realist-blog-logo
facebook-logo youtube-logo instagram-logo line-logo tiktok-logo
thelist-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
realist-blog-logo
 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon
 
 

BAAN NAWAT

 
บ้านนวัต เป็นโครงการบ้านเดี่ยวของ บริษัท พรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาฯ อย่างยาวนาน และมีโครงการเด่นๆของบริษัทอย่างเช่นโครงการ Tamarind Village เชียงใหม่ และ Rayavadee กระบี่ เป็นต้น โดยบ้านนวัตจะมีทั้งหมดสองโครงการ คือ บ้านนวัต พระราม9 กับ บ้านนวัต เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งทั้งสองโครงการจะมีแบบบ้านรูปแบบเดียวกันแตกต่างกันที่ขนาด ข้อเด่นของบ้านคือ เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน และความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังมีจำนวนหลังในโครงการที่น้อยมาก เพียง 6-8 หลัง เท่านั้น
ราคาเริ่มต้นของบ้านจะอยู่ที่ 35 ลบ. มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 550 ตร.ม. บนที่ดิน 84 ตร.วา ในทำเลที่ใกล้กับถนนใหญ่ทั้งสองโครงการ ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถทำได้โดยสะดวกในระดับหนึ่ง ในครั้งนี้ทาง Realist จะมาวิเคราะห์ถึงประเด็นเด่นๆเกี่ยวกับโครงการนี้ให้ผู้อ่านได้ใช้พิจารณาเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยในบทความจะเน้นเรื่องการวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของตัวบ้านเป็นหลัก มากกว่าการเน้นเรื่องทำเล เพราะโครงการมีการออกแบบตัวบ้านได้น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการประหยัดพลังงาน หรือแนวคิดแบบ Sustainable Design
.

Fact

Project Name : Baan Nawat (บ้านนวัต) Developer : บริษัท พรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด
1. เอกมัย-รามอินทรา Location : Ramkhamhaeng21 Wangthonglang Bangkapi Bangkok Land area 1 : 1-3-99 ไร่ No. of Units : 6 หลัง Unit Type : 1 Type (660 ตร.ม.)
2. พระราม 9 Location : Krungthep Kreetha 8 Lane 14 Huamark Bangkapi Bangkok Land area : 2-0-0 ไร่  No. of Units : 8 หลัง Unit Type : 1 Type (550 ตร.ม.)
Facilities : Access control, 24-hours security , CCTV , Electrical Fencing Expected Completion : สร้างเมื่อเริ่มจองและทำสัญญากับโครงการ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีครึ่ง Common Expense : ราคาเริ่มต้น 35 ลบ. , ค่าสาธารณูปโภค พระราม9= 10,000บ./เดือน ,เอกมัย-รามอินทรา= 14,000บ./เดือน, เงินจอง = 500,000 บ. , ทำสัญญา = 500,000 บ. 
บ้านนวัต มาจากคำว่า "บ้านนวัตกรรม" ครับ เพราะที่นี่มีจุดเด่นในเชิง detail ในการประหยัดพลังงานอยู่มากจริงๆ (Eco Friendly Home) ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังเป็นข้อ ๆ อีกทั้งยังมีข้อดีคือ เป็นบ้านหรูที่มีจำนวนหลังภายในโครงการน้อย มีความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ Premier Assets นั้นมีประสบการณ์ในด้านอสังหาฯ ที่ยาวนาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น โรงแรม และรีสอร์ท
การวางผังของอาคารก็เป็นอีกหนึ่งข้อเด่น คือการวางอาคารตามทิศลมแดดโดยด้านยาวถูกวางให้ขวางตะวัน บ้านจึงได้รับลมอย่างเต็มที่ และมีสภาวะน่าสบาย หรือในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ให้มาอย่างครบครัน ตอบโจทย์กับครอบครัวแบบขยายที่มีตั้งแต่สามช่วงวัยขึ้นไป คือ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
.

1. สร้างโดย Premier Assets ซึ่งมีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาอย่างยาวนาน

.

