จากเหตุอาคาร ยูเพลสคอนโดมิเนียม ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลคลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พังถล่มราบลงมาขณะทำการก่อสร้างเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2557 เวลา 16.20 น. ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ลงสำรวจพื้นที่พิบัติภัยอาคารคอนโดที่กำลังก่อสร้างพังถล่มลงมาในวันที่ 11-12 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้นำแบบแปลนก่อสร้างของโครงการนี้มาประกอบเพื่อศึกษาวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ตึกถล่มลงมาศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า อาคารยูเพลสคอนโดมิเนียม เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 6 ชั้น มีจำนวน 4 หลัง สร้างเสร็จแล้ว 2 หลัง โดยอาคาร 4 ได้พังถล่มลงมา ภาพรวมของปัญหาสาเหตุของอาคารถล่มครั้งนี้ มี 3 ประเด็น ที่ต้องตรวจสอบทางวิชาการวิศวกรรมโดยละเอียด คือ
1. แบบอาคาร การรับน้ำหนักบรรทุกและการกำหนดมิติของโครงสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรมหรือไม่ 2. วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีคุณภาพ และมาตรฐานหรือไม่ 3. วิธีการก่อสร้าง ขั้นตอนการก่อสร้าง การควบคุมงาน ถูกต้องตามหลักวิชาการหรือไม่
ทั้งนี้ในประเทศไทย โดย วสท. ได้จัดทำมาตรฐานการออกแบบ การควบคุมงาน ความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง และจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด รองศาสตราจารย์ เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. กล่าวว่า “จากการสำรวจโครงสร้างของอาคาร และตรวจสอบแบบแปลนแล้วพบว่ามีความเป็นไปได้ที่เสาอาคารมุมอาคารด้านหนึ่ง ซึ่งในอาคารที่สร้างเสร็จแล้วมีร่นขอบแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงท้องเรียบเข้าภายในอาคาร เพื่อเมื่อติดตั้งแผงคอนกรีตสำเร็จรูปแล้วจะเติมเต็มตามขอบแผ่นพื้น ซึ่งการดำเนินการนี้อาจมีผลกระทบกับกำลังรับแรงเฉือนเจาะ (punching shear) ของแผ่นพื้น ประกอบกับเสามุมรับน้ำหนักบรรทุกน้อย แต่ต้องรับการบิด (torsion) ทั้งสองแกนของเสา ซึ่งประกอบกับการเทคอนกรีตบริเวณนั้น อาจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่ำทำให้คอนกรีตสดอาจกองอยู่บริเวณนั้น ทั้งนี้กรณีที่มีนั่งร้านค้ำยันในการก่อสร้างแผ่นพื้นนั้นมีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้เสาต้นดังกล่าวมีการสูญเสียตำแหน่งอย่างมาก และพังทลายลง และน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดที่เสาต้นนี้เคยรับจะส่งไปที่เสาข้างเคียง และมีการวิบัติอย่างต่อเนื่อง (progressive collapse) จนอาคารทั้งหลังวิบัติทั้งหมด (total collapse)
"ทั้งนี้การจะได้อาคารที่ดี ควรประกอบด้วย 1. การออกแบบดี 2. การมีข้อกำหนดด้านวัสดุที่ดี และเพียงพอ เหมาะสม 3. การก่อสร้าง และ 4. การบำรุงรักษา และซ่อมแซม" รองศาสตราจารย์ อเนกกล่าว
รองศาสตราจารย์ เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. กล่าวว่า “จากการสำรวจโครงสร้างของอาคาร และตรวจสอบแบบแปลนแล้วพบว่ามีความเป็นไปได้ที่เสาอาคารมุมอาคารด้านหนึ่ง ซึ่งในอาคารที่สร้างเสร็จแล้วมีร่นขอบแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงท้องเรียบเข้าภายในอาคาร เพื่อเมื่อติดตั้งแผงคอนกรีตสำเร็จรูปแล้วจะเติมเต็มตามขอบแผ่นพื้น ซึ่งการดำเนินการนี้อาจมีผลกระทบกับกำลังรับแรงเฉือนเจาะ (punching shear) ของแผ่นพื้น ประกอบกับเสามุมรับน้ำหนักบรรทุกน้อย แต่ต้องรับการบิด (torsion) ทั้งสองแกนของเสา ประกอบกับการเทคอนกรีตบริเวณนั้น อาจดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่ำทำให้คอนกรีตสดอาจกองอยู่บริเวณนั้น ทั้งนี้กรณีที่มีนั่งร้านค้ำยันในการก่อสร้างแผ่นพื้นนั้นมีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้เสาต้นดังกล่าวมีการสูญเสียตำแหน่งอย่างมาก และพังทลายลง และน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดที่เสาต้นนี้เคยรับจะส่งไปที่เสาข้างเคียง และมีการวิบัติอย่างต่อเนื่อง (progressive collapse) จนอาคารทั้งหลังวิบัติทั้งหมด (total collapse)Info : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย