realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon

โปรฯแรงจนเสียศูนย์กับเกณฑ์ LTV ใหม่รับปี 2562

28 Nov 2018 2.2K

โปรฯแรงจนเสียศูนย์กับเกณฑ์ LTV ใหม่รับปี 2562

28 Nov 2018 2.2K
 

โปรฯ แรงจนเสียศูนย์กับเกณฑ์ LTV ใหม่รับปี 2562

ในช่วงที่ผ่านมานี้หลายคนที่อยู่ในวงการอสังหาฯ น่าจะเคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการปรับเกณฑ์ LTV หรือ อัตราการขอสินเชื่อหรือกู้เพื่อซื้ออสังหาฯ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านก็ดี หรือคอนโดฯ ก็ดี ซึ่งในปี 2562 ที่จะมาถึงนี้จะมีความแตกต่างอย่างไรก็ 2018 ? แล้ว LTV คืออะไร ? ในขณะเดียวกัน ทาง Ananda Development นั้นได้มีการประกาศโปรฯแรง ส่งท้ายปี อย่างโปรฯ เสียศูนย์ Zero Promotion ที่มีคอนโดฯ ของอนันดา ทำเลติดรถไฟฟ้า มากมายตบเท้าเข้าร่วมแคมเปญนี้
หากอยากรู้รายละเอียดตามชื่อโปรฯ เสียศูนย์ เรามาดูกันว่า ตรงไหนจากที่ต้องเสียแล้วกลายเป็นศูนย์กันบ้าง ฟังมาแบบนี้แล้วหลายคนอาจถึงกับต้องเสียศูนย์กันได้แต่ไม่ถึงขั้นสูญเสีย เพราะเราจะพาไปเจาะลึกกับโปรฯ เสียศูนย์นี้กัน รวมถึงรายละเอียดการปรับเกณฑ์ LTV ในปี 2562 ที่เกี่ยวข้องกับโปรฯ นี้ รวมถึงกลุ่มคนที่ต้องการซื้อบ้าน ต้องรู้ก่อนใคร

LTV คืออะไร ?

LTV หรือชื่อเต็มๆ คือ Loan to Value (มูลค่าสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน) หากพูดง่ายๆ ก็คือ เงินที่สามารถกู้ได้ ต่อ ราคาบ้าน/คอนโดฯ ตัวอย่างเช่น "มีอัตรา LTV อยู่ที่ร้อยละ 80 และเราต้องการกู้เพื่อซื้อบ้าน/คอนโดฯ ราคา 1 ลบ." จะสามารถคิดเพดานของเงินที่เราจะกู้เท่ากับ 80% ของ 1 ลบ. หรือก็คือ 800,000 บ. นั่นเอง 
ซึ่งในกรณีที่ผู้กู้มีปัญหาไม่สามารถส่งเงินผ่อนให้กับสถาบันการเงินได้ ทางสถาบันการเงินก็จำเป็นต้องยึดบ้าน/คอนโดฯ เพื่อนำไปขายทอดตลาดต่อไป เพื่อเอาเงินคืน ซึ่งอาจจะขายได้ประมาณ 80-90% ของราคาบ้าน/คอนโดฯ ทั้งนี้ก็เพื่อ กำหนดเพดานในการกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ไม่ให้มีความเสี่ยงที่สูงเกินไปสำหรับตัวผู้กู้และสถาบันการเงินนั่นเอง 

ปรับเกณฑ์ LTV ปี 2561 vs. ปี 2562

การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ LTV ในปี 2562 จะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 โดยจะมีจุดที่แตกต่างกับอยู่ 2 ข้อด้วยกันดังนี้
1.) สินเชื่อที่ปล่อยกู้นั้นจะคิดรวมกับ สินเชื่อเพิ่มเติม หรือ Top-up ทั้งหมดไม่เกิน 100 % ของราคาคอนโดฯ หรือบ้าน ทั้งในกรณีสินเชื่อปล่อยใหม่ และการรีไฟแนนซ์ ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสจากการเกิดผลกระทบของมูลค่าของคอนโดฯ หรือบ้าน 2.) ในการกู้บ้าน/คอนโดฯ หลังที่ 2 ขึ้นไป หรือมูลค่ามากกว่า 10 ลบ. จะสามารถกู้ได้เต็มที่ 80% ดังนั้นเวลาเราจะกู้เพื่อซื้อคอนโดฯหรือบ้าน จะต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำจำนวน 20% ของราคาคอนโดฯหรือบ้านก่อน เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบเช่นเดียวกับข้อแรก
 