โครงการในเครือ Premier Assets

99 Residence , Rama9 โครงการบ้านพักอาศัยบนถนนพระราม 9 บ้านหรูระดับ Luxury โดยมีสภาพแวดล้อมคล้ายกับชุมชนขนาดเล็กที่มีคุณภาพ สงบ และ เป็นส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 50 ลบ. 
Ratavadee , Krabi รีสอร์ทหรู ตั้งอยู่บนแหลมพระนางบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ ออกแบบเป็นบ้านพักแบบ Tropical Design ท่ามกลางต้นไม้ และวิวทะเล
Tamarind Village , Chiang Mai แทมมาริน วิลเลจ เป็นโรงแรมขนาดเล็กภายในเมืองเก่าของเชียงใหม่ ห้องพัก 41 ห้องและห้องสวีท 5 ห้อง การออกแบบเน้นความเรียบง่ายแฝงด้วยรายละอียดของสถาปัตยกรรมแบบพื้นถิ่น
.

2. เป็นบ้านหรูแบบ Luxury Compound จำนวนหลังน้อย ความเป็นส่วนตัวสูง

.

อะไรคือ Luxury Compound ?

Luxury Compound เป็นโครงการบ้านหรูแบบปิด (มีรั้วรอบโครงการ) มีจำนวนหลังที่ไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะมี Location อยู่ในเมือง และให้ spec วัสดุที่ราคาค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบบ้านเดี่ยว

ตัวอย่างโครงการแบบ Luxury Compound

Quarter Thonglor , ทองหล่อ 25

Parc Priva , ถ.เทียมร่วมมิตร

The Honor , ลาดพร้าว 81

BANN NAWAT ทั้ง 2 โครงการมีจำนวนบ้านเพียง 8 หลัง กับ 6 หลังเท่านั้น

BANN NAWAT เอกมัย-รามอินทรา
BANN NAWAT พระราม 9
เนื่องจากบ้านมีจำนวนหลังที่น้อย จึงมีข้อดีคือ ตัวโครงการมีความเป็นส่วนตัวที่ค่อนข้างสูง สงบ เพราะทุกหลังมีสระว่ายน้ำของตัวเองอยู่แล้ว ค่าส่วนกลางจึงมีเพียง รปภ. รักษาความปลอดภัย และประตูรั้วทางเข้าโครงการก็สามารถ ควบคุมผ่านรีโมท ดูผ่านจอในบ้านได้ ถ้าเพื่อนมาบ้าน เราก็สามารถเปิดประตูรั้วใหญ่ให้เองได้เลย 
การซื้อบ้านจะเป็นแบบสั่งสร้าง โดยจองและทำสัญญากับโครงการ ใช้เวลาสร้างประมาณ 1 ปีครึ่ง พื้นที่แต่ละแปลงลงเสาเข็มไว้แล้วทั้งหมด ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องฝุ่นเมื่อทำการก่อสร้าง และโครงการยังแยกทางเข้าไว้อีกด้วย
.

3. บ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยสมราคา

พื้นที่ใช้สอยของโครงการบ้านนวัตจะแบ่งเป็น 2 ขนาดคือ โครงการบ้านนวัต พระราม 9 จะมีพื้นที่ 550 ตร.ม. (กว้าง 12.3 ม. ลึก 27 ม.) และ เอกมัย-รามอินทรา จะมีพื้นที่ 660 ตร.ม. (กว้าง 13 ม. ลึก 34 ม.) โดยพื้นที่ Highlight หลักๆที่จะกล่าวถึงในบทวิเคราะห์ทั้งหมด 4 จุด คือ 1. Swimming Pool 2. ส่วน Living & Dining Area 3. Master Bedroom 4. Bedroom 3 ซึ่งแต่ละส่วนของบ้านก็ยังมีการออกแบบที่คำนึงเรื่อง Sustainable อยู่เป็นหลัก ทำให้บ้านเกิดสภาวะน่าสบาย และประหยัดพลังงาน ในส่วนของการวิเคราะห์ ทาง Realist จะเลือก Site พระราม9 ในการวิเคราะห์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นโครงการที่มีบ้านตัวอย่างตั้งอยู่ ทำให้เห็นภาพทั้งเรื่องการวางผัง และลักษณะของตัวบ้าน
.

Surroundings

โครงการบ้านนวัต พระราม9 ตั้งอยู่ในย่านกรุงเทพกรีฑา ภายในซ.กรุงเทพกรีฑา 8 แยก 14 เลี้ยวเข้ามาจากมอเตอร์เวย์ ตามป้ายถ.กรุงเทพกรีฑา เข้ามานิดเดียว โครงการอยู่ซ้ายมือ การสัญจรหากเดินทางด้วยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด สามารถทะลุได้หลายเส้นทางทั้ง พระราม 9, ศรีนครินทร์, รามคำแหง และในอนาคตบริเวณ ถ.กรุงเทพกรีฑาตัดถ.ศรีนครินทร์ จะมีเส้นรฟฟ. สายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา (BTS) ตัดผ่าน 
นอกจากรฟฟ.แล้ว ย่านนี้ยังมีถนนเส้นใหม่ที่กำลังตัดผ่าน คือ ถ.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ซึ่งสร้างมาช่วยเรื่องการจราจร ระบายรถในพื้นที่กรุงเทพฯโซนตะวันออก น่าจะแล้วเสร็จทุกเฟสปี 2561 บริเวณโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 แยก 14 นี้ถือเป็นซอยที่มีบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ราคาแพงอยู่หลายหลัง หนึ่งในนั้นก็คือ บ้านของคุณแอ๊ว ศุภลักษณ์ อัพพุชแห่งเดอะมอลล์ กรุ๊ปนั่นเอง 
อ่านบทความเรื่องย่านกรุงเทพกรีฑา คลิก .

Master Plan

การวางผังของโครงการถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี อาจด้วยลักษณะของขอบเขตที่ดินโครงการที่เป็น สี่เหลี่ยมจตุรัส ทำให้สามารถบริหารจัดการได้ง่าย โครงการเลือกออกแบบบ้านให้เป็นแนวยาวบนที่ดินที่ถูกแบ่งแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยวางแบบขวางตะวัน ซึ่งถูกต้องตามหลัก Orientation ทำให้บ้านไม่ร้อน และลมเข้าตลอดปี
การวาง Function ของตัวบ้าน เลือกหันสระว่ายน้ำมาเจอกัน เพราะเป็นส่วนเปิดโล่งของแต่ละหลัง การวางแปลนแบบนี้มีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคือ ทุกบ้านมีความโปร่งโล่ง บ้านดูห่างกันมากขึ้นไปอีก แต่ข้อด้อยคือเวลาเรายืนอยู่ชั้นบนก็จะเห็นอีกบ้านว่ายน้ำอยู่ ในทางกลับกันเค้าเห็นเราเหมือนกัน เรียกว่าความ Private ลดลงเล็กน้อย 
.ด

เปลือกอาคารและงานดีไซน์

1) ด้านหน้าของตัวบ้าน  ชั้น1 จะเป็นส่วนของที่จอดรถ ซึ่งจอดได้ประมาณ 3 คัน ประตูเป็นแบบอัตโนมัติ (ถ้ามีคนเดินผ่าน ประตูจะเลื่อนกลับทันที เป็นระบบ security กันคนโดนหนีบ) ทางด้านขวามือเป็นห้องเครื่อง ถัดไปด้านในเป็นสระว่ายน้ำที่ถูกกั้นด้วยฉากลายฉลุ ซึ่งทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง ส่วนชั้น 2 ของบ้านด้านนี้จะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งเป็นอีกหนึ่งส่วน Highlight ของโครงการ ด้านนอกเป็นส่วนระเบียง ซึ่งใช้ระแนงไม้กั้นไว้ เพื่อบังแดด และสร้างความเป็นส่วนตัว
2) ด้านข้างของตัวบ้านฝั่งสระว่ายน้ำ เป็นด้าน Highlight ของบ้าน เนื่องจากมีช่องเปิดมากที่สุด ด้านซ้ายมือของภาพ ส่วนระแนงทำหน้าที่เป็นการ Decoration และช่วยบังแดดให้แก่ห้องนอนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนตรงกลางจะเป็นโถงบันได ซึ่งในชั้น 2 จะเป็นส่วน Family Area ซึ่งการมีช่องเปิดค่อนข้างใหญ่ ทำให้ส่วนนี้ได้รับแสงสว่างอย่างเต็มที่ในตอนกลางวัน และส่วนที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในด้านนี้คือระเบียงยาวเชื่ิอมต่อทุกห้อง ซึ่งถูกออกแบบให้ยื่นออกมารอบบ้านทั้งชั้น 2 และชั้น 3 โดยถือว่ามีขนาดที่ใหญ่พอสมควร
3) รูปด้านฝั่ง Service  เป็นด้านที่มีช่องเปิดน้อยที่สุด แต่ก็ยังถูกออกแบบให้มีเส้นสายจากการลดหลั่นกันของ Function ด้านใน ช่องเปิดที่ชั้นสองเป็นบริเวณโถง Family Area ซึ่งทำให้ได้รับแสงสว่างจากทั้งสองด้าน ด้านล่างของบ้านเป็นห้องแม่บ้านและครัว ทำให้ค่อนข้างปิดทึบ โครงการเลือกด้านนี้ของบ้านหันหน้าเข้าหากันในผัง 
.

วิเคราะห์ผัง ดูภาพรวม

เมื่อทำการคลี่ผังของบ้านออกมาเพื่อดูแต่ละจุด จะพบว่าจุดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ที่การวาง Function อย่างเต็มพื้นที่ และแบ่งสัดส่วนอย่างเป็นระบบ ปกติแล้วบ้าน Luxury แบบนี้จะชอบทำ Double Volume บริเวณโถงรับแขกหรือส่วนรับประทานอาหารเพื่อทำพื้นที่ให้ดูโปร่ง โล่ง แต่ข้อเสียคือพื้นที่ชั้นสองจะหายไปค่อนข้างเยอะ ซึ่งการที่บ้านหลังนี้ไม่มี Double Volume ก็ถือเป็นข้อดีที่ทำให้สามารถใช้งานชั้นสองได้อย่างเต็มที่ ในรูปส่วนต่างๆของบ้านจะถูกแบ่งสีเพื่อพิจารณาเป็นโซนๆ ดังนี้ 1) ส่วนสีแดง Semi-Public Area (พื้นที่กึ่งสาธารณะ เป็นพื้นที่กลางที่อาจจะมีบุคคลภายนอกเข้ามาใช้ได้บ้าง) 2) ส่วนสีเหลือง Public Area (พื้นที่สาธารณะ ทุกคนในบ้านรวมถึงแขกจากภายนอกสามารถใช้งานได้อิสระ) 3) ส่วนสีม่วง Service Area (พื้นที่หลังบ้าน เช่นห้องครัว และซักล้าง) 4) ส่วนสีส้ม Semi-Private  Area (พื้นที่กึ่งส่วนตัว เป็นส่วนกลางสำหรับให้คนในบ้านใช้งานเท่านั้น) 5) ส่วนสีเขียว Private Area (พื้นที่ส่วนตัว เป็นห้องส่วนตัวของแต่ละบุคคลภายในบ้าน)
 
.

เปิดบ้าน ดูส่วนที่เป็นไฮไลท์

 

1) Swimming Pool ขนาด 11 x 3 ม.

สระว่ายน้ำ ขนาด 11 x 3 ม. วางเป็นแนวยาวขนานไปกับตัวบ้าน จากที่เห็นพบว่าขนาดของสระอาจดูไม่ได้ใหญ่มาก ว่ายแบบเต็มสตรีมอาจจะยาก จึงเหมาะสำหรับใช้งานเบาๆ อย่างการว่ายเล่นเพื่อพักผ่อน หรือทำเป็น Pool Party 
ในรูปที่สอง จะพิจารณาความเป็นส่วนตัวของสระว่ายน้ำซึ่งติดกับที่ดินของอีกหลัง ตามในผังคือสระว่ายน้ำของทั้งสองหลังจะอยู่ติดกัน โดยสระว่ายน้ำทั้งสองจะทำหน้าที่เป็นตัวกั้นให้ระยะห่างของอาคารอยู่ไกลจากกัน และมีทัศนียภาพที่ดี แต่เมื่ออยู่ชั้นที่ 2 และ 3 ของบ้านจะสามารถมองลงมาเห็นผู้ที่กำลังใช้งานสระว่ายน้ำอยู่
 

2) Living & Dining Area ขนาด 40 ตร.ม.

ส่วนรับแขกและรับประทานอาหาร ด้วยขนาดพื้นที่ 40 ตร.ม. ถือว่าเป็นพื้นที่ขนาดปานกลาง หากมองจากผังแล้วเปรียบเทียบโดยรวม อาจจะดูเล็กไปสักหน่อยสำหรับบ้านราคาระดับนี้ สังเกตว่าตอนนี้ใส่โต๊ะอาหาร 4 ที่นั่งพร้อม bench แบบไม่มีพนักทำให้ space โล่ง แต่ถ้าใส่โต๊ะทานอาหารตัวใหญ่ขึ้น บวกกับเก้าอี้มีพนักพิง ก็อาจจะดูเต็มห้องทีเดียว
ข้อดีของผังนี้คือ ความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างส่วนกลางของบ้านกับสระว่ายน้ำภายนอก ทั้งเรื่องแสงสว่าง และลม ก็ได้รับอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดสภาวะน่าสบายขึ้นภายในบ้าน และให้ความรู้สึกน่าใช้งาน
 

3) Master Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.

