เจาะแบรนด์บ้านหรู “นันทวัน” กับ 2 โครงการ บนทำเลน่าซื้อ
แน่นอนว่าถ้านึกถึงบ้านระดับ Luxury คนส่วนใหญ่ต้องมีนึกถึง Land & Houses ขึ้นมาอยู่ในตัวเลือกอันดับต้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าของ Developer เจ้าใหญ่นี้ มีหลายแบรนด์ หลายระดับราคาด้วยกัน สำหรับ 1 ในแบรนด์ที่คนรู้จักกันมานานและประสบความสำเร็จ คือ "นันทวัน" โดยปัจจุบันโครงการในแบรนด์นี้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของจุดเด่นที่ดีกว่าเดิมในหลายๆ เรื่องด้วยกัน
โดยในบทความนี้จะมาเจาะลึกความแตกต่างของ "นันทวัน" จากบ้านหรูแบรนด์อื่นๆ ของ L&H รวมไปถึงจะอธิบายเกี่ยวประเด็นต่างๆ ที่แบรนด์ "นันทวัน" ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีความต้องการบ้านหรูทั้งในแง่ของการออกแบบ ความเป็นอยู่ ความพร้อมของตัวบ้าน และทำเล ซึ่งประเด็นต่างๆ มีผลต่อการตัดสินใจของการซื้อบ้านมากเลยทีเดียว
แบรนด์ "นันทวัน" กับ 3 จุดเด่นหลัก
"นันทวัน" แบรนด์บ้านหรูของ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีความน่าสนใจอยู่ทั้งหมด 3 ประเด็นด้วยกัน อันได้แก่
- 1. ราคาเริ่มต้น 20 ลบ. เหมาะกับเศรษฐีรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นระดับราคาเริ่มต้นของกลุ่มแบรนด์บ้านเลยทีเดียว
- 2. ทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้เมืองและใกล้ทางด่วน โดยทุกโครงการของแบรนด์ "นันทวัน" อยู่ในทำเลที่มีการสัญจรเข้า-ออกเมืองได้สะดวกเป็นอย่างมาก
- 3. สไตล์การออกแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ว่าจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันของแต่ละโครงการ แต่ยังมีจุดร่วมในแง่ของความหรูหราและความโอ่อ่าที่แทรกไปในทุกๆ โครงการ
แบรนด์ "นันทวัน" ต่างจากแบรนด์อื่นในด้านไหน ?
แลนด์แอนด์เฮ้าส์เอง มีแบรนด์บ้านหรูอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน อย่างเช่น นันทวัน, VIVE และลดาวัลย์ เป็นต้น โดยแบรนด์ "นันทวัน" แตกต่างจากแบรนด์บ้านหรูอื่นๆ ด้วย 3 ประเด็นหลักด้วยกัน อันได้แก่
- 1. ราคาเริ่มต้น 20 ลบ. เหมาะกับเศรษฐีรุ่นใหม่ ซึ่งถ้าเทียบกับอีก 2 แบรนด์ทีเหลืออย่าง VIVE ที่มีราคาเริ่มต้นมากถึง 30 ลบ. และ ลดาวัลย์ ที่ราคาเริ่มต้นถึง 40 ลบ. เลยทีเดียว
- 2. ทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้เมืองและใกล้ทางด่วน โดยทุกโครงการของแบรนด์ "นันทวัน" อยู่ในทำเลที่มีการสัญจรเข้า-ออกเมืองได้สะดวกเป็นอย่างมาก
- 3. สไตล์การออกแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ว่าจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันของแต่ละโครงการ แต่ยังมีจุดร่วมในแง่ของความหรูหราและความโอ่อ่าที่แทรกไปในทุกๆ โครงการ
มาดู 4 ประเด็นที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย
4 แนวคิดของแบรนด์ "นันทวัน" ที่ทำให้เป็นแบรนด์บ้านหรูที่่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย ที่สุดของงาน Design, ความเป็นอยู่, การเตรียมความพร้อม และทำเล ที่ต้องเป็นที่สุดทั้ง 4 แนวคิดหลัก เพราะทั้ง 4 แนวคิดมีผลต่อการตัดสินใจ สำหรับการซื้อบ้านสำหรับเศรษฐีรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการซื้อบ้านจะซื้อไว้สำหรับอยู่อาศัยแล้ว ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของผู้เป็นเจ้าของว่าคุณคือใครและยังถือเป็นการลงทุนในเชิงอสังหาที่คุ้มค่า
1. ที่สุดของงาน Design
ในประเด็นที่ 1 ที่สุดของงาน Design มีทั้งหมด 3 ประเด็นย่อยที่น่าสนใจ ซึ่งประกอบไปด้วย
- 1) สไตล์ความหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ โดยความหรูหรามีอยู่หลากหลายรูปแบบที่แต่ละโครงการมีสไตล์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร
- 2) การออกแบบของตัวบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ในช่วงระหว่าง 280 - 570 ตร.ม.