สาเหตุของการปรับเกณฑ์ LTV ในปี 2562

สาเหตุของการปรับเกณฑ์ LTV ในปี 2562 มาจาก 3 สาเหตุหลักๆ ดังนี้
1.) สัดส่วนการกู้มากกว่า 90% สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่ผู้กู้สามารถกู้ได้เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน ทั้งที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อ LTV สูง หรือกู้เพิ่มจากสินเชื่อสำหรับตกแต่ง(Top Up) ก็ตามนั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงแก่ผู้กู้และสถาบันการเกิน เนื่องจากหากสามารถกู้ได้เยอะหรือเกิน มูลค่าบ้าน/คอนโดฯ นั่นก็หมายความว่า ผู้กู้ไม่จำเป็นต้องมีเงินออมสำหรับจ่ายก็ได้ ทำให้ผู้กู้นั้นอาจจะขาดการเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมาย  จนเป็นสาเหตุของหนี้เสียและสถาบันการเงินที่ขาดทุนจากการขายทอดตลาด 2.) การกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมีมูลค่าสินเชื่อต่อรายได้สูงขึ้นต่อเนื่อง พูดง่ายๆก็คือ คนไทยมีอัตราหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับรายได้ที่เท่าเดิมในแต่ละปี ถึงแม้จะมีการยืดเวลาการผ่อนชำระหนี้ไปแต่หนี้ก็ไม่ได้ลดลง ซึ่งเกิดจากการปล่อยกู้สินเชื่อเกินอัตรา LTV อีกทั้งสินเชื่อแบบ Top Up ยังมีส่วนกระตุ้นการสร้างหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นด้วย 3.) มีการกู้สินเชื่อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าและขายต่อมากขึ้นเรื่อยๆ สืบเนื่องมาจาก อัตราการ LTV ในการกู้บ้าน/คอนโดฯ ในปี 2018 นั้น หากเป็นอสังหาฯ ที่ราคาต่ำกว่า 10 ลบ. จะอยู่ที่ร้อยละ 90-95 % ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรกหรือหลังที่เท่าไหร่ก็ตาม รวมกับสินเชื่อ Top Up อีก 5-10 % ก็เท่ากับว่าผู้กู้สามารถดาวน์บ้าน/คอนโดฯ แบบมือเปล่าได้ทีละหลายๆหลังเพื่อลงทุน จนอาจเกินความเสี่ยงที่สามารถรับได้ ซึ่งในอนาคตหากราคามีการปรับลดลงอย่างรุนแรง จากความต้องการซื้อไม่เป็นไปตามคาด จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและระบบการเงินในวงกว้างได้นั่นเอง

ผลกระทบจากการปรับเกณฑ์ LTV

กู้เพื่ออยู่อาศัย

สำหรับผู้ที่กู้เพื่ออยู่อาศัยเอง ถ้าเป็นบ้าน/คอนโดฯ หลังแรก เกณฑ์ LTV ยังคงเป็นเช่นเดิมเหมือน คือ 80-95%  แต่ถ้าเป็นหลังที่ 2 นั้น เกณฑ์ LTV จะอยู่ที่ 80% นับรวมสินเชื่อ Top Up ด้วย ทำให้ผู้กู้ต้องมีการเตรียมเงินออมมากขึ้น สำหรับจ่ายค่าดาวน์ที่มีขั้นต่ำอยู่ที่ 20% ของราคาบ้าน/คอนโดฯ ส่งผลให้ผู้กู้มีการประเมินตนเองว่ามีศักยภาพในการผ่อนชำระและรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน

กู้เพื่อลงทุน

สำหรับผู้กู้เพื่อลงทุน เนื่องจากต้องมีเงินดาวน์ 20% ทำให้ไม่สามารถจองและดาวน์ บ้าน/คอนโดฯ ทีละหลายหลัง/ห้องได้ มีข้อดีคือความเสี่ยงที่ผู้กู้จะต้องรับก็ลดลง หากราคาอสังหาฯลดลงมาอย่างกระทันหันก็ไม่ได้รับผลกระทบมาก ยังสามารถตั้งตัวหรือเตรียมตัวรับมือได้ทันท่วงที

สถาบันการเงิน

สำหรับสถาบันการเงิน ประโยชน์ที่ได้ก็คือ จะได้ลูกหนี้ที่มีคุณภาพมากขึ้นและสามารถผ่อนชำระได้จริงไม่เกิดหนี้เสีย อีกทั้งยังลดภาระกันสำรองในอนาคตอีกด้วย โดยสรุปแล้วก็คือ สามารถรับกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของมูลค่าบ้าน/คอนโดฯได้มากขึ้นนั่นเอง แต่จะมีข้อเสียตรงที่ยอดของการปล่อยกู้อาจจะช้าลงและน้อยลง เพราะคนต้องใช้เวลาในการเก็บเงินมากขึ้น

ดีเวลลอปเปอร์ อสังหาฯ

สำหรับดีเวลลอปเปอร์ อสังหาฯ อาจจะทำให้หลังจากปรับเกณฑ์ LTV ไปแล้ว ยอดการจองและขายบ้าน/คอนโดฯ อาจจะเกิดความชะลอตัว เพราะผู้คนต้องใช้เวลาในการเก็บเงินดาวน์ ที่มีขั้นต่ำอยู่ที่ 20% นั่นเอง (สำหรับหลังที่ 2) แต่ทั้งนี้ก็จะมีข้อดีตรงที่จะลดความเสี่ยงจากอุปทานคงค้างได้ เพราะผู้ที่มาซื้อคือผู้ที่มีความพร้อมและประเมินความเสี่ยงที่รับได้ในระดับหนึ่งแล้ว

ตัวอย่างการกำหนดอัตรา LTV ในต่างประเทศ

ในต่างประเทศนั้นส่วนมากมีวิธีการกำหนดระดับ LTV แบบกำหนดเพดาน (Hard Limit) เฉลี่ยจะอยู่ที่ 65-85% โดยแปรผันตามความเสี่ยงเชิงระบบ อาทิ ตามจำนวนสัญญา, ตามวัตถุประสงค์, ตามพื้นที่ หรือตามแหล่งรายได้ผู้กู้เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกู้สินเชื่อมาเก็งกำไร จนเกิดเป็นปัญหาฟองสบู่ตามมานั่นเอง ในประเทศที่มีพื้นที่จำกัดเมื่อเทียบจำนวนประชากรหรือประเทศที่มีปัญหาฟองสบู่ อย่าง ฮ่องกง, มาเลเซีย และ สิงคโปร์ นั้นค่อนข้างมีมาตรการที่เข้มเพื่อป้องกันการเร่งระดับราคาจนมากเกินกำลังคนซื้อส่วนใหญ่ จนเกิดเป็นปัญหาเชิงสังคม

โปรฯ เสียศูนย์ รีบจองก่อนกู้ได้น้อยลง จาก Ananda Development

ในโปรฯ นี้ ทาง Ananda Dev. ได้ทำกับหยิบเอาคอนโดฯ ทำเลดี ติดรถไฟฟ้า มาเข้าแคมเปญนี้ส่งท้ายปี ก่อนที่จะโดยมาตรเข้มในปีหน้า ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้ ฟรีค่าทำสัญญา : ทางโครงการฯ จะไม่เก็บเงินดาวน์งวดแรกเพื่อทำสัญญา (โดยเงินดาวน์งวดแรกจะไปรวมกับ”เงินงวดโอนกรรมสิทธิ์”  อยู่ฟรี 2 ปี : ทางโครงการจะเป็นผู้รับผิดชอบ “เงินผ่อนต่องวด” (เฉพาะ”วงเงินสินเชื่อเคหะ” กับธนาคารที่โครงการกำหนด) ฟรีค่าโอน : ฟรีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในวันโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้ 1.) ค่าส่วนกลาง 1 ปี 2.) ค่ากองทุนแรกเข้า 3.) ค่าโอนกรรมสิทธิ์ตามที่กรมที่ดินกำหนด (โดยที่เราต้องโอนในระยะเวลาที่โครงการฯกำหนด)

ซื้อปีนี้กับปีหน้า ต่างกันอย่างไร?