ห้องนอนใหญ่ เป็นอีกส่วนหลักของบ้าน ถูกออกแบบมาให้กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นสอง ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของห้องจะอยู่ที่ 2.8 ม. จุดเด่นคือมีห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับห้องน้ำ (จริงๆแนะนำว่าน่าจะมีประตูเข้า walk-in closet แยกอีกทาง จะสะดวกกว่า) รวมถึงระเบียงนั่งเล่นภายนอก ที่มีขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน
เมื่อพิจารณาจากผังแล้ว ห้องนี้ถือว่าทำได้ดี เนื่องจากถูกวางไว้เป็นห้องหัวมุม (สิ่งนี้เป็นข้อเด่นเลย คือ สถาปนิกคิดมาแล้วว่าห้องนอนทุกห้องถูกทำให้เป็นห้องหัวมุม มีความ Private) ทำให้สามารถเปิดรับมุมมองภายนอกได้อย่างเต็มที่ และก็ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน แต่ตัวบ้านมีระแนงอลูมิเนียมลายไม้กั้นซึ่งช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้ในระดับหนึ่ง
 

4) Bedroom 3 ขนาด 30 ตร.ม. 

ห้องนอนในชั้น 3 โดยภาพรวมถือว่าทำออกมาได้ลงตัวกว่า Master Bedroom ในชั้น 2 เนื่องจากลดขนาด Walk-in Closet ลง เอาอ่างอาบน้ำออก ทำให้พื้นที่ภายในห้องนอนโปร่งและดูกว้างขึ้น
ด้านนอกห้องเป็นระเบียงนั่งเล่นขนาดใหญ่ การออกแบบห้องนอนนี้ ทำมาเพื่อรองรับการใช้งานของเจนเนอเรชั่นรุ่นลูกที่เพิ่งเริ่มมีครอบครัว หรือเพิ่งแต่งงาน ต้องการพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ยังคงอยู่ร่วมกันภายในครอบครัวใหญ่
 

5) ลิฟท์ขนาดเล็ก (Home Lift) แต่รองรับการใช้งานรถเข็นวีลแชร์

 

.4. บ้านแนวคิด Sustainable & Eco-Friendly

กล่าวไปในตอนต้นว่านี่คือ "บ้านนวัตกรรม" จะตอบโจทย์มากถ้าคุณรักการประหยัดพลังงาน เพราะที่นี่เน้นการระบายอากาศแบบ Passive Cooling (เน้นการพึ่งพาธรรมชาติ) อย่างแรกเลยที่โครงการทำในขั้นตอนการออกแบบคือการวางผังอาคาร และนำมา simulate ในคอม เพื่อดู Ventilation ของแดดและลม เพื่อให้บ้านอยู่สบาย ลมเข้าบ้านตลอดปี เมื่อพิจารณาเรื่องเปลือกอาคารในหัวข้อที่ผ่านมา จะพบว่าอาคารถูกออกแบบให้กันแดด กันฝนได้จริง ทั้งการใช้ระแนงกันแดด และการยื่นพื้นอาคารออกมาเพื่อกันฝนให้ชั้นล่าง ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการออกแบบขั้นพื้นฐานของบ้านเท่านั้น แต่ส่วนที่ถูกเสริมเข้ามาคือ วัสดุ และระบบต่างๆ ที่สถาปนิกโครงการนำมาใช้กับตัวบ้าน ระบบแอร์ของบ้านทั้งหลังเป็นแบบ VRV* ซึ่งโดยปรกติเป็นการระบายความร้อนด้วยอากาศ แต่อันนี้จะเป็นการระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้สามารถนำน้ำที่มีความร้อน ส่งต่อให้เครื่องทำน้ำอุ่น ทำให้ได้น้ำอุ่นใช้ฟรีๆ ซึ่งถ้าความร้อนในระบบเหลือใช้ ก็จะส่งต่อไปที่สระว่ายน้ำ กลายเป็นสระน้ำอุ่น  และยังมีการนำน้ำที่ใช้แล้วผ่าน treatment tank เป็นการบำบัดน้ำด้วยออกซิเจน ซึ่งถ้าผ่าน UV อีกที จะสามารถเป็นน้ำดื่มได้เลย! แต่ที่นี่เราเอาไว้รดน้ำต้นไม้กันครับ ถือเป็นการใช้น้ำได้คุ้มค่ามาก  นอกจากนั้นยังมีการใช้กระจกนิรภัยตัดแสง ที่มีฟิล์มตรงกลาง ลดการนำความร้อนของแดดเข้าสู่ตัวบ้าน หรือผนังสองชั้น ที่ทำจากอิฐมวลเบา และช่วยในเรื่องการระบายอากาศ เรียกได้ว่าเป็นบ้านประหยัดพลังงานที่ทำได้อย่างครบวงจร โครงการหนึ่งเลยทีเดียว *VRV คือ ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ที่ชุดภายนอกหรือคอนเดนซิ่งหนึ่งชุดสามารถเชื่อมต่อชุดภายในหรือแฟนคอยล์ได้สูงสุดถึง 64 เครื่อง ผสานเทคโนโลยี VRT (Variable Refrigerant Temperature) ที่สามารถปรับอุณหภูมิของน้ำยาตามสภาวะอากาศ จึงช่วยให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
ด้านซ้ายเป็นจอแสดงผล Report กระแสไฟฟ้าที่ได้จาก Solar cell ซึ่งเราสามารถเช็คแบบ real time จากมือถือหรือจอโทรทัศน์ (ถ้าต่อ WIFI) ได้เลย  เรียกว่าค่อนข้างใช้งานง่าย และเห็นผลเป็นรูปธรรม
  1) Grill
ระแนงกันแดด นอกจากจะช่วยในการบังแดดไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้านโดยตรงแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นส่วน Decoration ให้กับรูปด้านอาคารอีกด้วย 
ตัวบ้านถูกออกแบบมาให้ได้รับแสงสว่างอย่างเต็มที่ในตอนกลางวัน แต่ก็ยังมีส่วนของชายคาที่ช่วยกันแดดในช่วงเวลา 8.00-16.00 น. ตัวบ้านจึงไม่ได้รับแดดโดยตรง

