![]()
หากถามหาโครงการทาวน์โฮมแล้วนั้น ชื่อของโครงการ “บ้านกลางเมือง” นั้นถือเป็นชื่อแรกๆ ที่นึกออก ด้วยความยาวนานและศักยภาพของแบรนด์ที่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีการ Re-Brand ซักครั้งเดียว กล่าวได้ว่าหากไม่ดีจริงคงไม่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งของตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้นได้ คิดเป็นสัดส่วนถึง 59% ที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 30,900 ลบ.
ในด้านจำนวนของโครงการบ้านกลางเมืองนั้นปัจจุบันมีมากกว่า 60 โครงการ มีพื้นที่โครงการรวมกันมากกว่า 1,200 ไร่ และการกลับมาอีกครั้งของแบบบ้านใหม่ คือ Terraria ที่มีจุดเด่นที่ความ Flexible ในการใช้งานและพื้นที่สีเขียว ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูกันต่อว่า รายละเอียดลึกๆ แล้วมีลักษณะไหน ยังไงบ้างในบทความนี้กันครับ
ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมานั้นได้มีการเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์บ้านกลางเมืองทั้งหมด 7 โครงการด้วยกัน ซึ่งจากทั้งหมด 7 โครงการนี้จะมี 2 โครงการที่ปรับแบบบ้านเป็นโมเดลแบบ Terraria คือ
1) บ้านกลางเมืองลาดพร้าว-เสรีไทย
2) บ้านกลางเมืองสาทร-สุขสวัสดิ์
ในขณะที่ในปี 2561 นี้ ทาง AP ก็ได้มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการบ้านกลางเมืองโมเดลใหม่ภายใต้ทำเลคุณภาพด้วยกัน อีกถึง 4 โครงการ คือ
1) บ้านกลางเมือง วัชรพล
2) บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์
3) บ้านกลางเมือง The Era ปิ่นเกล้า-จรัญฯ
4) บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 - พัฒนาการ
2. กลยุทธ์ ทำเล กลุ่มเป้าหมาย
ในช่วงสิ้นปีของ 2560 นั้น การซื้อขายอสังหาฯ แนวราบนั้นมีแนวโน้มคึกคัก โดยเฉพาะ Segment กลาง-บน ราคาระหว่าง 4 - 9 ลบ. ซึ่งทาง AP Thailand นั้นได้ย้ำจุดแข็งของแบรนด์ "บ้านกลางเมือง" ที่เน้นการออกแบบพัฒนาโมเดลแบบใหม่ๆ และการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าครอบครัวเมือง ทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอก
จากสถิตินั้นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ "บ้านกลางเมือง" จะเป็นกลุ่มของครอบครัวเมือง Generation ใหม่ (อายุไม่เกิน 35 ปี) ที่กำลังจะขยับขยายที่อยู่ ผลัดเปลี่ยนจากการอยู่คอนโดฯ มาสู่บ้านทาวน์โฮมระดับ Hi-End แทน โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่อยู่ที่ 39% ที่มีการเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 ใน Q3 2560 แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ในการอยู่อาศัยของครอบครัวเมืองยุคใหม่ได้อย่างดี
3. บ้านกลางเมือง 6 โครงการใหม่ ที่มาพร้อมกับโมเดลบ้าน Terraria
"ทำเล" เป็นเรื่องที่แบรนด์ "บ้านกลางเมือง" นั้นให้ความสำคัญเสมอมา เพราะการเดินทางเข้าออกเมืองที่สะดวกและการมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการนั้น ย่อมส่งผลดีต่อผู้อยู่อาศัย โดย 6 โครงการใหม่มีดังต่อไปนี้
พื้นย่านกรุงเทพฯ ตะวันออกขึ้นไปทางเหนือ อยู่ใกล้กับพื้นที่แหล่งงานอย่างนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ จะมีสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ, Fashion Island และ The Promenade สำหรับไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและช็อปปื้งกับครอบครัว ด้านกลางเดินทางจะอยู่ใกล้กับ ทางพิเศษวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีชมพู ที่ในปัจจุบันสายสีชมพูเริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564
ตัวโครงการอยู่ห่างจาก ถ.สุขสวัสดิ์เพียง 270 ม. และใกล้กับสะพานภูมิพลที่สามารถวิ่งไปลงที่ ถ.พระราม 3 เเละเข้าสู่ตัวเมืองได้ สิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณรอบๆ จะมี Central พระราม 3, Central พระราม 2 และ The Mall ท่าพระ ถือเป็นทำเลที่ค่อนข้างอยู่ใกล้กับพื้นที่ CBD หลักของกรุงเทพฯ สามารถเดินทางได้ไม่ยาก อีกทั้งยังอยู่ใกล้ปอดของกรุงเทพฯ อย่างบางกระเจ้าอีกด้วย
ตัวโครงการตั้งอยู่ติด ถ.สุขาภิบาล 5 บริเวณแถวนั้นเป็นเขตชุมชนดั้งเดิมทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอยู่ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะ ตลาด อาทิ ตลาดยิ่งเจริญ, ตลาดออเงิน เป็นต้น ห้างสรรพสินค้าจะอยู่ใกล้ The Walk จุดเด่นของทำเล สุขาภิบาล 5 จะเป็นความที่อยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ ทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่าย
บ้านกลางเมือง The Era ปิ่นเกล้า-จรัญฯ ที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วง Q3 ของปี 2561 นี้ในย่านปิ่นเกล้า อยู่ใกล้กับทางด่วนศรีรัช และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางอ้อ และในอนาคตจะมีการเปิดใช้งานสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมการคมนาคมของกรุงเทพฯ ทำให้พื้นที่ในย่านนี้ค่อนข้างมีศักยภาพในด้านการคมนาคมอย่างมาก ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกจะอยู่ใกล้กับ Central ปิ่นเกล้า
อีกโครงการหนึ่งของแบรนด์บ้านกลางเมืองที่กำลังจะเปิดตัวในช่วง Q3 ของปีนี้เช่นกัน อยู่ในย่านราชพฤกษ์ ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีติวานนท์ สามารถเดินทางไปยังย่านรัชดา-สาทรได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือจะไปทางเรือด่วนเจ้าพระยาก็สามารถเดินทางได้ ห้างสรรพสินค้าในบริเวณใกล้เคียงจะเป็น The Crystal และ The Walk ราชพฤกษ์
โครงการสุดท้ายที่จะเปิดตัวในช่วง Q3 ของปีนี้เช่นกัน กับแบบบ้าน Terraria บนทำเล พระราม 9 - พัฒนาการ ที่ใกล้กับมอเตอร์เวย์และวงแหวนรอบนอก ซึ่งเดินทางสะดวกทั้งเข้าเมือง และออกนอกเมือง รวมถึงใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ, Paradise Park, Seacon Square เป็นต้น หากเป็นคนที่ชอบทำเลนี้ ทำงานในพื้นที่ ถือว่าน่าสนใจครับ ราคาเริ่มต้น 4.69 ลบ.
4. วิวัฒนาการของบ้านกลางเมือง
X-Trend
บ้านกลางเมือง พระราม 2/บ้านกลางเมือง สวนหลวง/บ้านกลางเมือง พระราม 9-อ่อนนุช
Concept
Multiplied Space สร้างสรรค์และออกแบบบนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น
1. พื้นที่ใช้สอยมากถึง 222 ตร.ม.
2. มีพื้นที่รอบบ้าน
3. ห้อง Extra Bedroom ในชั้น 1 และพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ในชั้น 2
ราคาเริ่มต้น 6.49 ลบ.
New Design
บ้านกลางเมือง พระราม 9/บ้านกลางเมือง นวมินทร์ 42/บ้านกลางเมือง งามวงศ์วาน/บ้านกลางเมือง รัตนาธิเบศร์/บ้านกลางเมือง กัลปพฤกษ์/บ้านกลางเมือง พระราม 2-พุทธบูชา
Concept
ออกแบบพื้นที่ ที่ผสานฟังก์ชั่น ตอบรับกับวิถีชีวิตสมัยใหม่
1. ห้องนอน Master แบบ Penthouse
2. ดีไซน์โปร่งโล่ง เชื่อมมุมมองห้องนั่งเล่นสู่ห้องรับประทานอาหาร
3. Walk in Closet
ราคาเริ่มต้น 3.99 ลบ.
Modernist
บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77/บ้านกลางเมือง สวนหลวง
Concept
Stay Simple Stay True ทาวน์โฮมที่ผสมผสานความเรียบง่ายแต่สวยงาม ด้วยการดีไซน์แบบ Minimal Style
1. Double Master Bedroom
2. Family Area ชั้น 2 เพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับการพักผ่อน
3. Flow ของแสงและอากาศภายในตัวบ้าน
ราคาเริ่มต้น 4.39 ลบ.
Urbanist
บ้านกลางเมือง พหลโยธิน 50/บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์/บ้านกลางเมือง นวมินทร์ 42/บ้านกลางเมือง พระราม 9-อ่อนนุช
Concept
ดีไซน์ครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยรองรับทุกไลฟ์สไตล์
1. Walk in Closet
2. Multi Purpose Room พร้อมระเบียงชั้น 3
3. พื้นที่เชื่อมต่อ Pantry Dining และ Living Area
ราคาเริ่มต้น 3.59 ลบ.
Iconic
บ้านกลางเมือง รัชโยธิน/บ้านกลางเมือง วิภาวดี/บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์
Concept
โดดเด่นด้วย ICONIC SPACE ออกแบบพื้นที่เปิดจินตนาการ
1. Double Volume & Mezzanine เพิ่มความโปร่งโล่งภายในตัวบ้าน
2. Ensuite Bathroom
3. Triple Storage Room
ราคาเริ่มต้น 5.59 ลบ.
Urbanion(Star)
บ้านกลางเมือง เกษตร-นวมินทร์/บ้านกลางเมือง รัชดา-วงศ์สว่าง/บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์
Concept
ขยายโลกส่วนตัวให้ใหญ่ขึ้น พร้อมเปิดมุมมองเชื่อมต่อ
1. ดีไซน์ห้องนอน Master Bedroom ให้เป็น Penthouse ขนาดใหญ่
2. มุมพักผ่อนส่วนตัวที่เปิดโล่งถึงระเบียงด้านหน้า
3. Extra Living Area ชั้น 1 ขนาดใหญ่
ราคาเริ่มต้น 3.99 ลบ.
Urbanion(Moon)
บ้านกลางเมือง เกษตร-นวมินทร์/บ้านกลางเมือง รัชดา-วงศ์สว่าง/บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์
Concept
ขยายโลกส่วนตัวให้ใหญ่ขึ้น พร้อมเปิดมุมมองเชื่อมต่อ
1. ดีไซน์ห้องนอน Master Bedroom ให้เป็น Penthouse ขนาดใหญ่
2. มุมพักผ่อนส่วนตัวที่เปิดโล่งถึงระเบียงด้านหน้า
3. Extra Living Area ชั้น 1 ขนาดใหญ่
ราคาเริ่มต้น 3.99 ลบ.
Terraria
1. บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย (เปิดขายแล้ว) เริ่ม 4.69 ล้าน 2. บ้านกลางเมือง สาทร-สุขสวัสดิ์ (เปิดขายแล้ว) เริ่ม 4.99 ล้าน 3. บ้านกลางเมือง วัชรพล (เปิดขายแล้ว) เริ่ม 4.69 ล้าน 4. บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์ (เปิดขายแล้ว) เริ่ม 5.19 ล้าน 5. บ้านกลางเมือง The Era ปิ่นเกล้า-จรัญฯ เปิดพรีเซล 29-30 ก.ย. เริ่ม 5.69 ล้าน 6. บ้านกลางเมือง The edition พระรามเก้า-พัฒนาการ พรีเซลเร็วๆ นี้ เริ่ม 4.69 ล้าน Concept เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้านและเพิ่ม Function ที่มีความ Flexible ปรับเปลี่ยนตาม Lifestyle 1. ดีไซน์ห้องนอน Master Bedroom ให้เป็น Penthouse ขนาดใหญ่ 2. มี Pocket Garden เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน 3. Extra Space เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้าน 4. Flexible Space ปรับเปลี่ยน Function ตามการใช้งาน5. Concept และแนวคิดกว่าจะมาเป็น Terraria
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น โครงการ "บ้านกลางเมือง" นั้น เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนเมืองเจเนอเรชั่นใหม่ ที่กำลังเริ่มขยับขยายครอบครัวหรือแยกออกมาจากครอบครัวเดิมเพื่อมาสร้างครอบครัวใหม่ของตนเอง