1.) การผ่อนชำระ หากซื้อคอนโดฯ ที่ร่วมโปรฯ ของอนันดา ในช่วงนี้ถึง 30 ธันวาคมนี้ ใน 2 ปีแรกทางโครงการจะเป็นคนผ่อนธนาคารให้กับผู้ซื้อ ดังนั้นเหมือนกับว่าเราได้อยู่ฟรีไปเต็มๆ เลยถึง 2 ปีนั่นเอง ซึ่งช่วงเวลานี้เราก็สามารถเก็บเงินหรือเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นได้ก่อน แต่ถ้าเป็นปีหน้าซึ่งไม่ได้อยู่ในช่วงโปรฯ แล้วเมื่อผู้ซื้อจะต้องเริ่มจ่ายกันตั้งแต่เงินค่าจองเลยทีเดียว
2.) การกู้เงินจากสถาบันการเงิน ในขณะที่อัตรา LTV ยังเป็นแบบเดิมอยู่ ผู้ซื้อสามารถทำการกู้สถาบันการเงินได้เต็ม 100% หรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่สถาบันการเงิน (สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย+สินเชื่อเพื่อการตกแต่ง) นั่นก็หมายความว่าถ้าผู้ซื้อสามารถกู้ได้เต็ม 100% ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมเงินสำหรับดาวน์คอนโดฯนั่นเอง แต่ถ้าเป็นปีหน้าหลังการปรับเกณฑ์ LTV ผู้ซื้อก็ต้องเตรียมเงินดาวน์ไว้ขั้นต่ำถึง 20%
 

สรุปทุกประเด็นที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ โปรฯเสียศูนย์ จาก Ananda Development

โปรฯ เสียศูนย์นี้หลักๆ แล้วประกอบไปด้วย 1.ฟรีสัญญา 2.ฟรีโอน และ 3.อยู่ฟรี 2 ปี ซึ่งสำหรับผู้ที่สนใจสามารถมองได้ 2 แบบตามแต่จุดประสงค์ของแต่ละท่าน ดังนี้
หากคุณต้องการซื้อเพื่อลงทุน ถ้าจะซื้อเพื่อลงทุนนั้น ช่วงเวลานี้ก็นับเป็นรถด่วนขบวนสุดท้ายแล้ว เพราะยังสามารถกู้ได้ 100% อยู่ สามารถซื้อลงทุนได้ทีละหลายห้อง อีกทั้งเมื่อรวมกับโปรฯเสียศูนย์ ผู้ซื้อไม่ได้ผ่อนเองใน 2 ปีแรก แล้วนั้นยิ่งคุ้มค่า หากรอปีหน้าหลังจากปรับเกณฑ์ LTV แล้ว การลงทุนนั้นจะทำได้ยากมากขึ้น เพราะผู้ลงทุนจะต้องเตรียมเงินสำหรับดาวน์ขั้นต่ำอยู่ที่ 20% นั่นเอง แต่ทั้งนี้หากใครคิดจะรีบลงทุนในปีนี้ก็อย่าลืมศึกษาว่าเรารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหนด้วยนะครับ
หากคุณต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ถ้าจะซื้อมาเพื่ออยู่อาศัยเองนั้น เชื่อว่าผู้ที่จะซื้อน่าจะเตรียมความพร้อมและศึกษาความเสี่ยงมาพอสมควร เพราะหนี้บ้านนั้นถือเป็นหนี้ก่อนใหญ่ก้อนหนึ่งในชีวิตอยู่แล้ว ดังนั้นการซื้อในช่วงโปรฯเสียสูญนี้จึงเหมือนกับโบนัสที่ลดรายจ่ายของเราออกไป ทั้งอยู่ฟรี 2 ปีก็ดี หรือฟรีค่าทำสัญญา (ประมาณ 1% ของราคาคอนโดฯ) และค่าโอน (ประมาณ 2% ของราคาคอนโดฯ)ก็ดี ดังนั้นหากใครคิดจะซื้อคอนโดฯ ,มีความพร้อม, ศึกษาความเสี่ยงมาอย่างดีแล้ว และสนใจคอนโดฯที่ร่วมโปรโมชั่นนี้อยู่แล้ว ช่วงเวลานี้ก็นับเป็นช่วงเวลาที่ดีครับ

สอบถามเพิ่มเติมที่เว็ปไซต์ของโครงการ

Ananda Development

 
Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon