ORIGIN PROPERTY PUBLIC COMPANY LIMITED
ผลประกอบการปี 2017 และ แผนธุรกิจปี 2018
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ORIGIN.CO.TH
• 020-300-000
NEWS UPDATE
Info : yusabuy 31 Jan 2561ORIGIN ประกาศมุ่งเดินหน้าสร้างอาณาจักรออริจิ้น หรือ The Empire of Originโดยจะให้ความสำคัญด้านอสังหาฯ แบบครบวงจร ทั้งคอนโด บ้านแนวราบ โครงการร่วมทุนกับต่างชาติ โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้หมุนเวียน รวมถึงมีธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์อย่างครบถ้วน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกเซ็กเมนท์
สำหรับก้าวแรกของการสร้างอาณาจักรออริจิ้น บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการระดับ Luxury มากขึ้น โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการ Mixed Use ผสานกับโครงการคอนโดมิเนียม 3 ทำเล เพื่อสร้างโครงการ Flagship ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Park Origin Complex” รวมมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท ในทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ พร้อมพงศ์ ทองหล่อ และพญาไท ให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ด้านการอยู่อาศัยของโลก ที่ผู้บริโภคจะให้น้ำหนักกับการเข้าอยู่อาศัยในโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบวงจร ขณะนี้ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณารายละเอียดของการพัฒนาแต่ละโครงการ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ถึงเป้าหมายดังกล่าว เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ถึงเป้าหมายดังกล่าวในแต่ละส่วนได้แก่ ได้แก่
- นายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ดูแลด้านการร่วมทุน (Joint Venture)
- นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ กรรมการผู้จัดการโครงการแนวราบ ดูแลธุรกิจบ้านแนวราบ
- นางจตุพร ผิวขาว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออริจิ้น วัน จำกัด ดูแลธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ธุรกิจค้าปลีก สำนักงานเช่า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการขายและการเช่า
สำหรับปี 2561 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่า 26,000 ล้านบาท และโครงการบ้านแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ขณะที่วางเป้ายอดขายไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 43% เป้ารายได้ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 67%
ด้านนายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ผู้ดูแลด้านการร่วมทุน กล่าวว่าที่ผ่านมา บริษัทมีพาร์ทเนอร์หลักคือบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ ร่วมทุนในโครงการคอนโดมิเนียมแล้ว 5 โครงการ และโครงการโรงแรมอีก 1 โครงการ ในอนาคตบริษัทยังเปิดกว้างโอกาสในการร่วมทุนในธุรกิจประเภทอื่นๆ ทั้งโครงการแนวราบ คอมมูนิตี้มอลล์ สำนักงานให้เช่า ไปจนถึงธุรกิจแวร์เฮาส์ คาดว่าระยะยาวจะมีรายได้ที่เกิดจากธุรกิจร่วมทุนราว 20–30% ของรายได้รวม
ด้านนางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ผู้ดูแลโครงการแนวราบกล่าวว่า ในปี 2561 จะเปิดตัวโครงการใหม่ อีก 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท เน้นทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และทำเลระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ครอบคลุมทั้งทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ราคา 3–5 ล้านบาท บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคา 5–8 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว ราคา 8–20 ล้านบาท ตั้งแต่ระดับ Economy , Premium , Prestige โดยจุดขายโครงการแนวราบแบรนด์ BRITANIA จะเน้น
- Location ที่เน้นเจาะพื้นที่บลูโอเชียนที่การแข่งขันไม่สูงมาก แต่เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพรองรับการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่ชานเมือง
- Function ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงๆ ของผู้บริโภค
- Style ที่ดูเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งในแง่สถาปัตยกรรมและสภาพแวดล้อมโครงการ
ด้านนางจตุพร ผิวขาว ดูแลด้านธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน ประกอบไปด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่า เช่น โรงแรม Service Apartment, สำนักงานเช่า , คอมมูนิตี้มอลล์ โดยจะเน้น
- Great Location เกาะทำเลศักยภาพอย่างสุขุมวิทที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป (Leisure Traveler) และนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Business Traveler) รวมถึงทำเลอีอีซีที่มีศักยภาพในการเติบโต
- Great Service หากเป็นโรงแรมจะใช้เชนจากต่างประเทศเข้ามาช่วยบริหาร เพื่อให้เกิดบริการมาตรฐานสากล
- Mixed Use ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่
โดยธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เราตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี จะมีจำนวนห้องพักอยู่ในระดับ Top Ten ของเมืองไทย ขณะที่ในแง่ธุรกิจบริการ เราตั้งเป้าว่าจะเติบโตจนมี Service Chain ของตัวเอง คอยบริการผู้บริโภค