2) Double Wall มีช่องระบายอากาศด้วย

Double Walling หรือ ผนังสองชั้น ใช้การก่อสร้างแบบ Conventional โดยสถาปนิกเลือกวัสดุเป็น อิฐมวลเบา ข้อดีคือ กันน้ำซึม มีรูพรุนแต่ไม่ทะลุถึงกัน ทำให้ผนังหายใจได้ ช่วยระบายอากาศ และไม่อมความร้อน 
ผนังสองชั้นส่วนอาคารจะใช้กับตัวบ้านในทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ร้อนที่สุด ใช้งานร่วมกับ Double Glazing 

3) Double Glazing

โครงการได้เลือกวัสดุในการก่อสร้างที่ค่อนข้างดีมาใช้ ส่วนช่องเปิดใช้กระจกสองชั้นและติดฟิล์มตรงกลาง 
ตัวโครงเป็นบานกรอบอลูมิเนียมของญี่ปุ่น (Tostem) ซึ่งทำงานเหมือนระบบประตูรถยนต์ทำให้เวลาเปิดปิดทำได้เงียบ ไร้เสียงรบกวน อีกทั้งยังกันน้ำและฝุ่น และมีระบบล๊อก 3 ชั้น และกระจกนิรภัยอีกด้วย

4) Cellulose Bitumen Sheet Roof & Solar cell

ส่วนของหลังคา สถาปนิกเลือกใช้ Cellulose Bitumen Sheet Roof ยี่ห้อ Onduline ลักษณะคล้ายกับ กระเบื้องลอนเล็ก ถึงมีหน้าตาธรรมดาแต่มีจุดเด่นคือ น้ำหนักเบา ทำให้โครงสร้างหลังคาไม่รับภาระมาก รวมถึงไม่มีเสียงรบกวนเวลาฝนตก และมีฉนวนกันความร้อนภายในตัว
อีกจุดหนึ่งซึ่งเป็นข้อเด่นของตัวบ้านคือ แผง solar cell ซึ่งวางไว้ 11 แผงสร้างไฟฟ้าได้ประมาณ 3,000 watt ซึ่งนำมาใช้กับระบบบำบัดน้ำ แอร์ และตู้เย็น แต่ไม่มีแบตเตอรี่มาให้จึงสามารถใช้ได้เพียงตอนกลางวัน (วันต่อวัน) ไม่สามารถเก็บกักไฟไว้ใช้ในวันต่อไป แต่ก็มีจุดดีตรงที่เราไม่ต้อง maintenance แบตเตอรี่

5) แอร์ระบบ VRV 

แอร์ระบบ VRV เป็นคอยล์ร้อนทำหน้าที่ควบคุมแอร์ทั้งหมด 11 ตัว ของบ้าน มี Cost การติดตั้งสูงกว่าระบบ split type 1.5 เท่า แต่ประหยัดไฟกว่า ซึ่งโครงการติดมาให้แล้ว จุดเด่นของระบบคือ เปิดแอร์ 1 คืน จะมีน้ำร้อนใช้ 3 วัน โดยความร้อน (ที่มีเหลือจากระบบ) จะสามารถถ่ายเทจากแอร์ไปสู่สระว่ายน้ำ ทำให้กลายเป็นสระน้ำอุ่นได้ โดยถือว่าเป็นการระบายความร้อนด้วยน้ำไปในตัว

 .