ดังนั้น บ้านกลางเมือง จึงให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตและ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัยอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่นั้นมี Lifestyle ที่ค่อนข้าง Unique และมีความเป็นปัจเจกบุคคลสูง
Design for Green Living
เนื่องด้วยวิถีคนเมืองในปัจจุบันนั้นต้องประสบพบเจอกับฝุ่นควันและมลภาวะจากท้องถนนกันอย่างลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นพื้นที่สีเขียวนั้นเป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยในส่วนนี้ เพื่อให้เราได้พักผ่อนและหลีกหนีจากมลภาวะต่างๆ นั่นเอง เป็นที่มาให้แบบบ้าน Terraria นั้นมีการนำพื้นที่สีเขียวเข้ามาในอาคาร โดยคำนึงถึงการออกแบบมุมมองทั้งภายนอกและภายในอาคาร
Function Flow
การใช้งานพื้นที่ต่างๆ ของบ้านนั้น จำเป็นต้องมีความไหลลื่นและเชื่อมต่อกันอย่างไม่ติดขัด เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่อง ดังนั้นการจัด Function ต่างๆ ของตัวบ้านจึงมีการส่งเสริมการใช้งานของพื้นที่ๆ ต่างได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย
Design for Flexibility
ความ Unique ของแต่ละบุคคลนั้นเป็นจุดเด่นของคนในยุคนี้ ทุกคนต่างมีความต้องการและ Lifestyle ที่ต่างกันไป ไม่ได้เป็น Stereotype เหมือนๆ กันไปเสียหมด ดังนั้นสิ่งที่จะรองรับวิถีชีวิตอันหลากหลายนี้ ก็คือ ความ Flexible ที่เป็นอีกจุดเด่นของแบบบ้าน Terraria ที่รองรับการปรับเปลี่ยนหรือขยับขยายในอนาคตได้อย่างดี
6. จากแนวคิดสู่ตัวสถาปัตยกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งาน
1st Floor
2nd Floor
ในชั้นแรกของตัวบ้านเมื่อเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งสามารถแยกขึ้นไปยังชั้น 2 ได้ ถัดมาจะเป็นห้องทานอาหารและห้องครัว ที่เป็นครัวแบบเข้ามุม เราสามารถต่อเติมเป็นครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นได้
ขึ้นมาก่อนจะถึงชั้น 2 จะเป็น Extra Space บริเวณขั้นบันได เป็นพื้นที่ที่สามารถจัดวางให้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น, อ่านหนังสือ หรือเป็นชั้นวางของได้ และเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเป็นห้องน้ำและพื้นที่ Multi-Purpose ที่มีผนังแบบพิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน โดยที่ห้องฝั่งด้านหน้าบ้านจะเชื่อมกับตัวระเบียงที่เป็น Pocket Garden ที่สามารถออกไปสูดอากาศหรือปลูกต้นไม้เพิ่มความเขียวให้กลับตัวบ้านได้
ชั้นที่ 3 ทั้งชั้นนั้นจะเป็น Master Bedroom แบบ Penthouse ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะและกว้างขวางที่มาพร้อมกับระยะพื้นถึงฝ้า 3 ม. ในขณะที่ชั้น 1 และ 2 นั้น จะอยู่ 2.6 ม. ตามมาตรฐาน อีกทั้งฝั่งด้านหน้าจะเป็นผนังกระจกบานใหญ่แบบเต็มบานทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นไปอีก ในส่วนของห้องน้ำภายในห้องจะมีพื้นที่ที่เป็น Pocket Garden แทรกเข้ามาอีกด้วย
Flexible Wall
Highlight สำคัญของแบบบ้าน Terraria ก็คือเรื่อง Flexible Wall กำแพงแบบพิเศษที่รองรับการปรับเปลี่ยนและขยับขยายโดยที่ไม่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างของตัวบ้าน ทำให้เราสามารถออกแบบและปรับเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มี Function ในแบบที่เราต้องการได้ เพื่อตอบจะสนอง Lifestyle ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ซึ่งเราจะยกตัวอย่างการประยุกต์พื้นที่บริเวณนี้เผื่อเป็น idea สำหรับผู้อ่านทุกท่านในการนำไปแต่งบ้านของตนเอง ดังนี้
เจ้าของกิจการรุ่นใหม่ไฟแรง (ห้องนอน + ห้องทำงาน)
Layout แบบนี้เน้นไปที่การจัดห้องในชั้นที่ 2 เป็นห้องนอนและห้องทำงาน สามารถปรับให้ทั้งชั้นเป็น Master Bedroom พร้อมกับห้องน้ำในตัวและกั้นส่วนประตูจากโถงใหญ่ เพื่อให้ห้องทำงานมีความ Private มากขึ้น ก็จะทำให้มี Master Bedroom ในบ้าน
แฟชั่นนิสต้า ขาช็อป ( ห้องนอน + ห้องแต่งตัว )
Layout ที่เปลี่ยนห้องเอนกประสงค์ให้กลายเป็นห้องแต่งตัวแบบเต็มรูปแบบ ทำให้ทั้งบ้านมีพื้นที่ในการเก็บเสื้อผ้ามากขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบการแต่งตัวและเก็บสะสมสินค้าแฟชั่น Limited Edition ต่างๆ ให้มีพื้นที่แต่งตัวแต่งหน้าและลองชุดเสื้อผ้าต่างๆ เชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องน้ำโดยตรง จาก Layout พื้นฐานที่เป็นแบบ 2 ห้องนอนก็จะกลายเป็นห้องแบบ Penthouse แบบบนชั้น 3 เลยทีเดียว
( ห้องนอนแบบ 2 เตียง + ห้องครอบครัว )
Layout สำหรับครอบครัวที่มีลูกชาย 2 คน ปรับเปลี่ยนห้องอเนกประสงค์เป็นห้องสำหรับครอบครัว เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ และอยากให้มีพื้นที่วิ่งเล่นและมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น
( ห้องนอน + Entertainment )
สำหรับคนที่ชื่นชอบการดูซีรี่ย์และภาพยนต์คงไม่มีอะไรสุขไปกว่านอนดู Netflix ในวันหยุดอีกแล้ว ดังนั้น Layout แบบนี้จึงเปลี่ยนเป็นห้อง Entertainment พร้อมกับใส่ Day bed สำหรับนอนดูหนัง/ซีรี่ย์ รวมไปถึงยังทำเป็นพื้นที่เล่นเกมแบบจัดหนัก, เล่น VR, Playstation 4 ฯลฯ อีกด้วย
Extra Space
พื้นที่ชานพักบันไดที่มีพื้นที่กว้างขึ้น ทำให้เราสามารถประยุกต์หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็น Function ต่างๆตามที่เราต้องการได้ นับเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับ Function พิเศษๆ ที่ใช้พื้นที่ไม่เยอะมาก อาทิ เป็นมุมทำงาน, อ่านหนังสือ, ทำหิ้งพระ หรือ ตู้โชว์ของสะสม เป็นต้น
Extra Storage
ในพื้นที่ Outdoor ของตัวบ้านจะมีตู้เก็บของ Extra Storage ที่สามารถ Access ได้โดยตรงจากทางด้านนอกได้เลยไม่ต้องเข้ามาในบ้าน ทำให้มีพื้นที่ไว้เก็บของที่มักจะต้องใช้บริเวณด้านนอกของตัวบ้าน อาทิ อุปกรณ์ทำสวน, อุปกรณ์สำหรับล้างรถ หรือเครื่องมือช่าง เป็นต้น อีกส่วนจะเป็นพื้นที่ครัว ที่มีการปรับให้เป็นครัวแบบเข้ามุม ทำให้การใช้งานครัวเป็นสัดส่วนมากขึ้นอีกทั้ง เรายังสามารถติดตั้งบ้านสไล์เพิ่มเพื่อป้องกันเรื่องกลิ่นจากการทำอาหารได้อีกด้วย
Pocket Garden
พื้นที่ใส่ส่วนของระเบียงชั้น 2 และ ห้องน้ำในชั้น 3 มีการเพิ่มพื้นที่ในส่วนที่เรียกว่า Pocket Garden สำหรับจัดสวนหรือปลูกต้นไม้ขนาดเล็ก-กลางได้ เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้ามาในตัวบ้านส่งผลให้ตัวบ้านดูร่มรื่นและเย็นสบาย คราวนี้เราจะมีดูกันว่า Pocket Garden ส่วนไหนมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง เริ่มจากจุดแรกที่ระเบียงบริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ทางเข้าจะอยู่บริเวณห้องด้านหน้าของชั้น 2 เป็นประตูบานสวิงกระจกใสเมื่อเปิดออกไปแล้วตัวเพดานของส่วน Pocket Garden นี้จะสูงขึ้นไปถึงชั้น 3 ระยะประมาณ 6 ม. ทำให้หมดกังวลเรื่องความสูงของต้นไม้ที่จะเอามาปลูกได้บ้าง ในส่วนของพื้นนั้นมีการทำท่อระบายน้ำไว้สำหรับรองรับการใช้งานจริง ในส่วนของ Pocket Garden จุดนี้นอกจากจะติดกับห้องนอนด้านหน้าแล้วยังติดกับหน้าต่างของห้องน้ำชั้น 2 อีกด้วย ทำให้เวลาอาบน้ำ เราก็สามารถอาบน้ำไปชมวิวต้นไม้ไปด้วยกันได้นั่นเอง Pocket Garden ในห้องน้ำชั้น 3 นั้นจะมีขนาดเล็กกว่าห้องน้ำชั้น 2 แต่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้สามารถมองออกไปชมวิวสวนได้มากกว่าแทน![]()
หากเปรียบเทียบแบบบ้าน Terraria กับ โครงการบ้านเดี่ยว โดยที่ราคาใกล้เคียงกันในช่วง 4.5 – 5 ลบ. บ้านกลางเมือง จะมีราคาถูกกว่าเล็กน้อย แต่พื้นที่ปรับเปลี่ยนได้มากกว่า อาทิ ห้องนอนแบบ Penthouse เต็มชั้นที่ไม่สามารถทำได้ในบ้านเดี่ยวที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน เป็นต้น
รูปแบบบ้านทาวน์โฮมส่วนใหญ่แล้วจะเน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านโดยเฉพาะทาวน์โฮม 3 ชั้น หมายถึงการที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่มากขึ้นกว่าบ้านเดี่ยวที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากัน พื้นที่ใช้สอยภายในนั้นเป็นจุดเด่นสำคัญของทาวน์โฮม 3 ชั้น
จะเห็นได้ว่า บ้านเดี่ยวนั้นมีพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกสำหรับใช้งานต่างๆ อย่าง ทำสวน เป็นต้น ส่วนทาวน์โฮม 3 ชั้น ถึงแม้จะไม่มีพื้นที่ใช้สอยภายนอกแต่ก็เพิ่มในส่วนของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาแทน
ดังนั้นจึงเหมาะกับวิถีชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ ที่มี Lifestyle ชอบใช้ชีวิต, พักผ่อนหรือทำกิจกรรมภายในตัวบ้านมากกว่า และไม่จำเป็นต้องคอยดูแลพื้นที่ภายนอกตัวบ้านทำให้สามารถใช้เวลาในวันหยุดหรือหลังเลิกงานพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ในด้านพื้นที่ของสวนนั้น เราก็ยังสามารถไปใช้พื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้นั่นเอง
กล่าวได้ว่า หากคุณต้องการจะหาบ้านสักหลังแล้ว เป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน, ไม่ค่อยมีเวลาดูแลพื้นที่สวน และไม่ได้ต้องการพื้นที่นอกตัวบ้าน แบบบ้าน Terraria ที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น น่าจะเป็นคำตอบเข้าคุณ
สรุปทุกประเด็นของ แบบบ้าน Terraria ของโครงการ บ้านกลางเมือง
โครงการเน้นพื้นที่สีเขียว
เนื่องจากวิถีชีวิตคนเมืองที่มักต้องพบกับความเร่งรีบและวุ่นวายภายในกรุงเทพฯ โครงการจึงเน้นพื้นที่สีเขียวของพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้มาใช้พักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงาน รวมไปถึงการที่ในบ้านแต่ละหลังนั้นยังมีการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับให้ผู้อยู่อาศัยทำเป็น Pocket Garden เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านของตนได้อีกด้วย
แบบบ้าน Flexible ยืดหยุ่นตามการใช้งานและ Lifestyle
แบบบ้าน Terraria เป็นแบบบ้านแบบใหม่ของแบรนด์บ้านกลางเมือง ที่มีพื้นที่ใช้สอยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ทั้งพื้นที่ Extra Space บริเวณชานพักบันได และห้องอเนกประสงค์ในชั้น 2 รวมไปถึงพื้นที่ระเบียงของบ้านที่สามารถปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีอีกด้วย
