที่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ดี
รวมถึงในแง่ของการทำธุรกิจ การที่ในทำเลมีบ้านหรูอยู่เยอะก็หมายถึงมีคนกำลังซื้อสูงอยู่เป็นจำนวนมาก มีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจกลุ่มไฮเอนด์ ที่เน้นขายของคุณภาพดี ราคาสูงได้ไม่ยาก
เช่า ออฟฟิศในเมือง หรือ ซื้ อ บ้านพันนา ?
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาออฟฟิศอยู่ แต่ยังลังเลระหว่างจะเช่าออฟฟิศหรือจะซื้อโฮมออฟฟิศดี ถ้าเรามาดูเฉพาะต้นทุนของพื้นที่ออฟฟิศในขนาดที่เท่ากัน จะเห็นได้ว่าถ้าเลือกเช่าออฟฟิศเกรด A ใกล้รถไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายจะตก 9,199,000 บ. / ปี ถ้าเช่าออฟฟิศทั่วไป ค่าเช่าอยู่ที่ 6,429,000 บ. / ปี แต่ถ้าเลือกซื้อโฮมออฟฟิศระดับไพร์มที่อยู่ในทำเลศักยภาพอย่างบ้านพันนาด้วยเงินสด จะมีค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวที่ 60 ลบ. ซึ่งถ้ามาเทียบกันในระยะยาว การซื้อโฮมออฟฟิศบ้านพันนาจะคุ้มกว่าการเช่าออฟฟิศเกรด A ในปีที่ 7 และออฟฟิศโดยรวมในกรุงเทพฯ ปีที่ 10
โดย ข้อดีของการลงทุนโฮมออฟฟิศที่สำคัญคือเรื่องพื้นที่ เพราะแตกต่างจากการเช่าตรงที่เจ้าของมี อิสระในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้มากกว่ า เช่น สามารถต่อเติมจากที่ดินโดยรอบโฮมออฟฟิศ หรือกั้นผนัง ปรับเปลี่ยนการใช้งานของพื้นที่ทั้งหมดอย่างอิสระ ให้เหมาะกับการทำธุรกิจแต่ละประเภท รวมถึงยัง ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารนั้น ๆ สามารถโอน ให้เช่า หรือขายต่อได้ในอนาคต
BANN P ANNA - Luxury Home Office ติดเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์
FACT SHEET
โครงการ : บ้านพันนา เอกมัย - รามอินทรา
ผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท พันนาลิฟวิ่ง จำกัด
ที่ตั้ง : ซ.นาคนิวาส 6 ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ประเภทโครงการ : โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น
จำนวนยูนิต : 5 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย : 679 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 60 ลบ.
ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จอดรถได้สูงสุด 11 คัน
ภายนอก
โฮมออฟฟิศออกแบบสไตล์ Modern Contemporary ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูทันสมัย ตัวอาคารมี 5 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น 1 - 3 เป็นโซนออฟฟิศ ส่วนชั้น 4 - 5 เป็นโซนอยู่อาศัย ทำให้สามารถใช้ชีวิตทำงานและพักผ่อนได้อย่างลงตัว
โซนออฟฟิศ
ด้านหน้าสามารถจอดรถสูงสุดได้ถึง 11 คัน ภายในอาคารเมื่อเข้ามาจะเจอกับโซนต้อนรับสำหรับผู้มาติดต่อ และมีห้องประชุมอยู่บริเวณด้านข้าง ด้านในเป็น Sharing Space ไว้สำหรับเป็นโซนนั่งเล่น ทานอาหาร หรือคุยงานแบบสบาย ๆ ของพนักงาน การขึ้น - ลง ระหว่างชั้นสามารถใช้ได้ทั้งลิฟต์และบันได นอกจากนี้ ทุกชั้นยังออกแบบให้เป็น Open Plan ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างอิสระ
โซนอยู่อาศัย
ส่วนที่พักอาศัย ชั้น 4 จัดพื้นที่แบบเปิดโล่งถึงกัน ทำให้ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ เมื่อขึ้นไปชั้น 5 เป็นโซนพักผ่อนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวประกอบไปด้วยห้องนอน Walk - in Closet และห้องน้ำ ซึ่งมีขนาดใหญ่เต็มชั้นเหมือนอยู่ Penthouse หรือถ้าไม่ต้องการพื้นที่พักอาศัย เจ้าของยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นออฟฟิศทั้งอาคารเลย ซึ่งจะทำให้รองรับพนักงานได้มากกว่า 50 คน
Luxury Home Office ตอบโจทย์ความต้องการแบบไหน ?
โฮมออฟฟิศถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาในการเดินทางไป - กลับที่ทำงานอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ชม. การลงทุนโฮมออฟฟิศสักหลังที่สามารถใช้เป็นทั้งที่ทำงานและที่พักอาศัยจะช่วยทำให้ประหยัดเวลาได้มาก และทำให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งลักษณะความต้องการที่เหมาะกับการซื้อโฮมออฟฟิศ มีดังนี้
1. บ้านในที่ทำงาน - สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องการเสียเวลาในการเดินทาง หรือต้องการลงทุนครั้งเดียวสามารถใช้ประโยชน์ได้ถึง 2 อย่าง
2. ใช้งานในระยะยาว - ต้องการตั้งบริษัทในทำเลใดทำเลหนึ่งในระยะยาว ซึ่งการซื้อจะคุ้มค่ากว่าการเช่า
3. คนมาติดต่อบ่อย - เช่น ธุรกิจให้บริการประเภทคลินิกเสริมความงาม ต้องการพื้นที่จอดรถให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ หรือธุรกิจบางประเภทที่มีคู่ค้ามาประชุมหรือติดต่องานบ่อย ๆ
4. เวลางานไม่แน่นอน - โดยเฉพาะออฟฟิศครีเอทีฟที่บางวันอาจจะต้องอยู่ดึก ทำให้สามารถอยู่ทำงานหรืออาบน้ำ พักผ่อนที่บริษัทได้เลย ไม่ต้องเสียค่าเปิดแอร์ล่วงเวลาเหมือนอยู่ตึกใหญ่ ๆ
5. พื้นที่ยืดหยุ่น - มีพื้นที่รอบอาคารสำหรับต่อเติมพื้นที่การใช้งาน รวมถึงสามารถกั้น เจาะ ทุบผนังปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเภทธุรกิจได้อย่างอิสระ
โฮมออฟฟิศหรูบนทำเลศักยภาพ เพียง 5 ยูนิตเท่านั้น !!!
เปิดจองโครงการใหม่ 28 - 29 มี.ค. 63
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก