อัพเดทข่าว รถไฟความเร็วสูง 2561
ย้อนข่าวเล่าความ ที่มาที่ไปโครงการรถไฟความเร็วสูง
. 2535 - รัฐบาลของนายชวน หลีกภัย เริ่มมีการศึกษาระบบโดยเริ่มต้นที่สายกรุงเทพ – สนามบินหนองงูเห่า – ระยอง โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดทางให้ต่างประเทศศึกษาแนวเส้นทาง ซึ่งมีสองประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนคือ ประเทศจีน และ ประเทศญี่ปุ่น โดยจีนสนใจในเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย และญี่ปุ่นสนใจในเส้นทางกทม-เชียงใหม่ ซึ่งจีนในตอนนั้นมีแผนจะพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้ประเทศลาวโดยจะสามารถเชื่อมต่อเส้นทางลาวกับไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ด้วย แต่จีนกับลาวเกิดความขัดแย้งกันเสียก่อน ทำให้โครงการของไทยต้องชะงักลงไปด้วย 2540 - ประเทศไทยฟองสบู่แตกเพราะเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง โครงการจึงต้องหยุดชะงักไป 2553 - รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ริเริ่มโครงการอีกครั้งโดยการประชุมร่วมรัฐสภาและได้ลงมติเห็นชอบกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีแผนจะมีพัฒนาเส้นทางร่วมกันคือ 1.เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง 3. เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ 4.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และ 5.เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี 2556 - รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ยกร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ จำนวน 2 ล้านล้านบาท สำหรับใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นหนึ่งในโครงการที่ถูกบรรจุอยู่ในเนื้อหาของพรบ. ซึ่งพ.ร.บ. ได้ผ่านรัฐสภาในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการออกพ.ร.บ.นี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเกิดการชุมนุมของกลุ่มกปปส.จึงทำให้รัฐบาลประกาศยุบสภาในเดือนเดียวกัน และทำให้โครงการทั้งหมดล่าช้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด 2557 ถึง ปัจจุบัน - รัฐบาล คสช ได้นำเอาโครงการนี้มาสานต่อเป็นนโยบายของตน โดยยังคงติดต่อกับสองประเทศเป็นหลักคือ จีนและญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นรับผิดชอบสายเหนือไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ และจีนรับผิดชอบสายอีสานไปถึงจังหวัดหนองคาย และรัฐบาลได้ใช้มาตรา 44 กับโครงการนี้ โดยยกเว้นกฎหมายวิศวะ-สถาปนิกให้คนของจีนไม่ต้องมาสอบใบอนุญาตก่อนปฎิบัติงาน และยกเว้นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทุจริต โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล .เปรียบเทียบนโยบายโครงการรถไฟความเร็วสูงของทั้งสองยุค
Info : voicetv.co.th .ความคืบหน้า รถไฟความเร็วสูงทั้ง 4 เส้นทาง (2561)
.
1. กทม - นครราชสีมา (ร่วมมือกับประเทศจีน)
โครงการระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา
1.1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม.ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว 1.2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. ฝ่ายจีนจะส่งแบบรายละเอียดฉบับสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม ฝ่ายไทยจะตรวจแบบ จัดทำราคากลาง และจัดทำ TOR ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกระบวนการประกวดราคาในเดือนพฤษภาคม 2561 1.3 ช่วงมวกเหล็ก-ลำตะคอง (อุโมงค์) จีนจะนำส่งร่างแบบรายละเอียดในเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะส่งแบบรายละเอียดฉบับสมบูรณ์ในเดือนเมษายน 2561 และจัดทำ TOR ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกระบวนการประกวดราคาในเดือนมิถุนายน 2561 1.4 ช่วงแก่งคอย-บันไดม้า-โคกกรวด-ลำตะคอง-โคราช ฝ่ายจีนจะส่งร่างแบบรายละเอียดในเดือนเมษายน หลังจากนั้นจะตรวจสอบแบบต่อไป โดยคาดว่าจะส่งแบบรายละเอียดฉบับสมบูรณ์ได้ในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน 2561 หลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการในการจัดทำราคากลางก่อนจะเริ่มการประกวดราคาในเดือนกรกฎาคม 2561 1.5 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง- นวนคร-บ้านโพธิ์-พระแก้ว-สระบุรี-แก่งคอย-เชียงรายน้อย ซึ่งฝ่ายจีนจะส่งร่างแบบรายละอียดในเดือนมิถุนายน 2561 และฝ่ายไทยจะได้ตรวจสอบร่างแบบดังกล่าวซึ่งคาดว่าฝ่ายจีนจะได้ส่งแบบรายละเอียดในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 จัดทำราคากลางและเริ่มการประกวดราคาในเดือนกันยายน 2561 .โครงการระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย
1.6 ฝ่ายไทยจะได้ทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2561 เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน 2561 หลังจากนั้นจะได้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบรายละเอียดในเดือนมิถุนายน และจะออกแบบรายละเอียดประมาณ 10 เดือน ก่อนดำเนินการประกวดราคาในราวไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ต่อไปupdate : 9 ก.พ. 61 Info : prachachat.net
.2. กทม - เชียงใหม่ (ร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น)
โครงการระยะที่ 1 และ 2 กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กิโลเมตร
2.1 ไทย ยื่นข้อเสนอให้ญี่ปุ่นลงทุนรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ – เชียงใหม่ แต่ญี่ปุ่นยืนยันให้เพียงเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเท่านั้น โดยผลการศึกษาของญี่ปุ่น ระบุว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่ มีมูลค่าประมาณ 4.2 แสนล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสนอให้ลดความเร็วของรถไฟเหลือ 180 – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อลดต้นทุน แต่จากการศึกษาพบว่า การลดความเร็วรถไฟไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน 2.2 กระทรวงคมนาคมยืนยันว่า จะยังคงใช้ระบบและเทคโนโลยีของรถไฟความเร็วสูงชินคันเซนที่ความเร็ว 300 กม./ชม. ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น หากความเร็วต่ำกว่านี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะเลือกใช้การเดินทางรูปแบบอื่น และหากเป็นรถไฟความเร็วสูง ควรมีระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร ถึงประมาณ 749 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ จากประสบการณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินงานรถไฟหัวกระสุนมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 พบว่าชินคันเซ็นจะสูญเสียผู้โดยสารไปให้การเดินทางด้วยเครื่องบิน เมื่อเส้นทางนั้นต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่าสามชั่วโมง ซึ่งแม้กระทั่งด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ก็อาจต้องใช้เวลานานถึงราวๆ สามชั่วโมงครึ่ง2.3 เรื่องการลดสถานี ในการหารือครั้งล่าสุด ญี่ปุ่นปฏิเสธการยกเลิกสถานีกลางทางเพื่อลดต้นทุน เพราะจะทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบสถานีที่ถูกยกเลิกนั้นต้องเสียประโยชน์ในหลายด้าน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ยังยากต่อการตัดสิน เพราะยังต้องหารือกับกระทรวงการคลังต่อไป
update : 9 ก.พ. 61 info : workpointnews.com .