- 3) ฟังก์ชั่นในตัวบ้านที่มีมากถึง 4 - 5 ห้องนอน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานจากการออกแบบที่มีประสิทธิภาพ
- การออกแบบ
- จากโครงการบ้านหรูในแบรนด์ "นันทวัน" ทั้ง 2 โครงการ ที่มีสไตล์การออกแบบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยนันทวัน รามอินทรา - พหลโยธิน 50 เป็นการออกแบบ Tuscany Style ซึ่งเป็นความหรูหราสไตล์ยุโรปแบบคลาสสิคที่มีความน่าสนใจไม่น้อย และ นันทวัน พระราม 9 - ศรีนครินทร์ เป็นการออกแบบ Minimalist Style ซึ่งเป็นสไตล์ความเรียบหรู ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และ World Trend ในปัจจุบัน
- พื้นที่และฟังก์ชั่นการใช้งาน
- "นันทวัน" ทั้ง 2 โครงการ เน้นที่ดินและพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านที่มีขนาดใหญ่ โดยนันทวัน รามอินทรา-พหลโยธิน 50 มีที่ดินขนาด 85 - 235 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 278 - 403 ตร.วา และนันทวัน พระราม 9 - ศรีนครินทร์ มีที่ดินขนาด 102-170 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 380-573 ตร.ม.
2. ที่สุดของความเป็นอยู่
ประเด็นที่ 2 ที่สุดของความเป็นอยู่ ทั้งในแง่ของพื้นที่ส่วนกลาง ที่จะมาขยายความในเชิงการออกแบบ ฟังก์ชั่น รวมถึงขนาดของพื้นที่ ตามด้วยระบบความปลอดภัยของโครงการที่มีมาตรการ 3 ระดับ ซึ่งจะอธิบายรูปแบบมาตรการต่างๆ ที่ทำให้ลูกบ้านอยู่แล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้น จะมีอะไรบ้าง เราจะอธิบายให้อ่านกันครับ
- พื้นที่ส่วนกลาง
- มีทั้งหมด 4 ประเด็นย่อยที่เป็นจุดเด่นของส่วนกลาง ประกอบไปด้วย
- (1) สวนส่วนกลางให้ทั้งความร่มรื่น และโอ่อ่า
- (2) สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือ ที่มีความยาวถึง 25 ม. อีกทั้งยังแยกสระว่ายน้ำเด็ก และสระว่ายน้ำผู้ใหญ่ไว้อย่างชัดเจน
- (3) ฟอร์มสถาปัตยกรรมที่เน้นความสง่างาม ดู Grand ซึ่งสไตล์การออกแบบมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
- (4) พื้นที่ห้อง Lounge และห้อง Fitness ที่อยู่ใน Clubhouse มีพื้นที่กว้างขวาง และอุปกรณ์รองรับที่ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกคนในครอบครัว
- ความปลอดภัยและการวางระบบในโครงการ
- (1) ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Security System โดย ตรวจสอบผู้มาเยือน แลกบัตรพร้อมบันทึกข้อมูลด้วยกล้อง CCTV ป้อมหน้า รปภ. โดยติดตาม ผู้มาเยือนไปยังปลายทางที่ถูกต้อง พร้อมมีการตรวจตราทุกๆ 1 ชม.ภายในโครงการเพื่อความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
- (2) ระบบสายไฟฟ้าในโครงการ วางระบบสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการเพื่อเปิดทัศนียภาพกว้างไกลไร้สิ่งรบกวน
3. ที่สุดของความพร้อม
ในเรื่องที่สุดของความพร้อม จะกล่าวถึงบ้านที่เป็นแบบ Built - In ว่ามีความพร้อมอยู่ในระดับไหน และ ระบบต่างๆ ภายในบ้านที่ตอบโจทย์การใช้งานและความปลอดภัยภายในบ้าน ด้วยเทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้ระบบภายในดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น
- งานติดตั้ง
- งาน Built - In ที่มากับตัวบ้านในโครงการ ประกอบไปด้วย Built - In Walk - In closet, Built - In Furniture ในห้องน้ำ และ Built - In Pantry ครัวไทย
- ระบบของตัวบ้าน
- ที่เน้นในเรื่องของระบบความปลอดภัยจากเทคโนโลยี Motion Sensor, Magnetic Sensor และ Heat Detector รวมไปถึงยังมีระบบรองรับการชาร์ตแบตของรถยนต์ไฟฟ้า ที่มี EV - Charger ที่ติดตั้งให้ในบ้านเช่นเดียวกัน
4. ที่สุดของทำเล
โดยรวมแล้วในแง่ของทำเลบ้านหรูแบรนด์ "นันทวัน" ทุกโครงการมีจุดที่น่าสนใจอยู่ทั้งหมด 3 ประเด็นด้วยกัน อันได้แก่
- (1) ทำเลโครงการต้องอยู่ติดถนน เพื่อความสะดวกในการสัญจร
- (2) ทำเลโครงการต้องอยู่ใกล้กับทางด่วน ที่พร้อมเชื่อมต่อทุกการเดินทางได้โดยง่าย
- (3) โครงการต้องอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
- นันทวัน รามอินทรา - พหลโยธิน 50
- โครงการอยู่บนถนนเทพรักษ์ซึ่งเชื่อมต่อจากถนนพหลโยธินจนถึงถนนสุขาภิบาล และในอนาคตถนนเทพรักษ์ จะสามารถเชื่อมต่อไปถึงถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ต่อมาในแง่ของสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณโดยรอบของโครงการมีศูนย์การค้า, โรงเรียน และสถานพยาบาลที่ครบครัน
- นันทวัน พระราม 9 - ศรีนครินทร์
- โครงการอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑาซึ่งสามารถเชื่อมต่อจากถนนรามคำแหง, ถนนศรีนครินทร์ และถนนมอเตอร์เวย์ซึ่งทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลายเส้นทาง รวมไปถึงบริเวณโดยรอบของโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายเช่นกัน