5. เปิดตัว 2 ทำเล - กรุงเทพกรีฑาซ.8 และ รามคำแหง

ทั้งสองย่านเรียกว่าอยู่ในโซนกรุงเทพตะวันออก บ้านนวัตพระราม 9 อยู่ตรงซ.กรุงเทพกรีฑา 8 แยก 14 สามารถเข้า-ออกได้ 3 ทางหลัก ๆ คือ มอเตอร์เวย์ (ง่ายสุด), ทางศรีนครินทร์ตัดกรุงเทพกรีฑา ซึ่งขณะนี้ออกได้อย่างเดียว เข้าไม่ได้ เพราะกำลังทำถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า รถค่อนข้างติดตอนเช้า และต่อไปตรงนี้จะมีสถานี BTS ศรีกรีฑา (สายสีเหลือง)  และอีกทางคือ ซ.รามคำแหง 60 
ส่วนบ้านนวัตเอกมัย-รามอินทรา อยู่ตรงซ.รามคำแหง 21 แยก 9 สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือ ถ.รามคำแหงและถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ถ้าคุณทำงานตรงพระราม 9 ตรงนี้ถือว่าสะดวกมาก 
.

พระราม 9

ข้อดีของย่านพระราม 9 คือ อยู่ใกล้กับ แอร์พอร์ตลิงค์สถานีหัวหมาก (ปัจจุบัน) มีทั้งรถไฟฟ้าใหม่และถนนใหม่ ทำให้บริเวณโดยรอบเริ่มพัฒนาและขยับขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนการเดินทางสัญจรด้วยรถยนต์ ก็ถือว่าสามารถเดินทางได้สะดวกพอสมควร จากการที่โครงการอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลง ทางด่วน ในเรื่อง Facilities ก็มีเด่นๆเช่น The Nine และ Curve ซึ่งเป็น Community mall ขนาดเล็กในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยกัน

เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา

เจ้าของโครงการ : บริษัท แสนสิริ จำกัด มหาชน ราคา : 8.39 - 25 ลบ. จำนวนหลัง : 314 หลัง พื้นที่ใช้สอย : 156 - 393 ตร.ม.
หลังใหญ่สุดมีการจัดสรรพื้นที่ได้ค่อนข้างลงตัว ข้อดีคือราคาถูกกว่า แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยที่น้อยกว่า ไม่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และมีจำนวนหลังที่ค่อนข้างเยอะ คือ 314 หลัง เมื่อเทียบกับโครงการบ้านนวัต ซึ่งมีเพียง 6-8 หลัง ทำให้ด้อยกว่าในเรื่องความเป็นส่วนตัว

บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9

เจ้าของโครงการ : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ราคา : 27.9-45  ลบ. จำนวนหลัง :  52 หลัง พื้นที่ใช้สอย :  399 - 693 ตร.ม.
มีขนาดใกล้เคียงกับโครงการบ้านนวัต หลังใหญ่สุดมีขนาดที่ใหญ่กว่าและราคาแพงกว่า แต่ไม่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว รวมถึงมีจำนวนหลังที่เยอะกว่า แต่มีข้อเด่นคือส่วนกลางของบ้านที่กว้างและเป็นสัดส่วนมากกว่าโครงการบ้านนวัต

เนอวานา บียอนด์ ไลท์ พระราม 9

เจ้าของโครงการ : เนอวานา ดีเวลลอปเมนท์ ราคา : 17-30  ลบ. จำนวนหลัง :  156 หลัง พื้นที่ใช้สอย :  270 - 418 ตร.ม.
ตัวบ้านค่อนข้างใหญ่ และมีถึง 3 ชั้น จำนวนหลังค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับโครงการบ้านนวัต ทำให้ความเป็นส่วนตัวอาจน้อยกว่า อีกทั้งยังไม่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคาถูกกว่าและขนาดเล็กกว่า
.

เอกมัย-รามอินทรา

ย่านรามคำแหง 21 หรือที่เรียกกันว่า รามฯ21 ถือเป็นย่านที่มีความพลุกพล่าน และเต็มไปด้วยอาคารพักศัยเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ Facilities โดยรอบค่อนข้างครบครันพอสมควรและเข้าเมืองสะดวก
ในอนาคตบริเวณถ.รามคำแหงจะมีรฟฟ.สายสีส้มตัดผ่าน สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีรามคำแหง 12 ทำให้การเดินทางเข้าตัวเมืองเป็นไปอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และหากใช้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักก็สามารถทำได้โดยสะดวกเนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลง ทางด่วน และถ.พระราม 9

เดอะ เจนทริ พระราม 9

เจ้าของโครงการ : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ราคา : 27-50  ลบ. จำนวนหลัง :  13 หลัง พื้นที่ใช้สอย :  - ตร.ม.
มีการวางผังค่อนข้างใกล้เคียงกับโครงการบ้านนวัต มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคาใกล้เคียงกัน แต่มีจำนวนหลังที่มากกว่าเล็กน้อย

อาเทลล์ พัฒนาการ-ทองหล่อ

เจ้าของโครงการ : อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ราคา : เริ่มต้น 28  ลบ. จำนวนหลัง :  49 หลัง พื้นที่ใช้สอย :  395-450 ตร.ม.
มีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านนวัต เมื่อดูจากผังให้ความรู้สึกว่ากว้างกว่า ใช้งานพื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพกว่า จำนวนหลังมากกว่า อยู่ที่ 49 หลัง 

บ้านอิสสระ พระราม9

เจ้าของโครงการ : ชาญอิสสระ ราคา : เริ่มต้น 80-132  ลบ. จำนวนหลัง :  20 หลัง พื้นที่ใช้สอย :  700-842 ตร.ม.
โครงการนี้มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าบ้านนวัต และราคาสูงกว่า อาจเทียบกันได้ยากสักหน่อย แต่หากดูเรื่องการวางผังและสัดส่วนของพื้นที่ใช้งาน ถือว่าทำได้ลงตัว จำนวนหลังของบ้านมีมากกว่าเล็กน้อย
.

สรุปทุกประเด็นของโครงการบ้านนวัต

โครงการบ้านนวัต ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการทางเลือก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบ้านที่มีการออกแบบที่เรียบง่าย บริเวณโดยรอบสงบ และมีจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงานแบบครบวงจร ขนาดพื้นที่ใช้สอยถือว่าค่อนข้างเยอะ และเพียงพอต่อความต้องการของครอบครัวแบบขยาย เรื่องทำเลถือว่ากลางๆ หากเดินทางด้วยรถยนต์จะถือว่าสามารถเดินทางได้โดยสะดวกพอสมควร จากจุดขึ้นลงทางด่วนซึ่งอยู่ใกล้โครงการ 
เมื่อพิจารณาเรื่องราคา โครงการบ้านนวัต อาจมีราคาที่สูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งรอบๆ แต่หากเทียบเรื่องความ Private, จุดเด่นเรื่อง Eco Friendly และรูปแบบของบ้านที่ได้มา ก็ถือว่าอยู่ในราคาที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล เนื่องจากมีการใช้วัสดุที่ช่วยในการประหยัดพลังงานอยู่หลายจุดด้วยกัน โดยรวมเรียกได้ว่า เป็นบ้าน Green ที่เด่นเรื่องฟังก์ชั่น เหมาะกับครอบครัวแบบขยายที่มีกลุ่มอายุที่แตกต่างกันอาศัยอยู่ร่วมกัน
Content Creator
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

Condo Database  

Image Shortcut
Image Shortcut
ให้เราช่วยคุณหาคอนโดที่ใช่
REAL DATA รวบรวมคอนโดฯ ในกรุงเทพ นำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบครบถ้วน แผนที่ที่ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงมีราคาตลาด ยอดขายที่น่าเชื่อถือและบทความวิเคราะห์เชิงลึก ทั้งในเรื่องความน่าอยู่และน่าลงทุน

REAL DATA  

 (222)
 (318)
 (388)
 (29)
 (11)
 (4)
 (19)
 (199)
 (54)
 (29)
 (6)
 (5)
 (9)
 (51)
 (9)
 (34)
 (27)
 (9)
 (9)
 (181)
 (85)
 (110)
 (106)
 (41)
 (17)
 (45)
 (24)
 (41)
 (19)
 (18)
 (13)
 (36)
 (13)
youtube-icon instagram-icon line-icon tiktok-icon